ตอนที่ 2
โถงห้องกว้างจัดวางด้วยเก้าอี้เหล็กยาวทอดออกไปมีนักเรียนม.ปลายถูกใส่กุญแจมือและพาตัวเข้าห้องขังชั่วคราวเพื่อรอการติดต่อจากญาติ นพจึงรีบเข้ามาเจรจากับตำรวจ
“มาติดต่ออะไร” เจ้าหน้าที่เอ่ยปากถามผู้มาเยือนคนใหม่ที่สวมใส่สูทดูมีฐานะ
“สวัสดีครับคุณตำรวจ ผมเป็นตัวแทนผู้ปกครองของพีชครับ” นพเอ่ยอย่างสุภาพ
“อ๋อ เชิญนั่งทางนี้ก่อน”
นพนั่งลงหน้าเคาน์เตอร์ของตำรวจนายหนึ่งตามคำเชิญเจ้าหน้าที่ เขาถือกระเป๋าหนังใบใหญ่ก่อนจะเข้าเรื่องทันที
“ตอนนี้พีชอยู่ห้องขังนะครับ ถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่า คุณรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหม”
“ทราบครับ ผมมาเพื่อขอประกันตัว”
“สามแสนครับ” ตำรวจเอ่ยเสียงเรียบอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“ที่จริงไม่ถึงกับต้องให้ข้อหาพยายามฆ่าเลยนะครับคุณตำรวจ แค่เด็กวัยรุ่นชกต่อยกันธรรมดา” นพต่อรอง
“ญาติฝั่งผู้ได้รับบาดเจ็บแจ้งความครับ แล้วอีกอย่างฝั่งนั้นก็ยังไม่ฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล”
“ถึงจะนอนโรงพยาบาลก็ควรจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บก็พอไม่ใช่เหรอครับคุณตำรวจ”
“ต้องลองเจรจากับญาติฝั่งนั้นดูก่อน คุณสะดวกไหมครับ”
นพถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะควักเงินสดออกมาจากกระเป๋าหนังจำนวนสามแสนบาท
“งั้นจ่ายจบที่ราคานี้นะครับ”
เขาวางกระแทกเงินสดลงเสียงดังปึก! หลังจากนั้นจึงออกไปเจรจากับนักข่าวที่กำลังแห่มารอที่หน้าโรงพัก กว่าจะจบข่าวทุกอย่างให้เงียบสนิทเขาต้องยัดเงินสดไปเกือบจะถึงสองล้านให้เป็นสินน้ำใจแก่นักข่าวทุกช่องทางที่อุตส่าห์สนใจเรื่องของลูกชายหัวหน้าพรรคการเมือง
คฤหาสน์หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่
“ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเรียกค่าประกันแพงขนาดนั้น แค่เด็กวัยรุ่นตีกัน คุณพีชเองก็ได้รับบาดเจ็บพอ ๆ กันนะครับท่าน” นพเล่าเหตุการณ์ที่รู้มาให้ชัชวาลฟังพร้อมกับบ่นอุบอิบถึงเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลแต่ชัชวาลก็ไม่ถือสาเอาความ
“ช่างมันเถอะนพ แล้วนักข่าวว่ายังไงบ้าง”
“แจ้งความกลับก็ได้นะครับผมจะไปจัดการให้ ทางนักข่าวดื้อด้านจะทำข่าวกันอย่างเดียวเลย ผมจึงเสนอให้ที่หนึ่งแสนบาท”
“เออน่า ฉันไม่อยากมีปัญหาจะกี่บาทก็จ่ายไปเถอะ” ชัชวาลปวดหัวเหลือเกิน ถ้าเรื่องของลูกชายตัวดีรั่วไหลออกไปใครหน้าไหนจะมาเชื่อถือเขาได้อีก
“ก็เป็นโชคดีไปนะครับ ดีที่นักข่าวรับเงินของเราไปทุกคนและลบรูปของพีชออกไปหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ แน่”
“แกกลับไปพักผ่อนเถอะ เรื่องนี้ฉันจะต้องจัดการชั้นเด็ดขาดสักที!”
ชายวัยกลางคนโมโหมากสั่งลูกน้องจบก็ลุกขึ้นจากโซฟาหรู เขาตรงไปยังห้องของลูกชายก่อนจะเคาะประตูเรียกลูกชาย
ก๊อก... ก๊อก...
“พีช!”
“…”
ชัชวาลเอ่ยเรียกเสียงเรียบอย่างเบื่อหน่าย แต่แล้วก็เงียบไร้การตอบรับใด ๆ จนเขาต้องทุบประตูเสียงดังลั่น
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
“ไอ้พีช!!”
พีชเปิดประตูออกมา ชุดนักเรียนสีขาวของเขาถูกย้อมเต็มไปด้วยเลือดพลางมองผู้เป็นพ่อด้วยเกลียดชัง
“มีอะไรอีก”
“พ่อเคยบอกแกแล้วใช่ไหมว่าให้เลิกสร้างความเดือดร้อนถ้าใครเขารู้เข้าเราอายกันทั้งตระกูลเลยนะพีช!”
“รู้แล้วน่า” เขาพูดก่อนจะทำท่าปิดประตูใส่คนเป็นพ่อด้วยความเบื่อเต็มทน ชัชวาลดันประตูเข้าไปในห้องก่อนจะชี้หน้าสั่งเขาคำขาด
“ถ้าแกยังทำตัวเหลวแหลกแบบนี้อยู่ฉันจะยึดบัตรเครดิต เงินเดือนและเงินพิเศษ รถที่แกขับอยู่ก็ไม่ต้องใช้!!”
“…”
“กลับไปตั้งใจเรียนซะพีช ฉันจะหาคนมาสอนพิเศษให้แกได้สอบติดมหาวิทยาลัย ถ้าแกอยากจะมีชีวิตที่ดีก็อย่าคิดจะสร้างปัญหาให้ฉัน!”
ชายวัยกลางคนกัดฟันกรอดสั่งสอนลูกชายคนหัวสั่นด้วยความโกรธ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยตักเตือน แต่ต่อให้เขาจะพูดดีด้วยหรือด่าทอพีชก็ไม่มีทีท่าจะทำตามเขาเลยสักครั้ง
“...” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูงแทนคำตอบก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียงนอนอย่างไม่สำนึก
“ตั้งแต่ที่แม่แกเสียไป แกเคยทำประโยชน์อะไรให้พ่อได้ภูมิใจบ้างไหม!” พีชถลึงตาโตใส่ผู้เป็นพ่อเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ พ่อไม่มีสิทธิ์จะมาพูดถึงแม่ของเขาไม่ว่าจะเรื่องอะไรทั้งสิ้น! มือหนากำปั้นแน่นด้วยความอดทน
“…”
“แกจะต้องสอบติดมหาลัยให้ได้ จำใส่กะโหลกของแกเอาไว้!!” ชัชวาลด่าทอเขาอย่างหัวเสียจบก็เดินหนีออกจากห้องไป
‘ไม่มีทาง’ ชายหนุ่มคิดในใจ
ประตูห้องถูกปิดลงเสียงดังกึกก้องจากฝีมือของบิดา ทว่าพีชกลับไม่ได้สนใจตลอดทุกคำพูดเขาเพียงแค่จ้องมองพ่อด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรก็เท่านั้น พีชไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เขาไม่มีวันทำตามใจพ่อแน่ ชายหนุ่มสะใจทุกครั้งที่ตาแก่นั่นทุกข์ร้อนใจ
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน... อะไรที่พ่อไม่มีความสุขเขาจะทำมันให้หมดทุกอย่าง!
