บทที่ 2
“เหอะ...ทิ้งไว้ที่บ้านสิวะไอ้ดา บรรยากาศเสียหมด”
“ว่าแต่แกจีบสาวให้ฉันหน่อยนะไอ้ดา อยากจะลืมน้องยูริ”
ชวินที่นั่งข้างคนขับข้างหน้าพูดขึ้นมาบ้าง ฉัตรธิดากับเจียรนัยมองตากันก่อนจะอมยิ้ม
“ได้เลยเพื่อน จะเอาให้สวยกว่าน้องยูริอีก” ฉัตรธิดารับคำ
“แกไม่น่าแต่งมาสาวเสียขนาดนี้เลยว่ะไอ้ดา คืนนี้จะมีสาวไหน มาเหลียวแลพวกฉันบ้างไหมเนี่ย เดี๋ยวน้องๆ ก็นึกว่าแกเป็นแฟนพวกฉันหรอก เรตติ้งตกหมด”
เจียรนัยว่าเพื่อนอีกรอบ ฉัตรธิดายักไหล่ ก่อนจะทำหน้าเชิด
“ช่วยไม่ได้คนมันสวยนี่นา”
“แหวะ!”
เสียงสองหนุ่มประสานกันอย่างไม่ได้นัดหมาย จนหล่อนต้องค้อนขวับ คืนนี้สงสัยจะสนุกแน่ๆ ฉัตรธิดาคิดในใจ นานๆ หล่อนจะได้ผ่อนคลายเสียที ไหนจะเรื่องหลาน ไหนจะเรื่องงาน ดีนะที่เรื่องบ้านเรียบร้อยไปแล้ว หมดจากเรื่องหนักๆ ก็ต้องฉลองให้ตัวเองแบบนี้ล่ะ
เมื่อลงจากรถแท็กซี่ด้วยกันแล้ว เจียรนัยคว้าหล่อนไปกอดคอหมับ อะไรบางอย่างในสัมผัส เกือบทำให้ฉัตรธิดาผลักเพื่อนสนิทออกไป แต่เมื่อนึกได้ว่าเป็นเจียรนัยเพื่อนรักของหล่อน อาการขยะแขยงก็หายไปหมด
หญิงสาวกัดริมฝีปาก แล้วทำหน้าให้รื่นเริง เสียงดนตรีจังหวะสนุกๆ ดังลั่น จนหัวใจเต้นเร็วเกือบๆ จะเท่ากับจังหวะเพลง เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในผับร้านประจำ ซึ่งมาดื่มกันทุกครั้งที่นัดสังสรรค์ คืนนี้ดื่มให้เมา ให้สนุกไปเลยดีกว่าเรา ขอคลายทุกข์ให้กับตัวเองบ้างเถอะน่า…..
....
เวลาล่วงไปจนเกือบจะเที่ยงคืน บรรยากาศและเสียงเพลงยิ่งคึกคัก ผู้คนยิ่งเบียดเสียด สามเพื่อนสนิทที่จองโต๊ะได้แล้ว และดื่มน้ำสีเหลืองอำพันหมดไปเกือบๆ ค่อนขวด เริ่มหน้าแดง และหัวเราะกันร่วน ชวินที่คออ่อนที่สุดในกลุ่ม อาการหนักกว่าเพื่อน ชายหนุ่มซบหน้าลงกับโต๊ะ ก่อนจะเริ่มรำพันรำพึง
“ไอ้ดา... ฉานไม่ดีตรงหนายวะ”
“ไม่ดีตรงนี้ล่ะว้า...ตรงคอไม่แข็งไง”
เจียรนัยตอบแทน แล้วก็หัวเราะก๊าก เขามองสภาพชวินที่โหมดื่มเอาๆ จนหมดสภาพ แล้วก็เอาที่คนเหล้าที่เป็นแท่งแก้วยาวๆ แหย่หลังเพื่อน มันเย็นจนคนที่ซบหน้าอยู่กับโต๊ะสะดุ้งแล้วก็นอนลงต่อ
ฉัตรธิดามองไปรอบๆ คืนนี้แขกค่อนข้างเยอะพอสมควร และหนุ่มๆ บางโต๊ะก็ทำท่าทางขอชนแก้วกับหล่อน แต่หญิงสาวเองก็เมินหน้าหนี แถมทำเป็นขยับเข้าไปใกล้สองหนุ่มที่เป็นเพื่อนรักให้เข้าใจผิดเสียด้วย งานนี้เจียรนัยถึงกับโอด เมื่อเห็นเพื่อนรักที่ซบกับบ่าของเขาทันที เมื่อชายหนุ่มผมสั้นตัดทรงทันสมัยโต๊ะตรงกันข้ามยกแก้วให้กับฉัตรธิดา ที่พอหล่อนทำแบบนี้ปุ๊ป! ชายหนุ่มนายนั้นก็เมินหน้าหนี เจียรนัยมองคนที่ซบกับบ่าอย่างรู้ทัน
“นี่ทำอะไรของแกไอ้ดา”
“ยืมตัวหน่อยเดียวน่า ไม่ชอบให้ใครมาเกาะแกะ” ฉัตรธิดาผละมาจากเพื่อนแล้วยกเครื่องดื่มในมือขึ้นมาจิบต่อ
“สาวโต๊ะโน้นกำลังมองฉันอยู่เลย อด...หมดกัน” เจียรนัยลากเสียง หญิงสาวหัวเราะหึ หึ ก่อนจะยกแก้วมากระทบกับแก้วของชายหนุ่ม แล้วยักคิ้วให้
“น่า...วันหลังค่อยมาจีบก็ได้ ดื่มหน่อย น้ำแข็งละลายหมดแล้ว ไหนแกบอกจะมาเมาไง?”
