12 หวั่นไหว
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี
เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม
เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด
เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น
“แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ”
“คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
“ดินยังไม่กลับหรอก แม่ชวนเขาทานอาหารกลางวันด้วยกันแล้วค่อยกลับ แอลล่ะไปเที่ยวเป็นไงบ้าง”
“ก็ดีค่ะแม่”
“แต่หน้าหนูไม่ดีเลยมีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอกค่ะ แอลคงนอนดึกไปหน่อย”
“จะขึ้นไปนอนก่อนไหม พอเที่ยงแม่จะกุ้งนางขึ้นไปตาม”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแอลค่อยขึ้นไปนอนก็ได้”
“เย็นนี้จะออกไปเที่ยวอีกไหมล่ะลูก”
“ไม่ค่ะ แอลเริ่มเบื่อแล้ว”
“ให้มันจริงเถอะ แม่ละกลัวจะเบื่อแต่ไม่กี่วันแล้วจะออกไปเที่ยวอีก”
“เบื่อแล้วจริงๆ ค่ะแม่ ถ้าแอลจะเที่ยวอีกครั้งก็ต้องรอให้แพรวากลับมาก่อน”
“แล้วแพรว่าจะกลับมาตอนไหนล่ะ อย่าลืมพามาทานข้าวที่บ้านเราด้วยนะ”
“เดือนหน้าค่ะแม่ เพราะฉะนั้นก่อนที่แพรว่าจะกลับมาแอลจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เลยนะคะ ถ้าแพรวากลับมาแอลขอไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างได้ไหมคะแม่”
“ถ้าหนูเที่ยวแล้วไม่เสียงานก็ไม่มีใครว่าอะไรหนูได้หรอกลูก แอลของแม่โตแล้วนะ เป็นผู้ใหญ่แล้วแม่ว่าเรื่องงานก็คงทำได้ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
“ค่ะ”
“เรียนรู้งานไปถึงไหนแล้ว”
“ตอนนี้นายดินก็ให้แอลอ่านอะไรไม่รู้ตั้งเยอะแยะไปหมด”
“แล้วหนูอ่านรู้เรื่องทั้งหมดไหม”
“ไม่ค่ะ อันไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามนายดิน แม่รู้ไหม เขาตอบได้ทุกอย่างเลยคะอย่างกับเป็นอับดุลเลยล่ะค่ะ”
“ไปว่าพี่เขาแบบนั้นได้ยังไงกัน เรายังต้องให้พี่เขาสอนงานอีกเยอะเลยนะ”
“แม่ค่ะ ทำไมแอลต้องเรียนรู้งานพวกนี้ด้วย แค่เข้าไปช่วยออกแบบไม่ได้เหรอคะ งานบริหารก็ให้พ่อทำไปไม่ได้เหรอคะ”
“ที่พ่อกับแม่อยากให้หนูเรียนรู้งานเยอะๆ ก็เพราะอีกหน่อยบริษัทนี้ก็ต้องเป็นของหนู”
“แต่แอลไม่อยากได้เลย ให้พี่อลันหรือนายดินทำแทนไม่ได้เหรอคะแม่”
“ไม่ได้จ้ะ”
“ทำไมล่ะคะแม่”
“เพราะบริษัทนี่พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะยกให้แอลในเวลาที่เหมาะสม พี่อลันเขาก็ได้ไปแล้วเหลือแต่แอลที่พ่อกับแม่ยังไม่ได้ให้อะไรเลย”
“พ่อกับแม่ให้แอลมาเยอะแล้วนะ ถ้างั้นก็เหลือนายดินค่ะ ให้เขาบริหารสิคะ”
“ตอนนี้เขาก็ช่วยอยู่ แต่ถ้าอนาคตเขาแต่งงานมีครอบครัว เขาก็ต้องไปดูแลครอบครัวของเขา”
“ไม่มีทางค่ะ เพราะนายดินบอกแอลว่าเขายังไม่มีแฟนและจะอยู่แบบนี้ไปจนแก่”
“ที่พี่เขาพูดแบบนั้นก็เพราะเขายังไม่เจอคนที่ถูกใจไงล่ะ ถ้าเขาเจอคนที่ใช่ คนที่ทำให้เขามีความสุข เขาก็คงคิดเรื่องมีครอบครัวเอง”
“เขางานยุ่งแบบนี้จะไปหาแฟนที่ไหน”
“ตอนนี้เขายังไม่มีใครแอลก็เรียนรู้จากพี่เขาให้มากที่สุด”
“แอลไม่กล้ารับปาก แต่จะพยายามนะคะ” เอลินอร์นึกภาพตัวเองทำงานบริหารแทบไม่ออกเลยสักนิด
