ตอนที่ 1
ผัวะ!
เสียงหมัดดังก้องชัดเจนจากแรงหนัก ๆ ของเด็กชายม.ปลาย เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความโมโห ข้างแก้มของเขาเกิดรอยเลือดช้ำในเล็ก ๆ
“มึงเก่งใช่ไหม!” ชายหนุ่มถามพลางกัดฟันกรอด
ปั้ก!
กำปั้นแน่นชกเข้าข้างสีแก้มของอีกฝ่ายอีกครั้ง หลังจากที่มันโดนเขาสวนหมัดจนเสียหลักล้มลง เขานั่งคร่อมบนร่างผอมแห้งตรงหน้าก่อนจะแจกหมัดแน่น ๆ กระแทกใส่ไม่ยั้งเพราะความแค้น มันกล้าดียังไงถึงแอบต่อยเขาทีเผลอ!
“เพื่อนมึงอยู่ไหน!”
“อั่ก!” อริต่างสถาบันนอนนิ่ง ริมฝีปากถูกเจิมด้วยเลือดสีแดงสด ทว่าก็ไม่ได้ยอมแพ้ ชั่วอึดใจอริของเขาก็พลิกตัวกลับนั่งคร่อมเขาบ้าง
“ไม่ต้องถึงมือเพื่อนกูหรอกไอ้พีช!”
“เฮ้ย!! ทำอะไรกันน่ะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้!”
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ ‘พีช’ เกือบจะได้อีกแผล มีคนแจ้งตำรวจเข้ามาขวางเสียก่อนศัตรูต่างโรงเรียนที่เขาบาดหมางกันมาตลอดหลายปีจึงรีบลุกขึ้นตะเกียกตะกายหนี
อาคารประชาธิปไตย ชั้น 18
“อะไรนะ!! พีชถูกจับอีกแล้วเหรอ”
‘ชัชวาล’ หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ผู้เป็นพ่อของเขาเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย ลูกชายคนเดียวของเขาสร้างเรื่องราวให้ปวดหัวได้ไม่เว้นแต่ละวัน
“พีชถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่าน่ะครับ” ลูกน้องอธิบาย
‘นพ’ ลูกน้องคนสนิทของชัชวาลเพิ่งจะรับเรื่องมาจากตำรวจอีกที คู่กรณีน่วมพอสมควรจนถึงขนาดสลบระหว่างพาตัวไปโรงพัก
“ถามตำรวจไปสิจะเอาเงินประกันตัวเท่าไหร่” ชัชวาลกุมขมับด้วยความโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
ปัง!!
ชัชวาลทุบโต๊ะทำงานเสียงดังลั่นด้วยกำปั้นที่สั่นเทา ทุกครั้งที่ลูกชายเขามีเรื่องมันไม่ได้จบแค่ไปประกันตัว แต่มันส่งผลกระทบไปถึงชื่อเสียงของเขาด้วย!
“แกไปเอาตัวพีชกลับมา เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที!”
“ครับคุณชัชวาล”
ย้อนกลับไปตอนที่พีชยังเป็นเด็ก เขาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวที่อบอุ่น ถึงบ้านเขาจะไม่ได้รวยมากแต่เขาก็มีความสุข ชายหนุ่มเป็นเด็กที่ติดแม่มาก นอกจากเธอจะสวยแล้วยังใจดีกับเขาอีกด้วย ทุกครั้งที่ถึงวันเกิดแม่มักจะอ้อนพ่อให้พาเขาไปเที่ยวพร้อมกับเซอร์ไพรส์วันเกิดเป็นของขวัญกล่องใหญ่เสมอ ทว่าทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป…
ชัชวาลตัดสินใจเข้าร่วมการเมืองเพื่อหวังจะได้มีเงินทองมากมายให้ครอบครัวได้ใช้สอย พ่อของเขาได้ก่อตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาและจัดสรรเข้ารับการเลือกตั้ง วันแล้ววันเล่าชัชวาลทำงานอย่างหนักไม่มีเวลาสนใจครอบครัวเลย
