บทย่อ
รักและความหลังช่างเลวร้าย จนเธอเข็ดขยาด และเกลียดผู้ชายทุกคน การพบกันครั้งแรก...ความเข้าใจผิด ทำให้เขาโดนผู้หญิงที่ตั้งใจจะคิดไป 'หิ้ว' ตบหน้าเอาฉาดใหญ่ และเมื่อเธอมาวุ่นวายกับน้องชายของเขา สายน้ำจึงเข้าไปกันท่า และกลับกลายเป็นเขาที่ตกหลุมรักหล่อนเสียเอง เขาจะทลายกำแพงนี้ด้วยรักได้หรือไม่ ฝากลุ้นและเป็นกำลังใจด้วยค่ะ “คุณผู้หญิงตรงนี้ครับ” สายน้ำเลิกคิ้วให้หล่อน และทวงสัญญาของเขาทันที เมื่อปลัดเขตชี้ตรงที่จะให้ฉัตรธิดาเซ็นชื่อลงไป “เซ็นนะครับคุณดา คุณดารับปากผมแล้ว” “ก็คุณบอกว่าให้ดาเซ็นเป็นพยาน แต่นี่คุณจะให้ดาจดทะเบียนสมรส” ฉัตรธิดาว่า ปลัดเขตที่นั่งอยู่หัวเราะ เมื่อเห็นท่าทีของฝ่ายหญิง “อ้าว ! ตกลงกันว่ายังไงครับเนี่ย ?” “คุณดารับปากผมแล้วนี่ครับ” ชายหนุ่มทวงสัญญาอีกรอบ ฉัตรธิดารีบค้าน “ก็คุณซีบอกว่า…” “เป็นพยานในเอกสารสำคัญ เอกสารทะเบียนสมรสนี่ไงล่ะครับ เอกสารสำคัญของชีวิตผม มันเป็นเอกสารสัญญาว่า ผมจะเป็นของคุณดาคนเดียว และคุณดาก็ต้องเป็นของผมคนเดียวด้วย ผมไม่สนใจว่าใครจะพูดอะไรหรอกครับ ผมรักคุณดา” “เอ่อ” ฉัตรธิดาอ้ำอึ้ง สายน้ำบีบมือหล่อนเบาๆ พร้อมกับส่งสายตา ที่บ่งบอกความในใจอย่างหมดทุกอย่าง ให้หล่อนล่วงรู้ว่า เขายังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง “ผมจะไม่ยอมให้อะไร หรือใครมาขัดขวางความรักของผมหรอกครับคุณดา ผมบอกแล้วว่าผมรอได้ และผมก็จะถือทะเบียนสมรสเป็นเครื่องการันตีว่าผมพูดจริง นะครับคุณดา เซ็นสัญญากับผมนะ”
บทที่ 1
หญิงสาวร่างเพรียวค่อยๆ ก้าวลงมาจากบันไดไม้ขัดมัน หล่อนสวมเสื้อสีดำแขนกุดเน้นรูปร่างเพรียวบาง คอเสื้อตัววีลึกเล็กน้อยเผยให้เห็นร่องอกอวบงามของเจ้าตัว กางเกงยีนสีดำแนบไปกับขายาวเพรียว ใบหน้างดงามประกอบไปด้วย ดวงตาคม นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม คิ้วโก่งเรียว จมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่มสวย เมคอัพไว้ด้วยเฉดสีฟ้า เน้นดวงตาคมสวยของเจ้าตัวให้โดดเด่น ผมยาวตรงสีน้ำตาลเข้มถูกรวบไว้ข้างหลังอย่างง่ายๆ เปิดใบหน้าโล่ง
หล่อนยิ้มให้กับชายหนุ่มสองคนที่นั่งกึ่งนอนรออยู่ตรงโซฟาลายทางขาวสลับดำตัวนุ่ม ที่เริ่มทำหน้าเหมือนจะเคืองๆ แต่ก็เปลี่ยนเป็นตาค้างอย่างตกตะลึง เมื่อเห็นคนที่เดินเยื้องย่างลงมาจากบันไดชั้นสอง ซึ่งเจ้าตัวก็โพสต์ท่านางแบบให้คนที่กำลังนั่งรออยู่ดูเสียเลย แถมทำหน้าเชิดจนน่าหมั่นไส้ หนึ่งในผู้นั่งรออดรนทนไม่ได้ เอาหมอนอิงลายเดียวกับโซฟาปาใส่หล่อนทันที จนคนที่กำลังตั้งท่าเป็นนางแบบต้องโวยพลางหัวเราะไปด้วย
“อะไรกัน! แกกล้าเอาหมอนมาปาฉันเหรอ ไอ้โจ๊ก ถ้าโดนเมคอัพฉันเละล่ะก็น่าดูนะ เดี๋ยวต้องขึ้นไปแต่งตัวใหม่หรอก” โจ๊กหรือ เจียรนัย รีบยกมือไหว้หล่อนนอบน้อมเหมือนประชด
“สาธุ! กระผมขอโทษขอรับคุณนายดา ขืนรอคุณนายดาไปแต่งตัวอีกครึ่งชั่วโมง ไอ้อาการอยากแอลกอฮอล์ของกระผมนั้นคงจะหายหมดแล้ว” ดา หรือฉัตรธิดาหัวเราะกิ๊ก แล้วก้มลงหยิบหมอนมาปาคืนเพื่อน
“งั้นก็ไปกันได้แล้ว แหมรอนิดรอหน่อยทำหน้าบูดทั้งคู่เลย”
เจียรนัย เอาหมอนตบๆ ก่อนจะวางคืนที่เดิม และหันมาชวนชายหนุ่มหน้าตี๋ ที่กำลังทำหน้าเศร้าๆ อยู่
“ไปๆ ไอ้วิน ได้เวลาชายหนุ่มออกหาเหยื่อแล้วเฟ้ย เลิกๆ จะเศร้าอะไรนักหนากันวะ พอได้แล้ว”
วิน หรือ ชวิน พยักหน้าเนือยๆ ท่างทางก็ยังซังกะตายเหมือนเดิม ฉัตรธิดาเอียงคอมองหนุ่มตี๋เพื่อนสนิท ที่ยังอยู่ในชุดที่คาดว่าเพื่อนของหล่อนคงจะใส่ทำงานมาตลอดวันเพราะยังผูกไทค์ไว้เรียบร้อย เพียงแต่เสื้อยับไปนิดหน่อย ส่วนเจียรนัยนั้น แต่งหล่อเตรียมไปอวดสาวๆ เต็มที่ หล่อนเดินเข้าไปเกาะแขนชายหนุ่ม ก่อนจะถามขึ้นเบาๆ
“เศร้าอะไรของแกนะวิน แต่ว่าวันนี้พวกแกสองคน มาชวนฉันไปดริ๊งค์ด้วยเรื่องอะไรกัน?”
“ของฉันเรื่องอยากจะดื่มกับแกน่ะไอ้ดา เพราะพักหลังแกเลี้ยงแต่ลูกชาย” ประโยคหลังเขาหันมาทำเหมือนจะค้อนเพื่อนหญิง ฉัตรธิดาอมยิ้ม
“ทำตัวเป็นแม่ลูกอ่อน ไม่สังสรรค์กับพวกฉันเลย คิดถึงคอทองแดงแบบแกว่ะ คนที่ฉันฝากชีวิตไว้ได้ตอนเมาก็มีแต่ดาเพื่อนรักเท่านั้นเอง ส่วนไอ้หมอนี่” เขาตบบ่าชวินดังป๊าบ
“อกหักเฟ้ย! เลยเศร้าขนาดนี้”
“หือ ?” ฉัตรธิดาเลิกคิ้ว ไม่อยากซ้ำเติมเพื่อนหรอกแต่ก็อดไม่ได้
“ไหนว่าหวังแต่งไงวิน หมดเงินค่าเลี้ยงดูไปหลายไม่ใช่เหรอ” หล่อนนึกถึงแฟนสาวนักศึกษาที่ชวินเทียวรับเทียวส่งอยู่ ชวินถอนใจเฮือกใหญ่
“หวังแต่งไม่ได้แล้วเด็กมันมีกิ๊ก เจอจังๆ เลยเมื่อตอนกลางวัน”
“สดๆ เลย” หญิงสาวอดย้ำไม่ได้ ชวินทำหน้าเซ็งโลกแล้วพยักหน้า
“เอ่อ สดๆ เลย”
“ถ้าเปื่อยแล้วคงไม่ทำหน้าเซ็งขนาดนี้ ว่าแต่ลูกแกล่ะ ไม่อยู่หรือไง”
เจียรนัยช่วยซ้ำเติมชายหนุ่มเข้าให้อีกคน ก่อนจะมองไปรอบๆ บ้านหลังเล็ก ตกแต่งภายในอย่างมีรสนิยมของฉัตรธิดา ที่ปรกติมักจะมีสมาชิกตัวน้อยๆ อีกคนวิ่งซนอยู่ทั่วบ้าน ฉัตรธิดาส่ายหน้า
“ไปอยู่บ้านยายเขาน่ะ ยายเขาคิดถึงหลาน”
“แกยอมด้วยเหรอ ไอ้ดา”
เจียรนัยว่า อย่างคนที่รู้ตื้นลึกหนาบางของเพื่อนรักเป็นอย่างดี ฉัตรธิดาอมยิ้ม แล้วเริ่มเดินดูความเรียบร้อยของบ้าน ว่าหล่อนปิดประตูหน้าต่างหมดหรือยัง เพราะคืนนี้สงสัยจะกลับดึกแน่ๆ
“อืม...ทำไมล่ะ ก็เขาเป็นยายของหลานฉันนี่แก”
“เห็นแกหวงยังกะลูกตัวเอง”
เจียรนัยกระเซ้า วันนี้ชายหนุ่มไม่มีกองหนุนอย่างชวิน ในการโต้ตอบกับเพื่อนรัก เพราะชวินกำลังเซ็งกับเรื่องของตัวเองอย่างมาก
“ก็ลูกไง ฉันก้าวหน้ากว่าพวกแก ตรงมีลูกเป็นห่วงผูกคอแล้ว โดยไม่ต้องหาผัวมาให้เมื่อย”
“พูดจาไม่เป็นผู้หญิงเลยนะแก” ชวินอดไม่ได้ หันมามองฉัตรธิดาเขม็ง จนหล่อนต้องหัวเราะ
“เอ่อ...อย่ามายุ่งเรื่องของฉันเลย คืนนี้ไปที่ไหนล่ะ ที่เดิมหรือเปล่า ไม่ค่อยมีวัยรุ่นซ่าๆ สาวๆ ก็สวย ฉันจะได้ไปขอเบอร์ให้แกไง ให้ไอ้วินมันเอามาดามอกคืนนี้”
“ไม่เอาหรอก คืนนี้กะเอาให้เมาไปเลย ถึงมาลากแกไปดื่มด้วยไง จะได้ฝากชีวิตไว้ได้เหมือนที่ไอ้โจ๊กมันว่า” ชวินว่า
“ใช่ แล้วไปกับแกสงสัยสาวๆ จะไม่มองพวกฉันหรอกว่ะ ไอ้ดาเล่นงามหยดย้อยขนาดนี้”
เจียรนัยมองกวาดไปทั่วร่างบางของเพื่อนรักอย่างชื่นชม ฉัตรธิดาสวยซ่อนเปรี้ยวจริงๆ เขาอยากจะรู้ว่ามีผู้ชายสักกี่คนกัน ที่เห็นเพื่อนของเขาแล้วไม่หันกลับมามองซ้ำอีกครั้ง แต่เขาและชวินเอง รักเพื่อนคนนี้จนเกือบจะเหมือน เพื่อนเพศเดียวกันไปเสียแล้ว เลยได้แต่มองว่า เอ่อ...เพื่อนเรามันสวยมากเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดพิศวาสแบบอื่น กับฉัตรธิดาอีกเลย นอกจากจะเห็นหล่อนเป็นเพื่อนรักเท่านั้นเอง
ฉัตรธิดาหัวเราะกิ๊ก หล่อนมองเพื่อนทั้งสองอย่างรักใคร่ หล่อน ชวินและเจียรนัยเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย อาจจะเพราะความที่ฉัตรธิดามั่นใจในตัวเองสูง และเป็นคนสวยมาก เลยไม่ค่อยมีผู้หญิงที่ลงเรียนด้วยกันคบหากับหล่อน ส่วนหนึ่งเพราะความที่ฉัตรธิดาเด่นเกินไป ทั้งผลการเรียน ความสามารถและหน้าตา จนกลายเป็นเป้าที่ทำให้หลายคนอิจฉา ชวินและเจียรนัย มาคบหากับหล่อนก็เพราะความที่ทำงานกลุ่มร่วมกันและนับถือน้ำใจของฉัตรธิดา สองหนุ่มมักจะพาเพื่อนสาวของเขาทำอะไรแผลงๆ อยู่เรื่อย แต่ฉัตรธิดาก็ชอบและเห็นเป็นเรื่องสนุก เป็นต้นว่า โดดเรียนไปจีบสาวๆ ต่างคณะบ้าง หล่อนก็ไปกับเขา ไปนั่งหน้าสวยรอเพื่อนหล่อนเกี้ยวสาว หรือบางทีก็เที่ยวและดื่มกันโต้รุ่ง ฉัตรธิดาก็ตามไปด้วย พี่ชายของหล่อน ฉัตรชรินทร์ สมัยมีชีวิตมักจะปรามน้องสาว ที่แม้รู้ว่าปรามไปจะไร้ผลก็ตาม ฉัตรธิดาดื้อและเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองมากๆ อีกอย่างหนึ่งสองพี่น้อง คือหล่อนและพี่ชาย ก็ดูแลกันและกันเองมาตลอด ตั้งแต่บิดามารดาเสีย เขาเลยค่อนข้างจะไว้ว่าฉัตรธิดาจะไม่เสียคน ทั้งเรื่องหาเงินเรียนและดูแลบ้าน พวกเขาก็ช่วยกันมาตลอด จนกระทั่ง…
คิดมาถึงตรงนี้ฉัตรธิดาก็น้ำตาซึม ด้วยความคิดถึงพี่ชายที่เป็นเสมือนทุกอย่างของหล่อน เขาจากไปก่อนวัยอันควรพร้อมกับภรรยา และทิ้งฉัตรอัมรินทร์ หลานชายตัวน้อยที่อายุแค่ห้าขวบไว้ให้หล่อนด้วย ยังไงหล่อนก็ต้องดูแลหลานชายคนนี้ให้ดีที่สุด เพราะฉัตรอัมรินทร์เหมือนกับเป็นตัวแทนของพี่ชาย และญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของหล่อน กว่าจะได้ตัวหลานชายมาเป็นกรรมสิทธิ์ ฉัตรธิดาต้องฝ่าฟันมามาก ซึ่งในที่สุดเรื่องราวก็เรียบร้อย
“เงียบไปเลยนะแก เป็นอะไรวะ”
เจียรนัยสะกิด เมื่อเห็นว่าคนนั่งข้างๆ เริ่มเงียบ พวกเขาเลือกใช้บริการรถแท็กซี่ เพราะกะจะเมากันไปข้างหนึ่ง หลังจากที่ไม่ได้มาสังสรรค์กันหลายเดือน
“ปล่าว... กำลังคิดเรื่องแผนการตกแต่งบ้านใหม่ ให้กับเถ้าแก่ฮวดน่ะ” ฉัตรธิดาว่า ชายหนุ่มย่นคิ้วทันที
“แกจะทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นเซเว่นขายของไปได้ นี่เราจะไปเที่ยวนะโว้ย”
“เออ... ก็คิดนิดเดียวเอง แล้วเรื่องตกแต่งบ้านร้อยล้านของแกล่ะ”
หล่อนย้อนถามเพื่อนสนิทบ้าง เจียรนัยกับหล่อนทำงานเป็นมัณฑนากรอยู่ที่บริษัทเดียวกัน ส่วนชวินทำกิจการของทางบ้าน ซึ่งบางทีก็มีงานจ๊อบพิเศษ มาเพิ่มรายได้พิเศษให้เพื่อนทั้งสองด้วย