ตอนที่ 7 งานพาร์ทไทม์ 1
หมดเวลาทำงานวันแรกของพนักงานใหม่อย่างตาหวาน หลายคนทยอยกลับบ้านและยังเหลือบางส่วนที่ยังทำงานหน้าหมุ้ยกันตามยถากรรมในยามที่เคลียร์งานยังเสร็จ แต่ปัญหานี้กลับไม่ใช่สำหรับตาหวานผู้จัดสรรเวลาตัวเองได้เป็นอย่างดี
"จะกลับแล้วเหรอครับน้องตา" คนสนิทของประธานชนินธรเดินออกมาจากห้องทำงานของฝ่ายบริหารก็เลี้ยวตัวเข้าหาเลขาคนใหม่ของเจ้านาย
"กลับแล้วค่ะพี่เจษ" ยิ้มตอบด้วยท่าทีผ่อนคลายเมื่อหมดเวลาทำงานในช่วง 5 โมงเย็นแล้วยังมีเวลาเหลือพอทำจ๊อบระยะสั้นๆ อย่างอื่นได้อีก
"แล้วกลับยังไงเหรอ"
"รถเมล์ค่ะ ง่ายๆประหยัดด้วย" ตอบด้วยรอยยิ้มด้วยความดีกับการเริ่มงานวันแรกและได้รับการต้อนรับจากพนักงานของบริษัท
"น้องตาคนรุ่นใหม่นะครับ ลดภาวะโลกร้อนให้สังคมด้วย" เจษเข้าใจแบบนั้นที่จริงตาหวานต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งที่จริงมีรถแบรนด์ญี่ปุ่น 1 คันที่ดาวน์ไว้ด้วยน้ำพักน้ำแรงไว้ใช้อำนวยความสะดวกในยามเดินทางไกล
“กลับแล้วนะคะ”
“กลับบ้านดีๆนะครับน้องตา” เป็นคำอวยพรให้อีกฝ่ายกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ แต่ทว่าเจ้าตัวกลับมีจุดหมายปลายทางไปที่อื่น เมื่อตาหวานเดินพ้นผ่านตึกทำงานชนินธรก็เปิดประตูออกมาเพราะมีจุดประสงค์จะชวนกลับด้วยกัน
"เจษ”
“ครับบอส”
“เลขากูไปไหน" ส่องสายตามองหาเลขาหน้าห้องที่หายไปในเวลาไม่กี่นานทีหลังเลิกงาน
"กลับบ้านแล้วครับ"
ชนินธรหมุนตัวกลับเข้าห้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปยังระเบียงห้องทำงาน ทว่าดวงตาคมเห็นตาหวานนั่งรออยู่ที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างออกไปไม่มากก็รีบเดินลงบันไดออกไปหน้าบริษัทไม่กี่ก้าวก็ถึงที่นั่งรอรถ แต่มันก็ไม่ทันตาหวานขึ้นแล้วรถเคลื่อนตัวออกไป ใบสมัครกรอกระบุว่าตาหวานมีรถยนต์ ทำไมต้องนั่งรถเมล์ ได้แต่สงสัยมันคงเป็นเรื่องส่วนตัวของตาหวาน
“ไวซิบ” ยืนเท้าสะเอวมองรถเมล์คันเก่าขับเคลื่อนออกไป
รุ่งเช้าวันถัดไป
"หาวแต่เช้าเลย" ตาหวานเดินเข้าออฟฟิศด้วยใบหน้าไม่สดชื่นคล้ายคนนอนไม่เต็มอิ่มเดินมาพร้อมกับเจษในเวลา 07.45 นาทีเพื่อแสกนนิ้วเข้าทำงานเหมือนเช่นปกติ
"พี่เจษ มาเช้าจังนะคะ" คนตัวเล็กที่มีรอบดวงตาคล้ำโต้ตอบด้วยน้ำเสียงเอื่อยไร้แรงกระฉับกระเฉง เจษคือบุคคลเดียวที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องแสกนนิ้วหรือตรอกบัตรลงเวลาเข้างานเพราะว่าเป็นทุกอย่างให้ชนินธร ฉะนั้นการเข้าออกงานตามใจตัวเองอาจจะเป็นขี้ปากคน เจษเลยเข้าออกงานเหมือนพนักงานท่านอื่นยกเว้นบางวันที่ต้องขับรถให้เจ้านายหรือไปธุระด้านนอกก็เท่านั้น
"วันนี้พี่ต้องรีบมาเตรียมเอกสารให้บอส"
"เอกสาร" ค่อนข้างงงในเมื่อตัวเองก็เป็นเลขาของชนินธรมีเอกสารส่วนไหนที่ตาหวานไม่รู้หรือไม่ได้ทำ ทั้งยังกลัวตัวเองจะเลือนเล่อเผลอทำงานไม่เรียบร้อย
"อีก 1 อาทิตย์บอสต้องไปภูเก็ต" ไม่รู้เลยว่าชนินธรต้องไปภูเก็ต ตาหวานพยักหน้าแล้วเดินขึ้นชั้นบนเตรียมตัวทำงาน ถือเป็นเรื่องที่ดีจะต้องไม่เห็นหน้าผู้ชายเฮงซวย แม้จะยังไม่รู้สึกอึดอัดเท่าไหร่แต่หากเจ้านายหนุ่มไม่อยู่ในวงโคจรของดวงตาก็คงทำงานสบายใจมากขึ้น
ตาหวานอ้าปากหาวแล้วหาวอีกด้วยความง่วง โด๊บกาแฟเพื่อให้ตัวเองสดชื่นไปแล้ว 3 แก้ว ทว่าก็ยังไม่หายง่วงสักที อาการง่วงง่าวหาวนอนอยู่ในสายตาของประธานหนุ่มผ่านกล้องวงจรปิด
"เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ" เปิดประตูออกมาเมื่อสังเกตเลขาอยู่เป็นเวลานานและเมื่อออกมาก็เห็นตาหวานอ้าปากหาวเบิกกว้างอยู่อย่างนั้น เมื่อเจ้านานโผล่หัวออกก็ต้องทำตัวให้เป็นปกติเพราะไม่อยากโดนตำหนิกับอาการที่เป็นอยู่
“งานใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ”
“ถามว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ” แค่นเสียงถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงคล้ายดุแต่ก็ไม่เชิง
"นอนดึกไปหน่อย" ก้มหน้าก้มตาพิมพ์เอกสารวาระการประชุมสรุปผลต่างๆ เพื่อยื่นให้บอร์ดผู้บริหาร โดยสายตายังคงจดจ้องมองร่างแน่งน้อยอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายนาที
"...."
เป็นแบบนี้อยู่นานหลายวัน ตาหวานมาทำงานด้วยอาการง่วง แม้มันจะไม่กระทบกับการทำงานเธอสามารถทำในสิ่งที่รับมอบหมายเป็นอย่างดี แต่อีกคนเริ่มสงสัยว่าเลขาหน้าห้องที่มีตำแหน่งเป็นอดีตแฟนเก่าไปทำอะไรมาลักษณะเหมือนคนอดหลับอดนอนแล้วก็เป็นแบบนี้มาหลายวัน ขอบตาเริ่มคล้ำดูผอมลงเล็กน้อยกว่าวันแรกที่เข้ามาทำงาน เป็นอีกวันที่ตาหวานอยู่ในสายตาของชนินธร โดยอีกฝ่ายไม่เป็นอันทำการทำงานเพราะจดจ่ออยู่กับอีกคน
ก๊อกๆๆ
“….” หันมองไปยังประตู ชนินธรยังอยู่ที่บริษัทช่วง 6 โมงเย็น
“ได้เรื่องแล้วครับบอส” เจษยิ้มแฉ่งมาแต่ไกลพร้อมไอแพดเครื่องใหญ่ส่งให้เจ้านายที่กำลังยืนดูดบุหรี่นอกระเบียงด้วยท่าทีเรียบนิ่ง
“มือกูไม่ว่าง” หมายถึงมือที่ไม่ว่างหนึ่งข้างคีบบุหรี่หนึ่งข้างล้วงกระเป๋ากางเกง แปลว่าลูกน้องอย่างเจษต้องเป็นคนเปิดในสิ่งที่ชนินธรให้ไปสืบมา
“บอสดูนะครับ” จอไอแพดขนาดใหญ่แสกนหน้าเป็นการปลดล็อคแล้วหันไปให้อีกฝ่ายเปิดรูปให้เจ้านายหนุ่มดูหลังจากส่งคนไปตามดูเมื่อวานนี้และได้เรื่องมาอย่างที่เจษว่า
ถือว่ามันทำงานตามคำสั่งได้ดี
“มันอยู่ตรงไหนว่ะ” พ่นควันขาวรดใบหน้าเจษ บุคคลที่ไม่ดูดบุหรี่สำลักควันตัวโยกไอแพดแทบหลุดมือ
แค่กๆ!!
“บอส พ่นออกมาได้” ต่อว่าเจ้านายเพราะเขากำลังโดนชนินธรโดนแกล้งทั้งยังเป่าควันรอบที่สองใส่หน้าเขาอีกครั้ง แค่กๆ!! เจษใช้มือปัดควันออกอีกรอบเพื่อให้กลิ่นของสารนิโครตินลอยออกไปจากบริเวณนี้
“ผมไม่บอกแล้วนะบอส หายใจไม่ออก”
“มึงขู่กูเหรอ”
“ใครจะไปกล้าขู่บอส ที่นี่อยู่แถวพระราม 9 ห่างจากบริษัท 15 กิโล” บอสหนุ่มขมวดคิ้วที่ได้ยิน
“อยู่แถวร้านไอ้ธาร ทำไมกูไม่เคยเห็น” ครุ่นคิดสักพักก่อนจะใช้คนสนิทกลับไปเอาของที่บ้านมาให้ ชนินธรไม่อยากย้อนไปย้อนมาสู้นั่งรอและทำงานไปพลางๆดีกว่า