“ช่าย... ผู้หญิงมานไม่มีครายจริงใจสักกะโคน…” เสียงอ้อแอ้จากชวินดังขึ้น พร้อมกับมือที่ยกแก้วเหล้ามาชนด้วยอีกคน
“ดื้ม...ดื่ม...เพื่อลืมเธอ”
“เอ้า ! ดื่มก็ดื่ม”
เจียรนัยว่า เมื่อหมดแก้วแล้วเขาก็ลากฉัตรธิดาออกไปวาดลีลากลางฟลอร์ ท่ามกลางเพลงจังหวะเร้าใจที่เปิดไว้เสียงกระหึ่ม ปล่อยให้ชายหนุ่มอีกคน นอนเฝ้าโต๊ะให้ไปพลาง ๆ
………………………………………………………………………………………………………
“ทางนี้ ซี !”
ชายหนุ่มร่างสูงที่ก้าวเข้าประตูของผับมา หันไปตามเสียงเรียก เขายิ้มพลางสาวท้าวเดินไปที่โต๊ะของเพื่อนอย่างรวดเร็ว แต่ในผับที่คนค่อนข้างเบียด เลยเคลื่อนตัวไปได้ช้าสักหน่อย ชายหนุ่มตัวสูงล่ำสัน สวมเสื้อเชิ้ตสีดำพอดีตัวปลดกระดุมต่ำ เผยให้เห็นอกกว้างผึ่งผาย กางเกงยีนสีเข้มกระชับรูปร่าง ทำให้บรรดาสาวๆ มองกันตาปรอย ใบหน้าคมคาย คิ้วเข้ม จมูกโด่งได้รูปสวย ริมฝีปาก นัยน์ตาคมกริบสีดำสนิท ผมของเขายาวเกือบถึงบ่าแต่ก็ซอยไว้ได้รูปตามทรงทันสมัย พวกหล่อนทำเป็นเบียดชนเขาบ้าง พร้อมกับส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้ สายน้ำมองแล้วยิ้มตอบ เป็นยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ ที่ทำให้คนที่เห็นรอยยิ้มแทบจะละลาย กว่าจะมาถึงโต๊ะของเพื่อนเขาได้ ก็เนิ่นนานพอดูแถมได้เบอร์โทรจากสาวๆ อีกสองสามคน
“มานานหรือยังวะ คม”
ชายหนุ่มทัก อธิคมมองเพื่อนสนิทและเกือบจะค้อนให้อยู่แล้ว โชคร้ายที่เขาค้อนไม่เป็น ก่อนจะรินเหล้าให้กับชายหนุ่มที่มานั่งตรงกันข้าม สายตาของหญิงสาวที่เผลอสบตาเข้ากับสายน้ำ ยังมองตามชายหนุ่มกันตาแทบจะไม่กะพริบ
“ก่อนนายแป๊ปเดียว เฮ้อ... อิจฉาว่ะ สาวๆ มองตามกันใหญ่เลยนะ ฉันมานั่งตั้งนานยังไม่มีใครมองสักคน”
สายน้ำหัวเราะ เพื่อนของเขาก็พูดเกินจริง เพราะก่อนที่เขาจะมานั่งก็เห็นมีสาวผมสีทองร่างเล็กมานั่งข้างๆ แถมจุ๊บที่ข้างแก้มอธิคมอีกที ก่อนจะเดินกลับโต๊ะ หลักฐานยังหราอยู่บนแก้มของเพื่อนรักเขาอยู่เลย
“พูดเวอร์น่า ไม่ได้กลับบ้านนาน เดี๋ยวนี้สาวๆ บ้านเรากล้าขึ้นเยอะนะ”
สายน้ำมองไปรอบๆ เขาเพิ่งจะกลับมาจากอเมริกา หลังจากไปร่ำเรียนและต่อด้วยการท่องเที่ยวไปเกือบทุกมุมโลกอีกหลายปี ไม่ได้กลับเมืองไทยมาเกือบจะสิบปีแล้วกระมัง ที่กลับมาก็เพราะว่าพ่อและแม่ของเขาเรียกตัวกลับมาช่วยกิจการ ที่เห็นว่าเขาสมควรถึงเวลาต้องทำงานได้แล้ว สายน้ำยอมกลับ แต่เรื่องจะทำงานนั้นค่อยว่ากันทีหลัง ชายหนุ่มรักอิสระทำอะไรตามอำเภอใจอย่างเขา คงจะนานกว่าจะทำใจให้อยู่ในกรอบได้ ยิ่งทำงานนั่งโต๊ะยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งอึดอัด
