บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ข้อเสนอที่น่าสนใจ

เมื่อขัดไม่ได้ชนินธรต้องรีบเดินตามแรงกระชากของเจษเข้าประชุมทั้งที่อยากจะออกไปเจอตาหวาน ทุกอย่างกำลังเริ่มการประชุมใช้เวลากินไปเกือบ 3 ชั่วโมง ทุกฝ่ายเห็นตรงกันทั้งหมดและแบ่งทีมเพื่อไปรักษาการทำเอกสารที่ต้องได้รับการอนุมัติในเวลาที่เร่งรีบ ส่วนชนินธรจะต้องเดินทางตามหลังหลังจากพนักงานบางส่วนเดินทางไปถึง 

"ทุกอย่างเรียบร้อย ขอบคุณที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ผมขอปิดการประชุม"

เสียงปรบมือต่างชื่นชมการตัดสินใจของชนินธร จากนั้นก็ทยอยเก็บแฟ้มกลับไปทำงานตามเดิม ชายหนุ่มก็เช่นกันรีบเดินไปชั้นล่าง วนสายตามองทั่วบริเวณโซนด้านล่างของบริษัทมองหาตาหวานแต่กลับไม่เห็น

“คงกลับไปแล้ว” รู้สึกว่าตัวเองพลาดโอกาสอันเอื้อมมือ ตาหวานหายไปแล้วจะมีโอกาสไหนเจอกันอีก

"บอสคะ เลขาคนใหม่รอในห้องแล้วค่ะ" พนักงานฝ่ายบุคลลยืนแฟ้มประวัติและสัญญาจ้างให้ชนินธร เจ้าตัวรับมันกุมไว้ในมือหยาบแต่ไม่เปิดอ่านแต่อย่างใด นอกจากยืนเท้าสะเอวมองไปมองหาก็ไม่เห็นเป้าหมายที่หัวใจจดจ่อในขณะนี้

 

 

แกร๊ก!!!

ชนินธรกลับมาชั้นบนเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาก็ไม่เจอใคร ไม่มีเลขาคนใหม่อย่างที่ฝ่ายบุคคลว่า ก่อนจะโยนแฟ้มเอกสารลงโต๊ะทำงาน  ปลดเนกไทออกเล็กน้อยเพื่อให้ช่วงลูกกระเดือกได้มีอากาศระบาย เสื้อสูทถอดคลุมเก้าอี้ทำงานพับแขนเสื้อเชิ้ตตัวในสีขาวครึ่งแขนอยู่ในลุคไม่เป็นทางการ นั่งมองแฟ้มหนาสีดำที่สอดกระดาษด้านหน้าว่าสัญญาจ้างเลขาคนใหม่

"หนีกลับบ้านไปแล้วเหรอ"  หมายถึงเลขาคนใหม่คงถอดใจไม่อยากทำงานที่นี่ต่อ ชนินธรส่ายหัวไม่ปลื้มกับพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ไม่อยากทำก็แค่แจ้งกันมาตรงๆจะได้เตรียมหาคนใหม่ได้ทันเวลา อุตส่าห์ชื่นชมเมฑญาสะดิบดีว่าหาคนมีโพรไฟล์ดีมาร่วมงาน แต่กลับล้มไม่เป็นท่าหายไปแบบงงๆ จากนั้นมือหนากำลังคว้าแฟ้มประวัติมาอ่านอยากรู้ว่าเป็นใครจะแบล็คลิสต์สักหน่อยก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงกดชักโคลกจากห้องน้ำส่วนตัวดังขึ้น 

? ชนินธรเดินไปหน้าห้องน้ำด้วยความสงสัยใครเข้ามาใช้ห้องน้ำส่วนตัวของเขา ยืนฟังอยู่สักพักด้วยความประหลาดใจทำไมถึงมีคนอื่นมาอยู่ในห้องน้ำ หากเป็นไอ้เจษลูกน้องคนสนิทก็คงไม่ใช่เพราะมันพาพนักงานบัญชีที่ข้อเท้าพลิกขับรถเองลำบากไปสรรพากรเพื่อยื่นภาษี เมื่อเดาไม่ออกว่าเป็นใครก็ต้องหมุนลูกบิดผลักประตูเข้าไปดู ทว่าชนินธรถึงกับตกใจเมื่อตรงหน้าคือตาหวานที่กำลังนั่งบนชักโคลกไถ่มือถือ ทันทีที่อีกง่ายรู้สึกตัวว่ามีคนเข้ามาก็ตกตะลึงไม่ต่าง

