ตอนที่ 8 งานพาร์ทไทม์ 2
19.15 นาที
"อ่าวมาไวจังพี่ตา"
"วันนี้รถไม่ติด" ตาหวานรับจ๊อบเป็นพนักงานเสิร์ฟในผับแห่งหนึ่งหลังจากพอมีเวลาว่างมาสมัคร เพราะที่นี่จ่ายเงินเป็นรายวันอีกทั้งเป็นเพียงพนักงานพาร์ทไทม์เท่านั้น ค่าแรงวันละ 300 บาท ไม่รวมติปจากลูกค้าได้วันละ 500-1,000 ถือเป็นเงินค่อนข้างมากทีเดียวและทำเฉพาะช่วง 20.00-02.00 เลยเป็นสาเหตุของการพักผ่อนไม่เพียงพอ
การมาถึงที่ทำงานก่อนเวลา ทำให้ตาหวานใช้นาทีที่เหลือนั่งพักสายตาหลับพักผ่อนโดยตั้งปลุกนาฬิกาตื่นก่อน 10 นาที ในช่วงไร้เวลาการพักผ่อนต้องสะสมชั่วโมงแห่งการหลับให้มากที่สุดเพราะอาชีพหลักยังไงก็ต้องเป็นเลขาให้อดีตแฟนเก่าอย่างชนินธร
"ทำงานๆ ตาหวาน" ตบหน้าตัวเองหน้ากระจกห้องน้ำหญิง ชโลมล้างหน้าเพื่อให้ตื่นตัวและออกไปปฏิบัติหน้าที่ วันนี้คือวันศุกร์สุดสัปดาห์ แน่นอนว่าเหล่าบรรดานักดื่มทยอยมาใช้บริการสังสรรค์ฟังเพลงและนั่งสนทนากันมากกว่าวันปกติ ถือเป็นเรื่องดีแขกเยอะยิ่งได้ติปเยอะ คิดมาแล้วก็ดีใจอยู่มากไม่มีเวลาพักผ่อนแต่มีรายได้มากขึ้นก็ถือว่าคุ้มกับการอดหลับอดนอน
“ตา เอามิกเซอร์ไปเสิร์ฟลูกค้าโต๊ะ 42 แล้วนี่น้ำแข็งโต๊ะ 40” เสียงชายหนุ่มที่ทำงานในแผนกเครื่องดื่มส่งให้ตาหวานนำไปเสิร์ฟ
“ค่ะพี่ป๋อง มิกเซอร์โต๊ะ 42 น้ำแข็งโต๊ะ 40” ทวนตัวเองจะได้ไม่ลืม หากเสิร์ฟผิดโต๊ะแล้วเผลอไปเปิดแปลว่าต้องเป็นคนจ่ายเงินเอง รีบเข้ามารับเครื่องดื่มออกไปเสิร์ฟลูกค้าวันนี้ค่อนข้างหัวหมุนวิ่งไปวิ่งมาตาแทบลาย แม้จะเหนื่อยอยู่มากก็ต้องอดทนเพราะคำๆเดียวคือเงิน
“มิกเซอร์ได้แล้วค่ะ” วางลงพร้อมเปิดฝาโซดาและน้ำเปล่า ลูกค้าท่านนี้ถือเหล้ามาเองเป็นยี่ห้อที่ตาหวานไม่คุ้นและไม่รู้จักด้วยซ้ำแต่ดูแล้วคงแพงน่าดู
“ชงเลยไหมคะ” มองชายหนุ่มที่มานั่งดื่มคนเดียว ในขณะที่บรรยากาศมืดๆตามสไตล์ของผับ ลูกค้าท่านนี้กลับใส่หมวกแก๊บสวมแว่นตาดำ
“อืม เข้มๆ”
“ค่ะ” เทเหล้าโซดาผสมน้ำนิดหน่อย ตาหวานทำมันค่อนข้างคล่องอาจเป็นเพราะเธอทำมาหลายคืนเลยเริ่มชิน จากนั้นก็ปลีกตัวออกไปดูแลลูกค้าท่านอื่น แน่นอนว่าเด็กเสิร์ฟหน้าตาดีอย่างตาหวานมักเป็นที่แทะโลมจากบรรดาแขกหัวงู เวลาส่งแก้วเหล้ามือนิ่มๆก็มักโดนแขกจับมืออยู่บ่อยครั้ง หนักหน่อยก็จับสะโพกหรือแกล้งๆสัมผัสก้น ทว่าอีกฝ่ายก็ต้องอดทนและทำเป็นเพิกเฉย การทำงานแบบนี้ยังไงมันก็ต้องมี โดยไม่รู้ว่าทุกอริยบทที่ถูกกระทำอยู่ในสายตาแขกคนเมื่อสักครู่
“น้อง” แขกอีกโต๊ะเรียกตาหวานไปบริการ คราวนี้เป็นหนุ่มรุ่นใหญ่หุ่นท้วมๆ มีพุงไทป์เสี่ยหื่นกามไม่มีผิด
“รับอะไรเพิ่มไหมคะ” กล่าวถามตามหน้าที่ ทว่าถูกดึงมือขยับเข้าใกล้ แม้อยากจะดึงกลับก็ไม่กล้าทำต้องฝืนขยับรอฟังในสิ่งที่แขกต้องการว่าต้องการสั่งหรือใช้งานอะไร
“เพื่อนเสี่ยสนใจ”
“….” เลิ้กคิ้วสงลสัย
“รับไหม” ตาหวานอึ้งกับคำถามที่ส่อว่าเธอขายตัวหรือเปล่า พยายามคิดในแง่ดีว่าคงไม่ใช่เรื่องอย่างว่า
“รับอะไรคะ” ถามกลับย้ำให้แน่ชัดว่าคงจะเข้าใจอะไรผิด ทว่าอีกฝ่ายกลับหัวเราะเหมือนตาหวานเป็นตัวตลกและมองว่าเธอกำลังแกล้งอัพค่าตัวให้สูงขึ้น
ฮ่าๆๆๆ
“ไม่เอาน่า เท่าไหร่”
“….” มองลูกค้าด้วยสายตาไม่พอใจ ตาหวานกำลังถูกถามซื้อตัว
“ปกติเสี่ยจ่ายครั้งละห้าพัน แต่สำหรับหนู..." ใช้สายตาหื่นกามมองร่างแน่งน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นการอ่านกิน ลิ้นหนาน่าเกลียดเลียรอบริมฝีปากออกอาการชัดว่าต้องการผู้หญิงตรงหน้า
"....."
"เสี่ยว่ายังได้ ให้เท่านึงไปเลย”
"เป็นหมื่นเลยเหรอว่ะ" หัวเราะขึ้นมาอีกครั้งคล้ายเป็นการดูถูกตาหวาน จากที่โดนลวนลามมาตลอดทั้งคืนพอเจอคำพูดแบบนี้ทำให้คนฟังโมโหอย่างมากไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกโกรธในใจได้อีกต่อไป หยิบแก้วในมือของเสี่ยสาดเข้าหน้าเจ้าของแก้วอย่างเหลืออด ทำงานในที่แบบนี่ไม่จำเป็นต้องทำอย่างว่าเสมอไป
“เฮ้ย” ตกใจเมื่อเด็กเสิร์ฟกล้าทำแบบนี้ เสี่ยหัวงูหยิบอีกแก้วที่อยู่ในมือเพื่อนสาดเข้าใบหน้าเล็กคืนอย่างไม่ยอม ตาหวานเปียกชุ่มไปด้วยเหล้าตั้งแต่หัวจรดเท้ายิ่งโมโหเป็นไฟหนักเข้าอีก คนเสียเปรียบผู้ชายตัวโตจับถังน้ำแข็งที่ละลายเป็นน้ำราดหัวที่มีเพียงผมบางๆเปียกไปตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นกัน เป็นสถานการณ์ทะเลาะวิวาทก็ว่าได้ตาหวานกำลังถูกเสี่ยสองคนรุมทำร้าย อีกคนจับล็อคแขนผู้หญิงตัวเล็กๆไขว้ไปด้านหลัง อีกคนเทราดโซดาเทเหล้าที่พอหยิบได้ราดตาหวานคืนตั้งแต่หัวจรดเท้าสั่งสอนอีผู้หญิงที่มันจองหอง
“มึงไม่รู้เหรอว่าที่นี้ถิ่นกู” ง้างมือเตรียมตบคนไม่มีทางสู้ ทว่าหัวบางๆ ถูกขวดเหล้ายี่ห้อแพงฟาดลงบนหัวแตกกระจาย เป็นผลให้ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างหวีดร้องด้วยความตกใจ
“โอ๊ย” กุมศีรษะตัวเองในทันที เลือดไหลอาบลงมาเป็นเหตุให้ลูกค้าในร้านแตกตื่นกับเหตุการณ์ เสี่ยอีกคนปล่อยตาหวานเข้าไปดูเพื่อนที่กำลังครวญครางจากความเจ็บ เลือดสีแดงสดไหลอาบใบหน้าไม่มีที่ว่างมันน่ากลัวต่อสายตาผู้ที่กำลังมองเห็นสถานการณ์ในตอนนี้
“เกิดอะไรขึ้น” ผู้จัดการร้านวิ่งมาในช่วงทุกอย่างมันบานปลาย ข้าวของเสียหายแตกกระจายพอสมควรอีกทั้งมีผู้บาดเจ็บที่ใครๆก็ต่างรู้จักดีว่าเป็นคนใหญ่คนโต
“ค่าเสียหายส่งบิลเก็บตามนามบัตรนี้” เสียงทุ้มต่ำของลูกค้าท่านหนึ่งยื่นนามบัตรให้ผู้จัดการผับแสดงความรับผิดชอบ ก่อนจะลากตาหวานออกนอกร้าน ในขณะที่อีกคนพยายามยื้อดึงมือตัวเองออกเพราะกำลังกลัวจะเป็นผู้ชายอย่างไอ้เสี่ยหื่น
"ปล่อย"