บทที่ 17 ซาตาน
“โอ๊ย นี่เธอทำอะไรเนี่ย ถอยออกไปนะ” เขาปัดมือหล่อนออกและยกมือปิดหน้าผากไว้
“อยู่เฉยๆ ได้มั้ยคะ ฉันจะประคบให้ เดี๋ยวจะได้ทายา” หล่อนจับมือเขาออก น้ำเสียงที่พูดออกมาไม่เกรงใจและดุอยู่ในที เขาเหลือบตามองหน้าหล่อน
“ไม่ต้อง ฉันบอกให้ถอยออกไป ออกไป”
เขาปัดมือหล่อนแรงกว่าเดิม ผลักหล่อนจนเสียหลักไปชนกับตู้เอกสารด้านหลัง เขาย่นหัวคิ้วแล้วรีบคลายออกหันหน้าหนีสายตาขุ่นที่จ้องมา หล่อนวางผ้าลงในกะละมัง เดินออกจากห้องไปเงียบๆ รู้สึกเจ็บหัวไหล่ที่กระแทกกับตู้เมื่อครู่นี้
“ซาตานส่งมาเกิด เราอุตส่าห์ไปขอโทษจะทายาให้กลับผลักเรากระเด็น” หล่อนบ่นอุบอิบเข้ามาในห้องครัว จันทร์หันมามอง
“หน้าบูดมาอย่างนี้ คุณชิสส์ไล่ออกมาละสิ”
“ก็ใช่นะสิพี่ ไม่ใช่แค่ไล่อย่างเดียวนะผลักฉันกระเด็นไปชนตู้ ไหล่ทรุดแล้วมั้ง”
ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางบึ้งกว่าเดิม จันทร์ขมวดคิ้วกับคำพูดเชิงฟ้องของปรายชล ภูชิสส์ไม่ใช่คนใจร้ายอย่างนั้น เขากล้าทำอย่างที่ปรายชลพูดจริงหรือ ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน เจ้านายของหล่อนไม่ทำร้ายผู้หญิง ไม่แน่นอน หล่อนส่ายหน้าเร็วๆ
“ไม่จริงหรอก แกอย่ามาใส่ร้ายคุณชิสส์นะปราย คุณชิสส์ไม่เคยทำร้ายผู้หญิง”
“พี่จันทร์ไม่เชื่อฉันเหรอ ถ้าอย่างนั้นดูไหล่ฉันนี่”
หล่อนเดินเข้าไปหาจันทร์ ดึงคอเสื้อออกจากไหล่ขวา รอยแดงช้ำปรากฏที่ไหล่เนียน ความคิดเข้าข้างเจ้านายหยุดไปชั่วขณะหนึ่ง
“แกพูดจริงๆ เหรอ”
“ฉันจะโกหกพี่ทำไม เขาโกรธเกลียดฉันเรื่องอะไร ฉันไม่เคยรู้จักเขามาก่อนเลยนะพี่จันทร์ พี่สาวฉันฝากให้มาทำงานด้วยแค่นั้นแต่ที่เขาทำกับฉันเหมือนกับฉันไปฆ่าคนที่เขารักตายต่อหน้าต่อตาอย่างนั้นแหละ บ้าชะมัด”
หญิงสาวโกรธชายหนุ่มผู้สร้างความสับสนให้กับหล่อนตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกับเขา อยู่ๆ เขาก็เข้ามานั่งในบ้านของหล่อนและพาหล่อนมาที่นี่ หลังจากรู้จักกันไม่ถึง 2 ชั่วโมง เขากลายเป็นเจ้านายเมื่อเท้าของหล่อนก้าวเข้ามาในบ้านไม้หลังใหญ่ เขามอบตำแหน่งสาวใช้ให้โดยที่หล่อนไม่มีทางปฏิเสธได้เลย
“ปราย ใจเย็นๆ สิวะ คุณชิสส์ไม่ใช่คนใจร้ายอย่างที่แกคิดนะ เขาเป็นคนดี มีน้ำใจกับทุกคนไม่เชื่อแกถามน้าไหวดูได้ เดี๋ยวน้าไหวก็มารดน้ำต้นไม้ ทุกคนที่นี่รู้ดีว่าคุณชิสส์เป็นคนยังไง” จันทร์พยายามแก้ต่างให้กับเจ้านายของหล่อน
“พี่เป็นคนของเขาก็เข้าข้างเขาแต่ฉันไม่ใช่ ฉันจะเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น เขาไม่ใช่คนดีสำหรับฉัน พี่อย่าพูดถึงความดีจอมปลอมของเขาให้ฉันฟังอีก ต่อไปนี้ถ้าเขาร้ายมา ฉันจะร้ายตอบ”
“เฮ้ยปราย ไม่เอาน่ะ ห้ามแกทำอะไรคุณชิสส์เด็ดขาด ยังไงคุณชิสส์ก็เป็นเจ้านายนะโว้ย”
