ตอนที่ 3
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ชัชวาลนั่งคุยรายละเอียดกับแพทย์อย่างอารมณ์ดีเพราะวันนี้นพพาเขามาแวะตรวจสุขภาพประจำปีซึ่งผลตรวจที่ออกมาอยู่ในเกณฑ์ปกติทุกอย่าง
“งั้นผมลาละครับหมอ”
“ครับคุณชัชวาล” นายแพทย์รับไหว้
ชัชวาลเดินออกมาจากห้องตรวจก็มองหานพทันที ก่อนจะเหลือบไปเห็นลูกน้องคนสนิทนั่งคุยอยู่กับใครบางคนอย่างสนิทสนม เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างที่รู้สึกคุ้นเคย
“ตรวจเสร็จแล้วเหรอครับท่าน” นพสบตาเข้ากับเขาพอดีก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยเรียกเสียอีก
“อืม แกจะกลับหรือยัง” เขาถามพลางชี้ไปที่คู่สนทนาของนพ พออีกฝ่ายหันมาก็ยกมือไหว้เขาทันที
“สวัสดีครับท่าน”
“อ้าว? สวัสดี ๆ พาใครมาหาหมอเหรอสมคิด”
‘สมคิด’ อดีตเป็นคนสวนในคฤหาสน์ของชัชวาลมาก่อน ในช่วงเวลาที่ภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่ สมคิดเป็นคนสวนที่ทำงานดีและซื่อสัตย์มากจนต่อมายื่นลาออกเพราะร่างกายไม่แข็งแรง สู้แดดสู้ลมไม่ได้ ทำงานไม่คล่องตัวเหมือนอย่างเคย
“ผมมาตามนัดหมอน่ะครับคุณชัช ช่วงนี้รู้สึกปวดท้องบ่อยเหลือเกิน”
“ปวดท้องเหรอ หมอว่าไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรมากหรอกครับ แค่ต้องมาติดตามอาการบ่อย ๆ มารับยาไปทานน่ะครับ” สมคิดตอบติดตลก ทว่าร่างกายของเขาดูทรุดโทรมจนชัชวาลสังเกตได้
“ไม่เป็นไรแน่นะ ถ้ามีอะไรก็ขอความช่วยเหลือจากฉันได้คนกันเองทั้งนั้น” ชัชวาลตบไหล่ของอดีตลูกน้องเบา ๆ ด้วยความเห็นใจ
“ป๊าครับ”
เสียงเข้มดังมาจากทางด้านหลังจนทุกคนต้องหันกลับไปมอง คนตรงหน้าหน่วยก้านดีใช้ได้ รูปร่างสูงโปร่ง ดวงตาคมเข้มมองผู้เป็นพ่อด้วยความเป็นห่วง ในมือของเขาถือน้ำผลไม้มาด้วย
“มาแล้วเหรอดิว มานี่ป๊าจะแนะนำเจ้านายเก่าให้รู้จักไว้”
ชายหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็รีบยกมือไหว้นพและชัชวาลทันที เขาอมยิ้มมองลูกชายของสมคิดอย่างเอ็นดู ถ้าพีชรู้จักมีสัมมาคารวะแบบนี้บ้างคนเป็นพ่อแบบเขาคงจะนอนตายตาหลับ
“ไหว้พระเถอะ” ชัชวาลเอ่ยขึ้น
สมคิดแนะนำลูกชายคนเดียวให้เขารู้จักด้วยความภูมิใจ บอกว่าเพราะลูกชายคนนี้แหละอาการป่วยของเขาถึงไม่ได้ทรุดลงอย่างหนัก ‘ดิว’ หมั่นดูแลเอาใจใส่เขา แม้ว่าชายหนุ่มจะมีอายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันได้เที่ยวเล่นสุขสบาย ดิวยังคงต้องเรียน ทำงานหารายได้เสริมและดูแลสมคิดไปด้วย
“แต่ช่วงนี้ดิวเขาเรียนหนัก ไม่รู้ว่าผมจะส่งเสียไหวไหมร่างกายก็ป่วยแบบนี้จนดิวเขาจะต้องไปทำงานเสริม” เขาก้มหน้างุดด้วยความเสียใจ
“ไม่ต้องโทษตัวเองหรอก เรื่องของสุขภาพร่างกายมันก็ถดถอยไปตามเวลาน่าสมคิด ว่าแต่ว่าเรียนอะไรอยู่ล่ะดิว”
“ผมเรียนวิศวะครับคุณลุง”
“เก่งนะเราสอบติดเองใช่ไหม”
“ครับ” ดิวตอบกลับอย่างนอบน้อม
“เขาเรียนเก่งมากเลยล่ะครับคุณชัชลูกชายผมเนี่ย ผมภูมิใจในตัวเขามากจริง ๆ”
ชัชวาลยิ้มตอบพลางมองคนตัวสูงอย่างดิว หากว่าลูกชายเขาได้ดิวเป็นครูสอนพิเศษก็อาจจะสอบติดมหาวิทยาลัยได้เช่นเดียวกัน