“แม่! ผมว่าเราไปหาหมอกันเถอะนะครับ” พีชมองคนตัวเล็กที่นอนซมด้วยพิษไข้มานาน ใบหน้าของเธอซีดเซียวและดูอ่อนแรงมาก ๆ แถมยังอาเจียนออกมาเป็นเลือด
“ไม่เป็นไรหรอกพีช แม่นอนพักเดี๋ยวเดียวก็หาย” แม่ยิ้มอ่อนให้กับเขา
“พีชจะโทรหาพ่อเดี๋ยวนี้! แม่ต้องไปโรงพยาบาล”
เขานั่งอยู่ข้างเตียงนอนแม่ มือหนากำลังเลื่อนหาเบอร์ของชัชวาล ชายหนุ่มยังไม่ทันได้ยกโทรศัพท์แนบหูแม่ก็ห้ามเอาไว้ซะก่อน
“ไม่ต้องพีช พ่อทำงาน”
“พ่อจะทำงานอย่างเดียวเลยเหรอครับแม่ แล้วเราล่ะ!?” แม่ของเขายิ้มอ่อน เธอลูบไหล่เขาเบา ๆ แทนคำปลอบใจ
เป็นแบบนี้ไปเสียทุกครั้งจนกระทั่งวันหนึ่งที่พีชกลับมาถึงบ้านแล้วเห็นลูกน้องของพ่อกำลังจัดพวงหรีด ด้านหน้าเป็นกรอบรูปของแม่ที่ยิ้มสดใสเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาตลอด
“ทำไมอานพถึงเอารูปแม่มาตั้งไว้ตรงนี้ล่ะครับ” เขาพูดเสียงสั่นก่อนจะหยิบกรอบรูปแม่ออกมาจากหน้าโลงศพ ทั้งที่ชายหนุ่มรู้ดีอยู่แท้ ๆ ว่านี่คือ งานศพของแม่ ทว่าเขากลับเลือกที่จะหลอกตัวเอง
“อย่าทำแบบนี้คุณพีช เอารูปไปวางที่เดิมเถอะครับ” นพยื้อแย่งกรอบรูปกับเขาอยู่นานก่อนที่เจ้าตัวจะยอมปล่อยและแอบไปร้องไห้อยู่ตามลำพัง
พีชร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนและเก็บตัวอยู่ในห้องจนถึงวันเผาศพ เขานั่งเงียบสงบต่อหน้าแขกและญาติทุกคน ไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยดให้เห็น ทว่าเมื่อกลับถึงห้องชายหนุ่มทรุดนั่งลงกับพื้น น้ำตาผู้ชายไหลออกมาไม่หยุด เขาเสียใจมาก ๆ ที่แม่ต้องมาป่วยตายแบบนี้ พีชเอาแต่โทษตัวเองซ้ำ ๆ ถ้าวันนั้นเขาไม่ไปเรียนล่ะก็… แม่ก็คงจะไม่ตาย
“พีชคิดถึงแม่แล้วนะครับ ไม่กลับมาหาพีชบ้างเลยเหรอ” เช้าวันใหม่เขานั่งมองรูปภาพของแม่อย่างเหม่อลอย นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มดูเหนื่อยล้าไม่ต่างจากทุกวัน เขาทั้งเย็นชาและไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนชัชวาลหนักใจ
โรงเรียนมัธยมชายล้วน
ชายหนุ่มนั่งมองรูปแม่ขนาดสองนิ้วด้วยความคิดถึง ตอนนี้คนบนฟ้าจะรับรู้ไหมว่าเขาคิดถึงรอยยิ้มสดใสของแม่มาก ๆ
“พีช”
เขาสะดุ้งตามเสียงเรียกเล็กน้อย เพื่อนสะกิดเขาเบา ๆ ก่อนจะขยิบตาให้
“อะไร?”
“โดดเรียนไปเที่ยวกับพวกกูไหม”
“เที่ยวไหน” ชายหนุ่มคว่ำรูปของแม่ลงไม่ให้เพื่อนเห็น
“เดี๋ยวก็รู้ ดีกว่านั่งเหม่อ มึงไม่อยากเรียนไม่ใช่เหรอ กูรู้ละกันน่า”
“บอกก่อนจะไปไหน” แต่ไหนแต่ไรชายหนุ่มไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีใจที่จะเรียนหรือทำอะไรอยู่ดี
“ไปบ่อน โคตรสนุกอ่ะบอกเลย”
พีชนั่งเงียบไปสักพักก่อนจะเก็บรูปแม่เข้ากระเป๋าตังค์สีดำด้าน เพื่อนกวักมือเรียกเขาให้ตามไปเพราะทุกคนต่างก็เตรียมพร้อมจะไปปีนรั้วโรงเรียนกันแล้ว ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะตัดสินใจออกไปกับกลุ่มเพื่อน