“ธรรมดาแหละ นายไม่ได้กลับมาเกือบสิบปีนี่หว่า อะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะโว้ย หมดสมัยนั่งพับเพียบแล้วเพื่อน เป็นไงสาวไทยสวยสู้พวกแหม่มได้ไหมวะ”
อธิคมหลิ่วตาไปทาง หญิงสาวสวยหุ่นอรชร และเซ็กซี่หลายคนที่แต่งตัวกันสุดเหวี่ยง แหวกเว้าผ่าสูงกันไปจนถึงไหนๆ บางคนอยู่บนฟลอร์กำลังออกลีลาเต็มที่ บางคนก็นั่งมองหาชายหนุ่มที่ใจตรงกันเพื่อจะไป ‘ต่อ’ กันข้างนอก สายน้ำยักไหล่ แล้วหลิ่วตาให้เพื่อนรักบ้าง
“บ้านเราสวยกว่าว่ะ”
“คืนนี้ก็หาสักคนสิ ฉันว่าอย่างนายหาไม่ยาก แค่เดินเข้ามาก็ได้เบอร์โทรศัพท์ไปตั้งหลายคนแล้วนี่นา”
อธิคมกระเซ้า ชายหนุ่มหัวเราะหึ หึ และจิบเหล้าในมืออย่างอารมณ์ดี เขามองกวาดไปเรื่อยๆ สบตากับสาวสวยหลายคน แต่สายน้ำก็แค่อมยิ้มและหลบตาพวกหล่อนเสีย
อืม... สังคมเปลี่ยนไปมากจริงๆ ความหนุ่มคะนอง ทำให้เขาเริ่มมองหาหญิงสาวสวยเพื่อจะไป ‘ต่อ’ อย่างที่เพื่อนว่าเหมือนกัน คนที่ใจตรงกันและมีจุดมุ่งหมายแค่อย่างเดียวกัน คืนเดียวแล้วต่างคนก็ต่างเลิกรา ไม่ผูกมัด พึงใจกันแค่รูปโฉมภายนอก พอใจแค่สัมพันธ์ทางกาย สายน้ำยิ้มที่มุมปาก เขาก็อยากจะดูว่าคืนนี้เขาจะมีคนใจตรงกันไปกับเขาบ้างไหม?
สายตาของชายหนุ่ม สะดุดเข้ากับหญิงสาวหน้าสวยคม ที่นั่งขนาบด้วยสองหนุ่ม หนุ่มนายหนึ่งพิงไหล่หล่อนใช้มันเป็นหมอนชั่วคราว ส่วนอีกหนุ่มกำลังชนแก้วกับเจ้าหล่อน หล่อนหัวเราะร่วน หน้าขาวนวลแต่งไว้ด้วยเมคอัพพอประมาณ ไม่ได้เข้มจัดเหมือนสตรีอีกหลายคน ดวงตาคมสวยเป็นประกายระยับ ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อย กระตุกหัวใจสายน้ำให้สั่นอย่างช่วยไม่ได้ เขามองหล่อนแล้วกระซิบกับเพื่อนสนิท
“เดี๋ยวนี้เขากล้าควงทีละสองคนด้วยเหรอวะ เจ้าหล่อนสวยเป็นบ้า”
“เด็กเก็บแต้มหรือเปล่า สองแต้มเต็มๆ เลยไง” อธิคมมองตามเพื่อนที่พยักเพยิดให้ดูแล้วก็ส่ายหน้า
“บ้านเราบางอย่างมันก็เพริดๆ ไปมากกกว่าที่นายคิดว่ะ บางทีฉันเองก็รับไม่ได้กับความคิดเรื่องเพศของผู้หญิงสมัยใหม่บางคน แต่ก็สวยมากอย่างที่แกว่า”
“เด็กเก็บแต้ม” สายน้ำทวนคำ อธิคมเลยถอนใจ แล้วอธิบายให้เพื่อนฟัง ถึงด้านมืดของสังคมสมัยนี้เสียเลย
“ก็สาวๆ ที่ล่าผู้ชายไว้เป็นแต้มไง หนึ่งคนหนึ่งแต้ม แล้วเอามาอวดกันว่าใครจะล่าได้มากกว่า เด็กวัยรุ่นใจแตกกำลังฮิตเลยทีเดียว เป็นปัญหาสังคมอีกแบบหนึ่ง แต่คนที่นายมองๆ อยู่ก็ดูจะไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
อธิคมมองไปยังสาวที่เพื่อนกำลังสนใจอย่างพินิจ เจ้าหล่อนสวยมากจริงๆ สวยลึกลับเซ็กซี่สุดๆ ไปเลย แต่ไม่น่าเสี่ยงอยากจะทำความรู้จักด้วย ถ้าหล่อนเป็นผู้หญิงประเภทนั้น
“อีกอย่างผับนี้ก็มีคลาส เฮ้อ...แต่อย่างว่าจะระดับไหนก็เถอะ เรื่องแบบนี้มันไม่เข้าใครออกใครนี่หว่า”