“เอาละอย่าเพิ่งเครียดเลย แอลยังมีเวลาเรียนรู้อีกเยอะ”
สองแม่ลูกคุยเรื่องอื่นกันต่อจนกระทั่งถึงเวลาทานอาหารกลางวันปฐพีกับคุณเอกภพก็เดินออกมาจากห้องทำงาน
“พ่อคุยอะไรกับนายดินตั้งนานคะ”
“เรื่องงานจ้ะ”
“เรื่องงานแล้วทำไมไม่ให้แอลเข้าไปฟังด้วยล่ะคะ”
“พ่อนึกว่าวันนี้วันหยุดแอลอยากจะพัก เอาไว้ครั้งหน้าถ้าพ่อจะคุยเรื่องงานกับดินอีก พ่อจะให้แอลเข้าไปฟังด้วยดีไหม”
“ดีค่ะ”
“งั้นตอนนี้ไปกินข้าวกันดีกว่านะพ่อหิวแล้ว”
คุณเอกภพเดินนำทุกคนไปยังห้องอาหารซึ่งป้านวลและกุ้งนางจัดทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว
“นายดิน เมื่อกี้นายคุยอะไรกับพ่อ” เอลินอร์กระซิบเบาๆ พอให้ได้ยินกันแค่สองคน
ปกติแล้วจะนั่งข้างมารดาแต่วันนี้หญิงสาวย้ายมานั่งข้างๆ ปฐพีซึ่งเป็นภาพที่บิดามารดาของหญิงสาวเห็นแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา
“เรื่องงานครับ”
“แน่ใจนะ”
“ผมรับปากคุณหนูแล้วว่าจะไม่บอกใคร คุณหนูไม่เชื่อใจผมเหรอครับผมว่าเรารีบทานกันดีกว่าถ้าคุณหนูเอาแต่นั่งกระซิบผมแบบนี้ท่านสองคนจะสงสัยเอานะครับ”
เอลินอร์ย่นหน้าให้ปฐพีก่อนจะยกจานข้าวของตนเองเดินกลับมานั่งข้างมารดาอย่างเคย
“แอล” คุณแอนเดรียดุลูกสาวที่เสียมารยาท
“ขอโทษค่ะแม่ แอลก็แค่อยากย้ายกลับมานั่งใกล้แม่”
“นั่งที่ไหนก็เหมือนกัน แล้วเมื่อกี้ไปว่าอะไรพี่เขาอีก”
“เปล่านะคะ แอลก็แค่ถามเขาเรื่องที่จะให้แอลออกแบบเครื่องประดับเท่านั้นเองค่ะแม่”
“พอดีคุณหนูใจร้อนอยากจะเริ่มออกแบบนะครับแต่ผมยังไม่ว่างบอกรายละเอียดเธอก็เลยทวงแค่นั้นเองครับ” ปฐพีช่วยพูดอีกแรงเพราะตอนนี้เขาไม่ค่อยอยากจะเป็นศัตรูกับเธอเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าเธอจะต่อต้านมากกว่าที่เป็นอยู่
“เรื่องนี้เองเหรอ พ่อว่างานนี่จะให้แอลโชว์ฝีมือให้เต็มที่เลยนะ ถ้าแอลออกแบบเสร็จแล้วก็ส่งให้หัวหน้าแผนกก่อน แล้วจากนั้นก็จะเอาของทุกคนมารวมกันในที่ประชุมอีกครั้ง”
“พ่อค่ะ แอลว่าการส่งผลงานครั้งนี้ไม่ต้องใส่ชื่อในผลงานได้ไหมคะ ให้ทุกคนได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ไปเลย ถ้าแอลได้รับเลือกก็เป็นเพราะฝีมือของแอล แต่ถ้าแอลไม่ได้รับเลือก แอลก็จะได้รู้ข้อบกพร่องของตนเองไงคะ”
“แล้วถ้าเกิดในที่ประชุมเขาวิจารณ์งานของแอลไปในทางไม่ดี แอลจะไม่เสียใจเหรอลูก”
“ไม่ค่ะ เรื่องนี้แอลเข้าใจดีและไม่ได้คาดหวังว่าผลงานของตัวเองจะได้รับเลือก แอลก็แค่อยากทำให้เต็มที่เท่านั้น”
“ผมเห็นด้วยนะครับ เพราะถ้าใส่ชื่อลงไปแล้วผลงานของคุณหนูได้รับเรื่องคนก็จะนินทากันอีกว่าเพราะเป็นลูกสาวเจ้าของลูกสาวเจ้าของบริษัท”
“ได้สิ ดินบอกเรื่องนี้กับคุณธาดาด้วยนะ”
“ครับคุณลุง”
“เอาละ ทีนี้ทุกคนทานข้าวได้แล้วนะคะ และครั้งต่อไปห้ามทุกคนเอาเรื่องงานมาคุยบนโต๊ะอาหารอีกเด็ดขาด ถ้าใครขัดคำสั่งมื้อนั้นจะต้องเป็นคนล้างจาน”
“ผมด้วยเหรอครับคุณแอน” เอกภพหันไปถามภรรยา
“ใช่ค่ะ เรื่องนี้ไม่มีข้อยกเว้น”
“ฟังเลยนะ ทั้งสองคนเลย ห้ามเอาเรื่องงานมาคุยกันบนอาหารอีกเข้าใจไหม” คุณเอกภพสั่งอีกครั้ง