11 ขอบใจนะนายดิน
ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง
“นายดิน”
“คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ”
“อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด
“ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง
“แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ
“ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ”
“บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
“ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ”
“พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
“ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ แล้วเมื่อกี้ใครกันที่จะถอดชุดผม จะปล้ำผม”
“หยุดพูดนะนายดิน”
“ผมพูดเรื่องจริง หรือที่คุณหนูกำลังหงุดหงิดใส่ผมแบบนี้เพราะเรื่องเมื่อกี้หรือเปล่า เพราะไม่ยอมนอนกับคุณหรือเปล่าล่ะครับคุณหนู” พูดจบปฐพีก็วิ่งเข้าไปยังห้องแต่งตัวโดยมีเสียงของเอลินอร์กรี๊ดตามหลัง ชายหนุ่มรอจนเธอหยุดกรีดก็กลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
“ขอบใจนะนายดิน” หญิงสาวพูดกับปฐพีเมื่อเขาเดินกลับออกจากห้องแต่งตัวและนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง
“คุณหนูขอบใจผมเรื่องไรครับ”
“ก็ทุกเรื่อง”
“แล้วทุกเรื่องนี้มันเรื่องอะไรบ้างล่ะครับ”
“ก็เรื่องยา เรื่องที่นายไปพาฉันมาจากผับและก็เรื่องเมื่อกี้”
“เรื่องเมื่อกี้ คือเรื่องที่ผมช่วยคุณหนู หรือเรื่องที่ผมไม่ทำอะไรคุณหนูล่ะครับ”
“ก็ทั้งสองเรื่องนั่นแหละ นายจะถามให้ฉันอายใช่ไหม”
“เปล่า ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย เอาละ ดึกแล้วคุณหนูรีบนอนเถอะครับ ผมง่วงมากแล้ว” ปฐพีพูดจบก็เอื้อมมือปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงเดียวกับเอลินอร์
“นายจะนอนที่นี่จริงๆ เหรอ ฉันว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“นอนเถอะครับคุณหนู ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ถ้าผมจะทำก็ทำตั้งแต่ตอนที่คุณหนูขอร้องผมเมื่อกี้แล้วละครับ” ปฐพีพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจนเอลินอร์ยอมนอนร่วมเตียงกับเขา และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอนอนร่วมเตียงกับคนอื่น ที่ผ่านมาหญิงสาวไม่เคยให้ใครนอนร่วมเตียงเลยยกเว้นมารดาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“นายดินฉันนอนไม่หลับ ฉันกลัว”
“ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกครับ” ปฐพีขยับเข้ามาใกล้และดึงหญิงสาวให้นอนไปบนหน้าอกของเขา
“ฉันนึกภาพไม่ออกว่าถ้าไม่เจอนาย ฉันจะเป็นยังไงบ้าง พวกมันคงไม่ปล่อยฉันไว้แน่”
“เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดครับ ผมสัญญาว่าดูแลคุณหนู จะไม่ให้คุณหนูเจอเรื่องแบบนั้นแน่นอน”
“นายจะช่วยฉันทุกครั้งใช่ไหม”
“ครับ ผมจะช่วยคุณหนู จะอยู่ข้างคุณหนู แต่คุณหนูก็ต้องดูแลตัวเองด้วย และก็ห้ามออกไปเจอพวกเขาอีกเด็ดขาด”
“ฉันไม่กล้าไปเจอเข้าอีกแล้ว แต่ถ้าเขามาหาฉันล่ะ เขารู้ว่าบ้านฉันอยู่ไหน เขารู้ว่าฉันเป็นใคร”
“ถึงเขาจะรู้แต่เขาจะทำอะไรคุณหนูไม่ได้หรอกครับ”
“นายแน่ใจนะว่าจะอยู่ข้างฉันตลอด” เอลินอร์นึกถึงผู้ชายที่อยู่กับเพื่อนของตนเองแล้วก็ขนลุกขึ้นมาทันที
“แน่ใจสิ นอนนะครับพรุ่งนี้จะได้รีบกลับบ้านแต่เช้า”
เพราะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเอลินอร์เลยหลับลงอย่างง่ายดาย กว่าเธอจะรู้สึกตัวตื่นอีกครั้งก็ตอนที่ได้ยินเสียงของปฐพีเหมือนเขากำลังคุยกับใครอยู่นอกห้อง
หญิงสาวรีบลุกจากที่อนแล้ววิ่งออกไปดูแต่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน
“นายดิน เมื่อกี้นายคุยกับใครเหรอ”
“ผมให้แม่บ้านเอาชุดไปซักให้ คุณรอก่อนนะไม่นานหรอกซักแล้วก็อบเลย”
“ชุดของฉันเหรอ ทั้งหมดเลยเหรอ”
“ครับทั้งหมดเลย” ปฐพีมองคนที่สวมเชิ้ตยาวคลุมเข่าแล้วยิ้ม เพราะรู้ว่าภายใต้ชุดที่เธอสวมอยู่นั้นไม่ได้สวมอะไรไว้เลย
“อย่ามองฉันแบบนั้น”
“แบบไหน” เขาขยับเข้าใกล้จนหญิงสาวถอยไปทีละนิดจนชนกับประตูห้องนอน
“นายจะทำอะไรฉัน” เอลินอร์หายใจติดขัดเพราะเขาเข้ามาใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมที่จำได้ดีว่าเป็นคนซื้อมาฝาก
“ผมไม่ทำอะไรคุณหนูหรอกครับ แค่จะถามว่าคุณหนูหิวไหม”
“ฉันยังไม่หิว”
“แต่ผมหิวแล้ว ผมทำอาหารเช้าไว้เผื่อคุณหนูแล้ว จะไม่กินหน่อยเหรอครับ” ปฐพีก้มใบหน้าต่ำลงหน้าผากของเขาชนกับหน้าผมของเธอย่างพอดี
เอลินอร์ยืนนิ่ง แทบกะกลั้นหายใจเพราะมันใกล้จนเธอทำตัวไม่ถูก
เมื่อเห็นว่าคุณหนูยืนตัวเกร็งใบหน้าแดงซ่านปฐพีก็หัวเราะในลำคอก่อนจะจับมือเธอให้เดินตามเขามาที่โต๊ะทานอาหาร
“นายทำเองเหรอ”
“ครับ น่ากินไหม”
“น่ากินมาก ฉันไม่ได้กินอาหารเช้าแบบนี้เลยตั้งแต่กลับมาเมืองไทย” เอลินอร์มองไส้กรอกไข่ดาวและแฮมที่อยู่ในจานแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่อาย เธอชินกับอาหารเช้าแบบนี้มากกว่าการทานข้าว ซึ่งที่บ้านของเธอไม่มีใครทานแบบนี้สักคน
“คุณหนูอยากกินทำไมไม่ให้ป้านวลให้ทำให้ล่ะครับ”
“ป้านวลทำเป็นที่ไหนล่ะ แกถนัดแต่อาหารไทยเท่านั้น”
“จริงสิ เอางี้ไหม วันไหนอยากกินก็บอกผมจะทำให้”
“ปกตินายทำกินคนเดียวแบบนี้เหรอ”
“ก็ทำบ้าง บางครั้งก็ออกไปกินข้าวต้มหน้าปากซอยหรือบางครั้งก็ไปทานกับคุณลุงคุณป้าที่บ้านคุณ”
“คุณสนิทกับคุณพ่อและคุณแม่มากกว่าฉันอีกนะ”
“ก็ผมอยู่เมืองไทยนี่ครับ”
“แล้วนายไปบ้านฉันบ่อยๆ แฟนนายไม่ว่าเหรอ”
“ไม่ครับ”
“ดีจังนะ ถ้าเป็นฉันคงโวยวายแน่ที่แฟนของตัวเองไม่มีเวลาให้”
“ก็ผมยังไม่มีแฟนนี่ครับ”
“นี่นายอายุเท่าไหร่แล้วทำไมยังไม่มีแฟนอีก ดูอย่างพี่อลันสิ เขาแต่งงานแล้วชีวิตเขาดูแฮปปี้ดีออก”
“จะมีหรือมีมันก็ไม่เกี่ยวกับอายุนี่ครับคุณหนู ผมว่าอยู่คนเดียวแบบนี้ก็สบายดี ”
“แล้วอย่างนี้ถ้านายแก่ไปใครจะดูแลนายล่ะ”
“ก็คุณหนูไงครับ”
“เรื่องอะไรฉันจะต้องดูแลนายตอนแก่ละ”
“อ้าว ก็เมื่อคืนคุณหนูขอให้ผมอยู่ข้างคุณหนูเองนะครับ เพราะฉะนั้นผมก็จะทำตามที่พูด”
“มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”
“ไม่รู้หล่ะครับ ผมถือว่าคุณหนูพูดแล้ว และถ้าคุณหนูคิดจะผิดคำพูด ผมก็ไม่กล้ารับปากว่าเรื่องเมื่อคืนจะมีคนอื่นรู้เพิ่มไหม”
“นายแบล็กเมลฉันใช่ไหมนายดิน”
“เปล่าครับผมก็แค่พูดขึ้นมาเฉยๆ เอง”
“ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นกับนายเลย ให้ตายสิ”
“อย่าเพิ่งคิดมากครับ รีบกินเถอะนะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะหาว่าผมทำไม่อร่อยนะครับ”
ทั้งสองนั่งทานอาหารกันเงียบๆ ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจของหญิงสาว นอกจากปฐพีจะช่วยเหลือเธอแล้วเขายังปกป้องและไม่คิดจะฉวยโอกาสซึ่งมันทำให้สายตาที่มองเขาเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว
ปฐพีเองก็แอบมองคุณหนูอยู่บ่อยครั้ง เรื่องเมื่อคนเขาก็มีส่วนผิดเพราะถ้าเขาไม่เอาของในกระเป๋าไปบางทีเธอก็อาจจะไม่โดนเพื่อนหักหลังแบบนั้น แต่เพราะกลัวว่าเธอจะติดร่างแหไปด้วยจึงไม่ได้บอกเธอก่อนว่าของในนั้นเป็นอะไร
“ผมขอโทษนะครับคุณหนู”
“นายขอโทษฉันเรื่องอะไร อย่าบอกนนะว่านายบอกแม่ฉันเรื่องเมื่อคืนแล้ว”
“เปล่าครับ ที่ผมขอโทษก็เพราะถ้าผมไม่เอาของในกระเป่าไป พวกนั้นก็คงไม่เล่นสกปรก”
“แต่ฉันอาจจะโดนตำรวจจับ นายว่าอย่างไหนมันน่ากลัวกว่ากัน”
“ก็แย่ทั้งสองอย่าง”
“นั่นสิ นายไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ตอนนี้ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“คุณหนูไม่โกรธผมใช่ไหมครับ”
“ตอนนี้ยังไม่โกรธนะ แต่ถ้าพูดเรื่องเดิมขึ้นมาอีกฉันอาจจะโกรธนายก็ได้” เอลินอร์รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เพราะรู้ว่าเขาทำทุกอย่างก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของเธอ