บทที่4

“ ช่วยด้วยค่า ช่วยนิราด้วย คุณพ่อ คุณแม่ พี่นิล ช่วยด้วย นิรากลัว ฮือ ๆๆๆๆ ” หญิงสาวละเมอขึ้นมาขณะที่ยังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง เธอส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น ทำให้มารดาที่กำลังเดินผ่านประตูห้องของลูกสาวเพื่อลงไปเตรียมตัวใส่บาตรยามเช้า ต้องชะงักและรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของเธอ

“ นิรา นิรา หนูเป็นไรหรือเปล่าลูก” มารดารีบเดินเข้ามาปลุกลูกสาวที่กำลังตกใจอยู่กับความฝันของเธอ

“ คุณแม่ ช่วยนิราด้วย ฮือๆๆๆ” หญิงสาวรีบผวาเข้าสู่อ้อมกอดของผู้เป็นมารดา แต่ยังไม่หยุดร้องไห้คร่ำครวญ

“ โอ๋ๆ แม่อยู่นี่แล้วค่ะ ไม่เป็นไรน้าลูก แม่อยู่กับหนูตรงนี้แล้ว ไหน ดูสิ โตเป็นสาวแล้วยังร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ได้ แฟนคลับมาเห็นอายตายเลย ไหนเป็นอะไรบอกแม่สิคะ”นิราพยายามหยุดเสียงสะอื้นไห้ของตนเองแล้ว แต่มันก็ยังมีหลงเหลือเสียงสะอื้นและยังสะอึกอยู่บ้าง

“ฮึก... คุณแม่ นิราฝันร้ายค่ะ นิราฝันเห็นงูเผือกตัวใหญ่ มันเลื้อยเข้ามาแล้วจ้องหน้านิรา นิราขยับตัวไม่ได้เลยจากนั้นมันก็เลื้อยเข้ามารัดตัวนิราจนนิราหายใจแทบไม่ออกแน่ะค่ะ นิรากลัวแทบตาย” หลังจากพยายามหยุดสะอื้นไห้ได้แล้วนิราก็พยายามเล่าความฝันให้มารดาฟัง คุณแม่ยิ้มขันก่อนจะแซวสิ่งที่นิราไม่คาดคิด

“ สงสัยแม่กำลังจะได้ลูกเขยแล้วล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” หลังจากนิราฟังมารดาพูดจบก็ผงะออกจากอ้อมกอดของมารดาเพื่อมองหน้ามารดาด้วยความสงสัย

“คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ งูเผือกตัวนั้นน่ะหรอคะที่จะเป็นว่าที่ลูกเขยของคุณแม่ เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ ตั้งแต่นิราโตมา นิรายังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ไม่เคยสนใจใครด้วย” เธอกระเง้ากระหงอดมารดา เธอไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ จะให้เธอมีแฟน มีเนื้อคู่ได้ยังไง ในเมื่อเธอยังไม่เคยเจอคนที่ถูกใจเลยสักคน จู่ๆความคิดก็หยุดชะงักไปเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เกือบทำเธออายบนเครื่องบิน ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตรจากกรีกผู้นั้น เขาเป็นใครกันนะ เอ๊ะ! แล้วเธอจะนึกถึงเขาทำไมกันนิรา นิราพยายามส่ายหน้า ไม่อยากจะนึกถึงใบหน้าและน้ำเสียงเย็นชาของผู้ชายคนนั้น

“ ก็ไม่แน่หรอกนะคะลูก สวรรค์อาจจะส่งเนื้อคู่มาให้หนูแล้วก็ได้ แหม งูเผือกซะด้วย ฮ่า ฮ่า สงสัย ฉันจะได้ลูกเขยไม่ธรรมดา” มารดากล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ นิราส่งค้อนน้อยๆให้มารดา

“ คุณแม่ตื่นเช้าจังค่ะ” นิราเหลือบมองนาฬิกาบนหัวเตียงก่อนจะมองหน้ามารดา

“ แม่ตื่นมาใส่บาตรค่ะลูก วันนี้วันพระนะจ๊ะ หนูจะใส่บาตรกับแม่หรือเปล่า เผื่อจะได้สบายใจขึ้น” นางกวินาบอกลูกสาวสุดสวยของตนที่ตอนนี้ทำหน้ายุ่งนั่งพิงหัวเตียงอยู่ ใบหน้าของหญิงสาวตอนนี้เลอะไปด้วยคราบน้ำตา ผมเผ้าก็ยุ่ง หมดคราบดาราสาวสุดสวยของวงการเลยทีเดียว

“ก็ดีเหมือนกันค่ะ คุณแม่เผื่อขอให้ได้เจอเนื้อคู่ให้เร็วขึ้น อิๆ” หญิงสาวยังมีอารมณ์พูดเล่นกับมารดา ก่อนจะผละออกไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนขนาดกลางแห่งนี้ หญิงสาวใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานเพราะกลัวไม่ทันตักบาตร แต่งหน้าบางๆแค่ทาแป้งฝุ่นก็ดูดีแล้ว หญิงสาวสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกขนาดสูงเท่าเธอ หมุนซ้ายทีขวาทีก่อนจะลงไปหามารดาด้านล่างเพื่อใส่บาตรยามเช้า หลังจากทั้งครอบครัวของเธอใส่บาตรเสร็จแล้วทุกคนจึงมาทานข้าวร่วมกันในห้องอาหารภายในตัวบ้านทรงไทยหลังใหญ่ของครอบครัว มารดาเล่าให้ลูกชายกับสามีฟังเกี่ยวกับความฝันของลูกสาวก่อนที่ทุกคนจะพากันหัวเราะเสียงดัง เพราะทุกคนรู้ดีว่าหญิงสาวไม่เคยมีแฟนและไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหน แม้จะทำงานในวงการบันเทิงและมีทั้งพระเอกและบรรดาไฮโซมาสนใจก็ตาม นิราไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครรวมถึงตัวของเธอเองด้วย เหตุผลที่ทุกคนในครอบครัวก็รู้ คือเธอยังรู้สึกสนุกกับงานในวงการ เธอไม่ชอบเป็นข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว มันทำให้ภาพลักษณ์ของเธอดูแย่ อีกอย่างเธอรักอิสระเกินกว่าที่จะผูกมัดกับใคร

เช้านี้นิรันดร์ต้องเข้าเมืองไปประชุมกับคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัทส่งออกผลไม้อบแห้งและไวน์ของเขา ซึ่งมีโรงงานอยู่ภายในไร่รักตะวันแห่งนี้ นิราติดตามไปด้วยโดยขอให้พี่ชายแวะส่งเธอที่วัดพระสิงห์และเธอขอเดินเล่นอยู่แถวนั้นจนกว่าพี่ชายจะประชุมเสร็จ แม้พี่ชายจะกังวลอยู่บ้างไม่อยากให้น้องสาวอยู่ลำพังเพราะน้องเป็นคนมีชื่อเสียงและเป็นนางเอกละครยอดฮิตที่เพิ่งลาจอไปเมื่ออาทิตย์ก่อนที่นิราได้รับรางวัลแน่นอนว่าต้องมีคนจำเธอได้ แต่วันนี้เธอมีนัดกับข้าวหอม เพื่อนสนิทสมัยมัธยมของเธอที่วัดแห่งนั้นชายหนุ่มจึงหายกังวลใจ อย่างน้อยน้องสาวของเขาก็มีเพื่อนคอยอยู่ด้วย วันนี้นิราแต่งตัวสบาย สบาย เธอสวมเสื้อยืดสีขาวพร้อมเสื้อคลุมแขนยาวคาดิเก้นสีน้ำเงินเพื่อกันแดด กางเกงยีนส์ทรงขากระบอกสีซีด รองเท้าผ้าใบสีขาว สวมหมวกแบบมีปีกสีฟ้าโดยทรงผมปล่อยลู่สยายไปกับแผ่นหลังและแว่นตากันแดดสีชา ใบหน้าของเธอแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบา แต่ก็ไม่ทำให้ดาราสาวลดความมีออร่าลงได้เลย ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูได้รูปยกยิ้มเมื่อพี่ชายขับรถมาถึงหน้าวัดพระสิงห์และเห็นว่าเพื่อนสาวยืนรออยู่แล้ว

“ข้าวหอม” หญิงสาวส่งเสียงเรียกเพื่อนรักที่กำลังยืนรออยู่ภายในลานจอดรถของบริเวณวัด วัดแห่งนี้ถึงจะไม่กว้างมากแต่ก็มีที่จอดรถเพียงพอต่อนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนที่มาเยี่ยมเยือนและทำบุญที่วัดแห่งนี้

“นิรา สวัสดีค่ะพี่นิล” ข้าวหอมส่งเสียงทักทายเพื่อนสาวก่อนจะยกมือขึ้นไหว้พี่ชายของเพื่อนสาวซึ่งมีอายุมากกว่านิราและเธอหลายปี นิลรับไหว้ก่อนจะลอบมองหน้าเพื่อนของน้องสาว เมื่อก่อนไม่สวยแบบนี้นี่หว่า ถึงจะสวยสู้น้องสาวของเขาไม่ได้แต่ก็สวยในแบบฉบับของสาวเหนือ ดวงตาเรียวเล็ก ที่มองมานั้นมีแววใสซื่อ ไหนจะรอยยิ้มแสนจริงใจนั่นอีก ผิวขาวนวล ใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากบาง ส่วนสูงน่าจะต่ำกว่าน้องสาวของเขาประมาณนิดนึง แต่คงห่างจากเขาเยอะอยู่ ดูก็รู้ว่าตัวเล็กซ่อนรูป ริมฝีปากหนายกยิ้มก่อนจะยกมือรับไหว้เพื่อนของน้องสาว สายตาที่จ้องมองเธอนั้นเต็มไปด้วยความสนใจ ข้าวหอมและนิราเองก็รู้สึกเช่นกัน ข้าวหอมใบหน้าขึ้นสีด้วยความเขินอายเมื่อถูกสายตาคมของพี่ชายเพื่อนจ้องมอง ไหนจะรอยยิ้มที่พาลให้ใจสั่นนั่นอีก นิลไม่มีแฟนมาจะ5ปีแล้ว เพราะแฟนเก่าของเขาหนีไปมีแฟนใหม่ที่เมืองนอกเนื่องจากนิลทำงานหนักหลังจากรับช่วงดูแลบริษัทและไร่ของครอบครัว เธอเลือกความสบายดีกว่ามาอุดอู้อยู่ในไร่กับเขา นิราเองก็อยากให้พี่ชายมีความสุข ถ้าจะลงเอยกับเพื่อนของเธอจริงๆก็ดี ข้าวหอมนิสัยดี เรียบร้อย เรียนเก่งจนสอบเข้าคณะแพทย์ที่มหาลัยเชียงใหม่ได้ พอเรียนจบเธอก็เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ วันนี้เป็นวันหยุดคุณหมอสาวจึงมีเวลามาเจอเพื่อนซุปตาร์อย่างเธอได้ พูดได้เลยทั้งเธอและเพื่อนยุ่งพอๆกัน

“ อะแฮ่ม พี่ชายขาไม่รีบไปประชุมหรอคะ เดี๋ยวไปสายระวังจะชวดคู่ค้าเอานะคะ” นิราขัดจังหวะพี่ชายที่กำลังจ้องมองมาเพื่อนของเธออย่างสำรวจ จนเพื่อนสาวของเธอหน้าแดงเป็นลูกตำลึง นิรันดร์ได้สติจึงหันไปสั่งน้องสาวของเขา

“ นิรา รอพี่อยู่แถวนี้นะ ประมาณ3ชม.ก็เสร็จแล้ว ข้าวหอมพี่ฝากนิราด้วยนะ ยัยนี่ซุ่มซ่าม เดี๋ยวไปเหยียบเท้าใคร หรือไม่ก็ไปสะดุดหกล้มให้อายแฟนคลับเอา” ข้าวหอมพยักหน้ารับปากก่อนจะจูงมือนิราเดินจากไปพร้อมกับนิรันดร์เคลื่อนรถออกไปเช่นกัน

ตั้งแต่นิราลงจากรถก็สังเกตุได้ถึงบรรยากาศรอบข้าง เธอเชื่อว่าการมาเที่ยวครั้งนี้ คงมีคนจำเธอได้แน่นอน ถึงแม้จะแต่งตัวธรรมดาก็ตาม แล้วที่สิ่งเธอคิดไว้ก็ไม่ผิด มีแฟนคลับจากละครจำเธอได้ จึงเข้ามาขอถ่ายรูป ซึ่งหญิงสาวก็ยอมให้ถ่ายด้วยความเต็มใจ ข้าวหอมเป็นคนกดชัตเตอร์จากกล้องของแฟนคลับให้เธอก่อนจะขอตัวเพื่อนของเธอเพื่อความเป็นส่วนตัว ซึ่งแฟนคลับก็เข้าใจ และปล่อยให้ดาราสาวกับเพื่อนใช้เวลาส่วนตัว

“ฮอตจริงๆ เพื่อนฉัน เดินไปไหนมีแต่คนจำได้ ฉันล่ะเหนื่อยแทนแกเลย ” ข้าวหอมหันไปคุยกับเพื่อนหลังจากเข้ามานั่งในคาเฟ่ร้านเล็กๆแถวบริเวณหน้าวัด ร้านนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะจึงทำให้ดาราสาวมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น หลังจากเข้าไปในวัดไหว้พระ เธอก็โดนรุมขอถ่ายรูปและแจกลายเซ็นต์จนเหนื่อย หลายคนเข้ามาทักเธอว่าแก้วใจใช่ไหม เธอก็ยิ้มให้ เพราะนั่นคือบทบาทล่าสุดที่ทำให้เธอได้รับรางวัล และเป็นละครสุดฮอตของเธอที่ทำให้เธอมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น

“ธรรมดา ฉันเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องทำใจอะ ว่าไปข้างนอกความเป็นส่วนตัวก็จะลดน้อยลง แกเป็นเพื่อนซุปตาร์อย่างฉันเธอก็ต้องเข้าใจน้าคุณเพื่อน” นิรายกแก้วกาแฟขึ้นดื่มก่อนจะตอบเพื่อนสาวไป

ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน เพราะไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว หลังจากที่นิราทำงานในวงการบันเทิงและข้าวหอมเป็นแพทย์เต็มตัว เสียงกระดิ่งจากหน้าร้านดังขึ้น แล้วประตูคาเฟ่ก็ถูกเปิดออกโดยชายหนุ่มที่แต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำก่อนจะมีชายหนุ่มหน้าตาคล้ายฝรั่งเดินเข้ามาก่อน รูปร่างสูงโปร่ง แต่งกายด้วยชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเต็มยศ กำลังก้าวเดินผ่านโต๊ะของนิรา หญิงสาวซึ่งกำลังพูดคุยกับเพื่อนสนิทอยู่ชะงักนิดนึง ก่อนจะเผลอแสดงสีหน้าตกใจออกมาให้เพื่อนเห็น ชายหนุ่มเหลือบมองเธอเช่นกัน สายตาคมสบเข้ากับดวงตากลมหวานที่ตอนนี้ปราศจากแว่นสีชาที่เจ้าตัวสวมใส่ตอนมาที่วัดด้วยแล้ว ความรู้สึกของทั้งคู่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เขาไม่คิดว่าจะเจอเธออีก และเธอก็เช่นกัน เดวิดเดินไปนั่งโต๊ะถัดจากนิราไปสองโต๊ะพร้อมเลขาหนุ่มที่กำลังมองหน้าเจ้านายหนุ่มที่มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนเขาจะจ้องมองตามสายตาของเจ้านายไปเจอกับหญิงสาวสุดสวยคนหนึ่งซึ่งมองดูยังไงก็คุ้นหน้าคุ้นตา โอ้ว นี่เจ้านายเขามีความรู้สึกด้วยหรอเนี่ย เลขาหนุ่มนึกฉงนในใจ

“มีอะไรหรือเปล่านิ คนรู้จักหรอ เห็นแก

มองเขาอ่ะ” ข้าวหอมทักขึ้นก่อนนิราจะรู้สึกตัวแล้วเล่าให้เพื่อนฟัง

“ เปล่า ไม่ใช่คนรู้จัก แต่ฉันเจอเขาบนเครื่องบินขามาเชียงใหม่วันก่อน ฉันบังเอิญสะดุดเท้าตัวเองน่ะ เลยหงายหลัง ดีนะเค้ารับฉันไว้ทัน ไม่งั้นหมดสภาพอิๆ” นิราตอบเพื่อนก่อนจะเสยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ เธอไม่คิดว่าจะได้เจอเขาที่นี่อีก โลกมันช่างกลมดีจริงๆ

“ โอ้ย ยัยซุ่มซ่าม ให้ตายสิน่า แล้วเวลาแกแสดงละคร ต่อบท เดินแบบ ถ่ายงานแกไม่ไปสร้างความวุ่นวายให้เค้าหรอ ฮ่าๆๆๆๆ” ข้าวหอมว่าพลางหัวเราะใส่เพื่อนเสียงใส นิราทำหน้ายู่ก่อนจะตอบเพื่อน

“ แหม ฉันก็มีสปิริตของตัวเองอยู่หรอกน่า เวลาแบบนั้นใครจะปล่อยให้ความซุ่มซ่ามเงอะงะแสดงออกมา ฮ่าๆๆๆ” นิราหัวเราะตัวเอง ใช่ เวลาทำงานเธอจะตั้งใจทุกครั้ง ยกเว้นเวลาอยู่ในเวลาส่วนตัวเธอจะไม่ค่อยบังคับตัวเองมากนัก เสียงหัวเราะใสๆ ทำให้คนที่อยู่โต๊ะถัดออกไปมองมา สายตาแสนเย็นชานั้นยังมีอยู่ แต่มันก็แฝงไปด้วยความสนใจ

“ นายครับ ผมนึกออกแล้ว ว่าผู้หญิงที่นายรับไว้บนเครื่องบินเธอคือใคร นี่ครับ” เลขาหนุ่มทำท่านึกอะไรออก หลังจากมองหน้าอีกฝ่าย ตามสายตาของเจ้านายของเขา เลขาหนุ่มยื่นสมาทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของตนยื่นให้เจ้านายหนุ่มดู

“นิรา นิรันนุกุล นักแสดง นางแบบโฆษณา นางเอกดาวรุ่งยอดนิยมประจำปี2020 จากบทละคร แก้วใจ อายุ 23 ปี เกิดวันที่ 15 เมษายน 2540 ภูมิลำเนาเดิมเป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คณะนิเทศศาสตร์ เอกศิลปะและการแสดง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีพี่ชาย 1 คน ชื่อนายนิรันดร์ นิรันนุกุล อายุ 30ปี สถานะตอนนี้โสด เข้าวงการมาได้เพียง 1ปี แต่เพราะความประพฤติและฝีมือการแสดงดี จึงทำให้ได้รับรางวัลและขึ้นเป็นนางเอกแถวหน้าของช่องที่มีค่าตัวสูงพอๆกับรุ่นพี่หลายคน”

เขาอ่านประวัติคร่าวๆของเธออย่างพอใจก่อนมุมปากจะยกยิ้มนิดนึงโดยที่เลขาของเขายังไม่ทันมองเห็นเพราะเดินไปสั่งกาแฟให้เจ้านาย เขาและปกรณ์เพิ่งกลับมาจากการประชุมกับบริษัทของธเนศเรื่องการเปิดสาขาใหม่ของช็อปน้ำหอมแบรนด์ไทยของเขาในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง เขาต้องการขยายไปทั่วทุกภูมิภาค โดยนำร่องจากกรุงเทพฯภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคอีสาน จนประสบผลสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ภาคเหนือเท่านั้น สินค้าของเขาเป็นที่ถูกใจในกลุ่มของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะที่ประเทศจีน บริษัทของเขามีออเดอร์เยอะทีเดียว บริษัทของเขาเติบโตขึ้นมากภายในระยะเวลาที่เขาบริหารงานเพียง2ปีเท่านั้น

“เป็นไงครับนาย แต่นายคงไม่รู้จักเธออยู่แล้ว เพราะนายไม่ดูข่าวบันเทิง ไม่ดูละคร ไม่แปลกที่นายกับผมจะไม่รู้จัก” ปกรณ์กล่าวกับเจ้านายหนุ่มขณะนำกาแฟมาเสิร์ฟให้เจ้านายของเขา

“อืม ก็ดี” เดวิดตอบเลขาหนุ่มแค่นั้นก่อนสายตาจะเหลือบไปมองใบหน้างามอีกครั้ง เหมือนหญิงสาวจะรู้ตัว เพราะทั้งคู่สบสายตากันหลายครั้ง จนเป็นเธอเองที่ต้องเสมองไปทางอื่น

“ อืม ก็ดี?” ปกรณ์ทวนคำของเจ้านายหนุ่ม เขาอยากจะเขกหัวตัวเอง รู้ทั้งรู้เจ้านายเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน เขาจะมาสนใจเธอได้ยังไง ก็แค่ดาราหน้าใหม่ ขนาดคนที่อยู่มาก่อนตั้งนาน พยายามทอดสะพานให้เจ้านายของเขายังไม่สนใจเลย อย่างพรีเซ็นเตอร์น้ำหอมคนล่าสุดที่เพิ่งถูกถอดสัญญาไปเพราะพยายามยั่วยวนเจ้านายของเขาจนไม่พอใจ จึงสั่งปลดออกโดยไม่รอหมดสัญญาเลยก็ว่าได้ ตอนนี้ที่บริษัทกำลังต้องการพรีเซ็นเตอร์คนใหม่อยู่ เอ หรือจะเป็นเธอดี ความสวยหวานใช้ได้ ตรงคอนเซป ความดังก็การันตีด้วยรางวัล แต่คนนี้จะผ่านเจ้านายเขาไปได้อีกหรือเปล่าน้า ดูๆใสๆไม่น่าจะมีมารยา

“ แล้วแกจะให้ฉันตอบว่าอะไรปกรณ์” เดวิดเอ็ดใส่เลขาหนุ่ม

“ นายครับผมว่าพรีเซ็นเตอร์น้ำหอมคนใหม่ของบริษัทเราเป็นเธอก็น่าจะดีนะครับ เธอน่าจะตรงคอนเซปแทนเอวิกาได้ดีที่สุด ดูๆเธอก็คงไม่สนใจนายด้วย” เดวิดตวัดตาคมมองเลขาส่วนตัวของตน เป็นเชิงถามว่าเขามีอะไรไม่ดีเธอถึงไม่สนใจ เขาไม่เชื่อสายตาเธอที่มองมายังเขายังไง ก็บ่งบอกว่าสนใจ และเขาก็สนใจเธอเช่นกัน

“ถ้านายเป็นข่าวกับผู้หญิงบ้างผมก็ว่าดีนะครับ คุณท่านจะได้หมดห่วงไม่คิดว่าเจ้านายเป็น... ฮ่าๆๆ” ปกรณ์เสนอความเห็นแล้วหัวเราะออกมา ก่อนจะหุบปากแทบไม่ทันเพราะเจอสายตาที่คนอื่นเห็นคงจะกลัวจนหัวหดไปแล้ว แต่สำหรับเขาซึ่งเห็นเจ้านายหนุ่มมาตั้งแต่เด็กๆจึงไม่รู้สึกอะไร

“ถ้าอยู่ข้างนอกแกโดนฉันเตะไปแล้วไอ้ปกรณ์” เดวิดขู่ด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม

ทางด้านนิรา พอคุยกับข้าวหอมจนหอมปากหอมคอได้คลายความคิดถึงเพื่อนลงไปบ้างข้าวหอมก็ขอตัวกลับก่อนเนื่องจากมีเคสผ่าตัดด่วนเข้ามาเป็นคนไข้ของเธอ จึงปฏิเสธไม่ได้แม้จะไม่ใช่เวลาทำงานก็ตาม

เสียงริงโทนดังขึ้นจากสมาร์ทโฟนเครื่องบาง นิราหยิบขึ้นมามองก่อนจะยกยิ้มน้อยๆ ซึ่งเดวิดมองเห็นอาการนี้เช่นกัน ไหนว่าไม่มีแฟนไงวะ ดารานี่ไว้ใจไม่ได้ให้ตายสิน่า

“ ค่า หนูรอพี่อยู่คาเฟ่แถวๆวัดเนี่ยแหละค่า เสร็จแล้วใช่ไหมคะ ราบรื่นดีหรือเปล่า มารับเลยก็ได้ค่า พอดีข้าวหอมขอตัวกลับก่อน มีเคสด่วน ค่าๆรีบมาน้า” นิรารับสายก่อนกรอกเสียงไปตามสายพี่ชายของเธอ พอเธอวางสายไปก็เผลอเหลือบไปมองที่โต๊ะของชายหนุ่ม แต่เธอต้องสะดุ้งจากสายตาคมกล้าที่มองมาที่เธอโดยไร้ความรู้สึกสนใจเช่นเดิม แต่ในแววตานั้นกลับมีความขุ่นเคืองซ่อนอยู่ เธอจึงหลบสายตาและเก็บมือถือใส่กระเป๋าสะพายใบเล็ก หยิบหมวกและแว่นตาขึ้นมาสวมใส่ แล้วเดินออกจากร้านไป ยังไม่ทันเดินพ้นหน้าร้านกาแฟก็มีแฟนคลับเข้ามาถ่ายรูป เธอก็หยุดเดินและส่งยิ้มให้แฟนคลับที่เข้ามาขอถ่ายรูปด้วยอย่างเป็นกันเอง ความสดใส และไม่ถือตัวของดาราสาวอยู่ในสายตาคมของเดวิดตลอดเวลาที่เธอยังไม่พ้นไปจากบริเวณนี้

“แล้วเราจะได้พบกันอีกสาวน้อย”เดวิดคิดในใจ กว่าหญิงสาวจะพ้นจากเหล่าแฟนคลับตลอดทางเดินกลับวัด พี่ชายของเธอก็มาจอดรถรออยู่พอดี

“เป็นไงซุปตาร์ กว่าจะมาถึงพี่ได้ยิ้มจนเหงือกแห้งเลยล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ” นิลแซวน้องสาวหลังจากที่เธอเปิดประตูขึ้นรถมาแล้ว

“กว่าจะหลุดจากกลุ่มแฟนคลับมาได้แทบแย่ รีบกลับกันเถอะ น้องหิวจะแย่อยู่แล้ว” นิราทำสีหน้าเพลีย ก่อนจะหลับตาลง พี่ชายไม่ถามอะไรอีกจึงขับรถออกจากวัดมุ่งสู่อำเภอแม่แตง เพื่อกลับบ้านและไร่อันเป็นที่รักของครอบครัวเธอ เธอต้องกลับไปเตรียมตัวเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯในวันพรุ่งนี้ พอนึกถึงต้องขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้เธอก็อดคิดถึงชายหนุ่มหน้าตาแสนเย็นชาคนนั้นไม่ได้ สองครั้งแล้วที่เจอกัน ถ้าเจอกันอีกครั้งคงไม่เรียกว่าบังเอิญแล้วล่ะมั้ง หวังว่าคงจะไม่ได้เจอกันอีกนะอีตาหน้าตาย คนอะไรเย็นชาจัง นิราคิดในใจขณะหลับตาอยู่ เธอหารู้ไม่เที่ยวบินพรุ่งนี้ก็มีเดวิดกับเลขาโดยสารด้วยเช่นกัน และเธอก็จะได้ร่วมงานกับเขาในอีกไม่ช้านี้อย่างแน่นอน