“ที่บ้านฉันกำลังหาคนสอนพิเศษให้เจ้าพีชอยู่พอดีเลย ดิวสนใจไหมล่ะ ฉันจ่ายค่าเทอมให้ได้นะขอแค่ทำยังไงก็ได้ให้พีชสอบติดมหาลัยเหมือนกับเธอ”
“…” ดิวนิ่งเงียบไปสักพัก เขารู้จักพีชผ่าน ๆ อยู่บ้างชื่อเสียงของพีชนั้นไม่ค่อยจะดี เขาได้ยินมาปากต่อปากว่าทั้งเกเรและดื้อรั้น ชายหนุ่มรู้ดีว่าเจ้านายของป๊าเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่และยังเป็นพ่อของพีชด้วย
“ลูกชายฉันน่ะมันสบายจนเคยตัว อะไรที่ต้องใช้ความขยันอดทน มันไม่ทำ ไม่เอาไหนสักอย่าง อยากจะให้ช่วยควบคุมพีชให้ได้เรียนต่อก็พอแล้ว อย่างอื่นฉันไม่คาดหวังหรอก” ชัชวาลถอนหายใจ
“จริงเหรอครับคุณชัช! จ้างดิวได้เหรอครับ” สมคิดดีใจมากที่ลูกจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก ชัชวาลเป็นคนใจกว้างและไม่เอาเปรียบลูกน้องมากนัก
“จริงสิ ว่าไงล่ะดิวอยากจะทำงานให้ฉันหรือเปล่า?”
“คุณพีชน่ารักพูดง่ายอยู่นะครับ ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณพีชชอบอ้อนคุณนายเอามาก ๆ ช่วงนี้อาจจะเป็นนิสัยของเด็กวัยรุ่นทั่วไปหรือเปล่าครับคุณชัช”
สมคิดจำได้ดีว่าพีชเป็นเด็กที่น่ารัก พูดจาฉะฉานน่าเอ็นดู หากจะกล่าวว่าไม่เอาไหนมันก็น่าเหลือเชื่ออยู่
“นั่นมันตอนนั้น ตอนนี้น่ะเหรอฉันพูดอะไรได้ที่ไหน คงมีแต่แม่เขาเท่านั้นแหละที่ปราบพีชได้” ชัชวาลบ่นอุบพร้อมกับส่ายหน้าไปมาก่อนจะยิ้มหวานให้กับดิวที่ส่องสว่างราวกับเพชรเม็ดงาม
“ตอบตกลงไปสิดิว” สมคิดสะกิดเบา ๆ
“ไม่เป็นไรดีกว่าครับคุณลุง ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้น สอนพีชไม่ได้หรอกครับ” ถึงเขาจะโดนป๊าสะกิดอยู่ข้าง ๆ ทว่ากลับตอบออกไปอย่างมั่นใจ
ชัชวาลหุบยิ้มลงด้วยความไม่คาดคิด ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายติดปัญหาอะไรถึงได้ปฏิเสธ สมคิดเองก็มองลูกชายอย่างตำหนิเบา ๆ
“ไม่เป็นไรถ้าอยากทำงานเมื่อไหร่ เปลี่ยนใจก็โทรมาหาฉันได้ เรื่องแบบนี้จะมาตัดสินใจปุ๊บปั๊บได้ยังไง” ชัชวาลปลอบใจก่อนจะเหลือบมองลูกน้องคนสนิท
นพยื่นนามบัตรให้กับดิวทันทีก่อนจะขอตัวกลับก่อน “ไว้ติดต่อมาถ้าคิดเปลี่ยนใจนะครับ ผมและคุณชัชวาลขอตัวก่อนพอดีว่าท่านมีงานต่อนะครับ”
“อ๋อ สวัสดีครับคุณชัช ผมขอบคุณจริง ๆ สำหรับโอกาสนะครับ” สมคิดกล่าว
ชัชวาลไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมาเท่านั้น น่าเสียดายที่เด็กชายตรงหน้าไม่เลือกงานสบายแบบนี้ ดีกว่าไป ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เขาเหลือบมองดิวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป
“ทำไมถึงไม่ตบปากรับคำคุณชัชวาลล่ะดิว โอกาสแบบนี้ไม่ได้หากันง่าย ๆ นะ” ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรผู้เป็นบิดา เขาถอนหายใจเล็กน้อยขณะเข็นรถนั่งให้สมคิด
‘ใครจะอยากไปสอนเด็กมีปัญหาแบบพีชกันล่ะ ดีไม่ดีจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้กันอีกสิไม่ว่า’ ดิวคิดในใจ