จันทร์เสียงดังบ้าง ปรายชลจ้องตาจันทร์ไม่กะพริบ ดวงตากลมโตมีแววเชื่อมั่นจนจันทร์ยอมแพ้ สาวใช้รุ่นพี่ถอนหายใจ หันมามองหม้อข้าวต้มแล้วพูดขึ้น
“พี่พูดความจริง ไม่ได้เข้าข้างคุณชิสส์ ถ้าแกไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร สักวันแกจะเห็นความดีของคุณชิสส์ด้วยตัวแกเอง เตรียมกาแฟให้คุณนุได้แล้ว เดี๋ยวคุณนุลงมา”
น้ำเสียงของจันทร์เปลี่ยนไป ปรายชลมองร่างอวบเล็กน้อยแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่ม ชงกาแฟตามที่จันทร์บอกก่อนหน้านี้ เตรียมน้ำเปล่าเสร็จหันมาถามจันทร์
“คุณนุไม่รับขนมปังเหรอพี่จันทร์”
“ไม่ต้อง เอากาแฟออกไปเสิร์ฟได้แล้ว ที่ห้องทำงานคุณนุนะ แล้วก็เข้าไปเก็บกะละมังกับยาที่ห้องทำงานคุณชิสส์มาด้วย” จันทร์สั่งโดยไม่มองหน้าปรายชล
เสียงประตูห้องครัวเปิดออกและปิดเบาๆ จันทร์หันไปมองพร้อมกับถอนหายใจเฮือก ปรายชลเข้าใจภูชิสส์ผิดๆ หล่อนจะช่วยพูดอย่างไรปรายชลจึงจะเชื่อว่าภูชิสส์ไม่ใช่คนโหดร้ายแต่แวบหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่าเจ้านายของหล่อนโกรธปรายชลเรื่องอะไร เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง
ปรายชลประคองถาดใส่แก้วกาแฟกับแก้วน้ำเปล่าเข้าไปในห้องทำงานภานุรุจซึ่งอยู่ติดกับห้องทำงานของภูชิสส์ หนุ่มใหญ่มองหญิงสาวแล้วยิ้ม
“ขอบใจมากปราย เป็นไงเมื่อคืนนอนหลับมั้ย” เขาถามเป็นกันเอง
“ไม่ค่อยหลับค่ะอาจจะแปลกที่” หล่อนตอบพร้อมกับยิ้มให้เขา
“ที่นี่อากาศดี อีกหน่อยพอคุ้นแล้ว ฉันว่าเธอจะนอนจนไม่อยากตื่น”
เขายิ้มมากขึ้น ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ พยักหน้าเมื่อลิ้มรสชาติกาแฟที่ปรายชลนำมาเสิร์ฟ
“ใครชงกาแฟ เธอหรือจันทร์”
“พี่จันทร์บอกสูตรของคุณนุกับคุณชิสส์ให้ฉันหัดชงค่ะ พอใช้ได้มั้ยคะ”
“ไม่แค่พอใช้แต่ใช้ได้เลยแหละ” เขายิ้มพอใจ ยกกาแฟขึ้นจิบอีกครั้ง
“เมื่อครู่นี้ได้ยินเสียงเอะอะอะไรเหรอ ตาชิสส์ทำอะไรเธอรึเปล่า”
ภานุรุจเอ่ยก่อนที่ปรายชลจะทันเดินถึงประตู หล่อนชะงักเท้าหันมามองหน้าเขา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางหายไป ดวงตาที่มองมานั้นรอคำตอบจากหล่อน ผู้ชายคนนี้จะใจร้ายเหมือนหลานชายของเขาหรือเปล่าหล่อนไม่มั่นใจแต่เท่าที่ได้พูดคุยกับเขา ภานุรุจต่างจากภูชิสส์มากทีเดียวแม้ว่ารูปร่างหน้าตาของน้าชายจะไม่ดึงดูดเพศตรงข้ามเท่ากับหลานก็ตามแต่ภานุรุจก็หน้าตาดี ผิวสองสีออกขาวด้วยซ้ำไป คิ้วเข้มช่วยเน้นให้ดวงตาที่ไม่คมนัก จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง ที่ปรายชลชอบคือรอยยิ้ม มองทีไรอบอุ่นทุกครั้ง เขาเป็นผู้ใหญ่ใจดีในสายตาของหล่อน
“ไม่มีอะไรค่ะแค่เข้าใจผิดนิดหน่อย ฉันขอตัวนะคะ”