"อร๊าย" กรีดร้องเมื่ออีกฝ่ายเข้าห้องน้ำมาโดยพลการ ตาหวานรีบดึงแพนตี้สีชมพูขึ้นห่อหุ้มความเป็นสาวคล้ายว่าชนินธรจะมองเห็นมันแล้วและดึงกระโปรงที่เลิกสูงขึ้นไว้บริเวณเอวเล็กรั้งลงมาปิดช่วงล่างและจัดระเบียบให้เข้าที่

"คุณมาทำอะไรที่นี่"  ตาหวานเป็นฝ่ายถามก่อน โดยไม่รู้ว่าดับบิลเอสซีทีคือบริษัทของครอบครัวชนินธร

"ฉันควรเป็นฝ่ายถาม" 

คนตัวเล็กกว่ารีบออกจากห้องน้ำโดยอีกฝ่ายเดินตามมาติดๆ

"ไม่รู้เหรอว่าคือห้องทำงานฉัน" ตาหวานส่ายหน้าว่าไม่รู้ ทั้งที่จริงมีป้ายชื่อ ชนินธร นักขัตปรารถติดไว้หน้าประตูแต่คงเป็นเพราะความตื่นเต้นเลยไม่ทันสังเกตป้าย

"ถ้ารู้ฉันคงไม่มา" ยิ่งกว่าหน้าแตกเมื่อคนเด็กกว่าพูดแบบนั้น ชนินธรเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานเปิดแฟ้มประวัติในทันที ตาหวานคือเลขาคนใหม่ที่มาทำชั่วคราวแทนเมฑญา และเมฑญาไม่เคยรู้มาก่อนว่าทั้งสองรู้จักกันและยังถึงขั้นเป็นอดีตคนรักกันมาก่อน

เมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าที่นี่คือบริษัทของผู้ชายเฮงซวยใจก็เริ่มถอดไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว ตาหวานหยิบกระเป๋าใบเล็กสะพายข้างเป็นการบอกว่าต้องรีบออกไปจากห้องนี่โดยด่วน

"ฉันคงไม่สะดวกทำแล้ว ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เสียเวลา" ปฏิเสธการทำงานแม้เงินเดือนเริ่มจ่ายที่หมื่นแปดไม่รวมกับการออกงานนอกสถานที่ ไหนจะสวัสดิการต่างๆเป็นที่น่าพอใจอย่างมากทว่าก็ต้องปฏิเสธด้วยเหตุผลความรู้สึกส่วนตัว

“มีสปิริตหน่อย” ชนินธรเอ่ยขึ้นตาหวานแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วน แต่มันใช้ไม่ได้ผลไม่อยากทำก็คือไม่อยากทำ

"สองหมื่น" เสียงดังขึ้นตามหลังคนตัว ตาหวานง้างประตูเตรียมเดินออกแม้เงินเดือนที่ชนินธรเพิ่มให้อย่างไม่มีสาเหตุก็ไม่อาจทำงานร่วมกับคนที่เลิกกันแบบไม่สวย

"....."

"สองหมื่นห้า" ตาเบิกโพลงด้วยความตลึง ว่าที่เจ้านายให้เงินเดือนเพิ่มขึ้น ปากน้อยๆเม้มหลวมครุ่นคิดทำดีไม่ทำดี มันมากเกินกว่าพนักงานใหม่จะได้แบบนี้ เมื่อนึกถึงน้องนึกถึงปากท้องตาหวานก็เดินถอยหลังปิดประตูห้องทำงานและหันกลับมา จากที่แรกปฏิเสธหน้าตั้งหัวชนฝาก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อมีตัวเงินมาล้อให้เขวอย่างมาก สุดท้ายปัจจัยในการดำรงชีวิตมันก็คือเงิน

"ค่ะ" ตอบรับเสียงแผ่ว ทั้งกลัวหน้าแตกที่ยอมตกลงในยามที่รั้นและไม่ยินยอมจนชนินธรต้องเพิ่งเงินเดือนให้ มันเป็นคำตอบที่คนฟังอย่างผู้บริหารได้ยินและค่อนข้างพอใจ

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel