บท
ตั้งค่า

บทที่ 4-2

“มีเงินเหลือเยอะเลยชอบแจกจ่ายรึไง เงินทอนก็ไม่เอา” เขาเหน็บต่อ “อ้อ ลืมไป เยอะจนแจกจ่ายให้ผู้ชายสามคนไป...”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำ!” ความอดทนของฉันสิ้นสุดลง หันกลับไปว่าเขาหน้าตาแดงก่ำ ไอ้โจรบ้ากามนั่นแค่ไหวไหล่ ยกมุมปากยิ้มๆ หน้าตากวนตีนสุดๆ

ฉันฉุนขาดทันที “ก็เห็นอยู่ เด็กตัวแค่นี้แต่ขยันทำงาน หัดทำบุญทำทานบ้าง ไม่ใช่ทำแต่บาป ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นคน ไม่ใช่สัตว์นรกในคราบมนุษย์”

“บอกตัวเองเหรอ” เขาว่าฉันกลับ

“เอาที่สบายใจเลย” ฉันปิดเปลือกตา เลิกต่อล้อต่อเถียงแล้วซุกหน้าเข้าหาประตูรถ

“ทำไมถึงออกมากับไอ้โซดา ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้อยู่ห่างมัน...”

“บังเอิญ” ฉันสวนกลับ

“หึ” เขาแค่นเสียง “ประจวบเหมาะมาก”

“ก็แล้วแต่คุณ แต่ถ้ามีสมองก็ลองตรองดู ฉันคงอยากไปเห็นภาพบาดตาระหว่างไอ้โซดากับพลอยมากเลยแล่นไป” ไหนๆ เขาก็รู้แล้วว่าฉันแอบชอบเพื่อน พูดไปอย่างนี้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย ในเมื่อเสียจนไม่รู้จะเสียอะไรแล้ว

“ก็นึกว่าเป็นพวกซาดิสม์ ชอบความเจ็บปวด”

“โรคจิต” ฉันว่าเขาแล้วหลับตา ปิดกั้นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ในมือยังกุมโทรศัพท์ที่กดเบอร์โทรฉุกเฉินไว้แน่น ถ้าเห็นท่าไม่ดีฉันจะโทร.แจ้งตำรวจได้ทัน

Jomtup talk.

ผมเห็นร่างเพรียวระหงตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในร้าน ไม่ใช่เพราะการแต่งตัวที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ รอบกาย แต่เธอมีกลิ่นอายบางอย่างที่มักดึงดูดสายตา...โดยเฉพาะผู้ชาย

ในโลกนี้จะมีผู้หญิงประเภทหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวตัวหรือใช้ความพยายามใดๆ ก็สามารถดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้ามได้ง่ายๆ อาจเป็นฟีโรโมนรวมกับกิริยาท่าทางที่แสดงออก เพียงเธอก้าวย่างเข้ามาผมก็เห็นผู้ชายหลายคนมองเหลียวหลัง รวมทั้งไอ้โซดาที่พุ่งเข้าไปชาร์จร่างเพื่อนสนิท ที่ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าใครกันแน่ที่คิดไม่ซื่อ

ตอนแรกเธอยังฉีกยิ้มหวาน แต่พอหันมาประสานสายตากับผมเท่านั้นใบหน้างามก็บึ้งตึงทันที

ฮึ...เจอผัวเก่าหน่อยทำเป็นสะดุ้ง

ดูท่าต้องกระตุ้นความทรงจำหน่อยล่ะมั้งว่าเธอควรวางตัวยังไง คนไหนเป็นผัวกันแน่ ไม่ใช่ระริกระรี้วิ่งเข้าหาไอ้โซดาแบบนั้น

มาถึงไม่ทันไรแม่ตัวดีก็ยกแก้วออนเดอะร็อกกระดก ท่าทางภายนอกที่แสดงออกเหมือนกร้านโลกนั้นเคยหลอกลวงผมมาครั้งหนึ่งจนหลงเชื่อว่าเธอง่าย ร่าน แต่ทุกอย่างกลับสวนทางเมื่ออยู่บนเตียง เธอเงอะงะไม่ประสา ทว่าผมเองก็ผ่านผู้หญิงมามาก บางคนพยายามจะแสดงออกว่าตัวเองใสซื่อจนซึมลึกเข้าสันดาน ดังนั้นทุกครั้งที่ขึ้นเตียง ไม่ว่าจะเมายังไง มั่วแค่ไหน ผมก็ไม่เคยลืมป้องกัน

แต่วันนั้นกลับมีหลายๆ อย่างที่ไม่เหมือนทุกครั้ง โดยเฉพาะวินาทีที่ผมแทรกตัวลึกเข้าสู่ความอ่อนนุ่มราวกับกำมะหยี่ของเธอ ผมก็รับรู้ได้ทันทีว่าความคับแน่นที่กำลังเผชิญอยู่นั้น...เป็นครั้งแรกของเธอ เผลอๆ นอกจากตัวตนอันแข็งกร้าวของผมแล้วก็คงไม่มีสิ่งใดเคยล่วงผ่านเข้าไป แม้แต่นิ้วเล็กๆ ของเธอก็ตาม

ความคิดกับภาพเหตุการณ์เร่าร้อนคืนนั้นทำให้ผมรู้สึกปวดหนึบอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเปิดซิงผู้หญิง และฝีมือของเธอในคืนนั้นก็จัดว่าห่วยแตก ขนาดจะออนท็อปก็ยังต้องให้สอน ยิ่งกว่าแม่ไก่อ่อนเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงติดใจรสชาติจืดๆ แบบนั้น ทั้งกลิ่นหอมของแป้งเด็กอ่อนที่ผสมกับกลิ่นเหงื่อของเธอทำให้ผมเผลอปล่อยตัวจนเกินลิมิต คืนนั้นผมฟัดเธอไปถึงห้าครั้งกว่าจะพากันสลบไสล

“เราออกไปกันก่อนดีไหมคะ” เสียงหวานๆ ดังแทรกความคิดพร้อมฝ่ามือนุ่มนิ่มที่ลอบขยับกอบกุมส่วนแข็งขืนกลางหว่างขาของผมใต้โต๊ะ

ผมเหลือบตามองผู้หญิงสวยแต่งหน้าจัดข้างๆ ที่กำลังเกยเต้างามๆ ไว้บนแขน ก่อนจะเบนสายตาไปยังร่างระหงที่ถูกกึ่งลากกึ่งจูงไปเต้นกลางร้าน

พื้นที่ตรงนั้นค่อนข้างแคบ แต่ละคนเต้นกันอย่างเมามัน เดิมทีผมกำลังจะดึงสายตากลับหากไม่เห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งตีเนียนเข้าไปเต้นใกล้เธอ พยายามเสียดสีจนใครบางคนต้องขยับหนีหลายครั้ง แต่ไอ้เหี้ยนั่นก็ยังหน้าด้านใช้มือหยาบๆ ลูบสะโพกมนที่ผมจำได้ว่านุ่มแค่ไหน ไม่มีใครสนใจว่ามีผู้หญิงกำลังถูกลวนลาม แต่ก็นะ...ในสถานที่แบบนี้ ส่วนใหญ่ก็แลกเปลี่ยนกันฟรีๆ ตามความพอใจ

“พี่จอมจะไปไหนคะ กลับแล้วเหรอ” ผู้หญิงข้างๆ ทำหน้าเหลอหลาตอนผมวางแก้วแล้วลุกขึ้นยืน

“นึกได้ว่ามีธุระ กลับก่อนนะ” ผมโบกมือลาทุกคนง่ายๆ พยักหน้าให้พลอยไพลินพร้อมส่งสายตาปรามที่มีความหมายว่า ‘คืนนี้ให้คนขับรถมารับ’ เธอพยักหน้าแหยๆ ก่อนจะฉีกยิ้มหวาน

“ขับรถกลับดีๆ นะคะพี่จอม” ญาติผู้น้องของผมร้องบอกเสียงหวาน

“ถึงบ้านแล้วโทร.หาพี่ด้วย” ผมสำทับพลางหันไปสบตากับโซดาอีกครั้งแล้วผละออกมาโดยไม่สนใจท่าทางกระฟัดกระเฟียดของผู้หญิงคนนั้น ซึ่งผมเองก็จำชื่อไม่ได้

แน่ใจว่าเห็นแผ่นหลังของใครบางคนไวๆ เดินไปทางห้องน้ำ ผมก้าวขาตามไปดูให้แน่ใจว่าเธอมีแผนอะไรซุกซ่อนอยู่กันแน่ แต่ภาพที่เห็นคือผู้ชายคนนั้นกำลังฉุดดึงเธอไว้ ในขณะที่อีกฝ่ายร้องขอความช่วยเหลือพร้อมทั้งขยับแขนขาเตะต่อยมัน

พลั่ก!

เท้าของผมถีบเข้าแผ่นหลังของไอ้สัตว์นั่นจนมันล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะคว้าตัวยัยนุ่มนิ่มเข้าสู่อ้อมกอด ปลายผมหางม้าของเธอปัดผ่านหน้า พาเอากลิ่นหอมจางๆ ที่ทำให้บางอย่างของผมตื่นตัวอีกครั้ง

ท่าทางที่เหมือนจะดิ้นหนีทำให้ผมต้องเอ่ยปรามเด็กดื้อทันที

“ลองแหกปากดู เธอได้เจอดีแน่” มันตาหยุดนิ่งทันทีก่อนที่ผมจะหันไปจัดการไอ้คนที่หมายหัวไว้ ประเคนทั้งหมัดทั้งตีนใส่แล้วค่อยลากเธอผ่านทางเดินด้านหลังร้านออกมายังลานจอดรถ

“จะ...จะไปไหน” เสียงของเธอสั่น ไม่กร้าวกระด้างเหมือนตอนตะโกนด่าไอ้หน้าด้านเมื่อครู่ ยิ่งเมื่อสานสบกับดวงตากลมเต้นระริกคู่นั้น ใจผมก็ยิ่งสั่งให้กักขังเธอไว้

ใช่...ผมมันโรคจิต

นัยน์ตาโศกคลอหยาดน้ำใสคู่นั้นสะกดสายตาผมได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สานสบกัน และทำให้ผมเผลอเปลี่ยนใจพาเธอขึ้นห้องแทนที่จะส่งให้ไอ้สามตัวนั้นไปจัดการ

“อยากนักไม่ใช่รึไงก็จะพาไปจัดให้ ไม่ต้องเสียเวลามาเที่ยวแจกฟรี...” ยังพูดไม่ทันจบเธอก็สะบัดฝ่ามือเข้าใส่ แต่ผมก็ไวพอที่จะเบี่ยงหลบ

ต้องแบบนี้สิถึงจะใช่ผู้หญิงที่กล้าประเคนทั้งศอกทั้งเข่าใส่ผมวันนั้น และก็ต้องยอมรับว่าถูกใจเข้าจังๆ

“ชอบความรุนแรงอย่างไอ้นั่นว่าจริงๆ” ว่าพลางดันจนร่างในอ้อมแขนถอยไปชิดรถคันหนึ่ง แล้วจึงวางแขนกักเธอไว้ตรงกลาง

ผมโน้มตัวลงไปหาขณะยกขาข้างหนึ่งแทรกตรงหว่างขาเรียวงาม เอียงหน้าผ่านแก้มเนียนใสที่แทบจะไร้การแต่งแต้มแล้วจงใจเป่าลมหายใจร้อนๆ ใส่ใบหูเล็กน่ารัก เรือนร่างบอบบางในอ้อมแขนสั่นสะท้านเบาๆ ภายใต้แสงไฟสลัวในลานจอดรถเผยให้เห็นว่าแก้มอิ่มข้างนั้นขึ้นสีระเรื่อทันที

น่ารักดีเหมือนกันแฮะ

ยิ่งเห็นเธอเอาแต่หลับตาแน่น ผมยิ่งอยากแกล้งจึงค่อยๆ ขยับฝ่ามือลูบไล้ สอดเข้าไปด้านในเสื้อตัวบาง สัมผัสกับเนื้อตัวเปล่าเปลือยที่แสนนุ่มเนียน ก่อนจะเอียงใบหน้าแล้วแนบริมฝีปากลงบนผิวแก้มที่แดงฉ่ำเหมือนลูกพีชนั่น

หอม...แก้มของเธอหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเครื่องสำอาง ทำเอาผมไม่อยากผละริมฝีปากจากไปสักเท่าไหร่หากไม่เห็นเป้าหมายใหม่ที่ดีกว่านั้น

และทันทีที่คิด ร่างกายก็ขยับไปตามใจสั่ง งับริมฝีปากล่างแดงฉ่ำของเธอแล้วดูดแรงๆ

หวาน...ริมฝีปากของเธอหวาน แม้จะเจือกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ แต่กลับหวานกว่าที่ผมคิด

อย่าถามว่าสติอยู่ที่ไหน ผมปล่อยใจไปตามอารมณ์ที่ข่มกลั้นมาตั้งแต่ช่วงก่อน สองมือเริ่มฟอนเฟ้นเอวคอด ส่วนอีกข้างก็ย้ายไปรั้งท้ายทอยมนของเธอเข้ามาชิดเพื่อจุมพิตได้ลึกซึ้งขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยชอบของหวาน แต่ดูเหมือนผมจะเริ่มโปรดปรานริมฝีปากคู่นี้ที่หวานฉ่ำราวหยาดน้ำผึ้ง แต่ก่อนที่ผมจะมีโอกาสรุกรานเธอมากกว่านี้ เสียงโทรศัพท์มือถือของใครบางคนก็ชิงสั่นประท้วงเสียก่อน

ผมปรายตามองท่าทางละล่ำละลักเหมือนมีชนักติดหลังของคนตรงหน้า แน่นอนว่าไอ้ที่วอแวโทร.มาหาคงไม่พ้นไอ้โซดา

บางทีคงไม่ใช่แค่มันตาคิดไปเอง แต่ฝ่ายชายก็คล้ายจะอ่อยกลายๆ

ฮึ

End Talk

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel