บทที่4
ความมืดมิดมองไปทางไหนก็ไร้แสงสว่าง ความอ้างว้างเมื่อต้องอยู่บนโลกแห่งความโหดร้ายเพียงลำพังชีวิตนี้ไร้สิ้นหนทางที่จะเดินต่อไป เด็กน้อยที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งญาติคนไหน เพราะตั้งแต่ที่พ่อล้มละลายก็ไม่มีใครต้องการเธอ แม้แต่แม่ที่พร่ำเพ้อบอกว่ารักเธอกับพ่อหนักหนาจะต้องจากลาเพื่อไปแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าไม่คิดจะชายตามาดูแลลูกสาวตาดำ ๆ สักครั้ง
"พ่อขามุกดาคิดถึงพ่อ"สิ่งสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้ก่อนที่ฉัตรชัยจะจากไปก็คือเงินเพียงไม่กี่พันบาท โทรศัพท์ราคาเพียงไม่กี่บาท และแหวนแต่งงานที่แม่ของเธอเคยสวมให้มันคงเป็นแหวนแทนใจในตอนที่ทั้งคู่ยังรักกันอยู่
"แม่ขามุกดาคิดถึงแม่"โทรศัพท์ที่ไร้ราคาถูกหยิบขึ้นมา กดเบอร์ที่เธอจำมันได้ดีเธอแทบจะกระโดดด้วยความดีใจเมื่อปลายสายกดรับ แต่แล้วสิ่งที่ปลายสายพูดมาทำเอาน้ำตาของเธอไหล
"แม่ขา"
"โทรมาทำไมนักหนาห้ะทำไมไม่ตาย ๆ ตามพ่อของแกไป รู้ไหมแกกำลังเป็นตัวซวยถ่วงชีวิตของฉัน แล้วทีหลังไม่ต้องโทรมาหาฉันอีก จะไปตายที่ไหนก็ไป"
น้ำตาไหลอย่างไม่ขาดสายหลังจากที่พึ่งสุดท้ายอย่างผู้เป็นแม่วางสายไป แต่คำพูดสุดท้ายของคนที่ขึ้นชื่อว่าแม่กลับบาดลึกลงในหัวใจ สมองทั้งสองข้างจำคำพูดเหล่านั้นจนลึกฝังใจ ตอนนั้นไม่รู้เธอกำลังคิดอะไรกดเข้าไปในข้อความล่าสุดของพ่อที่คุยเรื่องบางอย่างกับแม่ข้อความเหล่านั้นมันทำให้เธอรู้ว่าการตายของพ่อไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุแต่มีใครคนหนึ่งที่เกลียดพ่อกลัวว่าพอจะไปขัดขวางชีวิตที่กำลังไปได้ดีของเธอ
'มณีจันทร์ทำไมคุณไม่คิดถึงใจลูกบ้างคุณทำแบบนี้กับลูกได้ยังไง'
'มันไม่ใช่ลูกฉัน จะไปตายที่ไหนก็ไปตายไปได้ทั้งคู่เลยยิ่งดี และนับต่อจากนี้อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตของฉันอีก ถ้าไม่ฟังอย่าหาว่าฉันไม่เตือน'นี่คือข้อความของก่อนวันที่พ่อจะโดนทำร้าย ส่วนต่อมาคือข้อความของวันต่อมาที่ทำให้เธอต้องเสียใจ ซึ่งเป็นพ่อก่อนที่ทักไปหาผู้หญิงใจร้ายคนนั้น พร้อมกับรูปถ่ายของชายหญิงที่ยืนกอดกะหนุงกะหนิงอย่างน่าอิจฉา
'เลิกกับผมไม่ทันไรมีผัวใหม่เลยนะ ผู้ชายคนนั้นเขาจะรู้หรือเปล่าว่าคุณน่ะเคยเป็นเมียผมแถมเราทั้งคู่ยังมีลูกด้วยกันอีก'
'อย่าคิดที่จะทำอะไรโง่ ๆ นะฉัตรชัย ถึงคุณจะพูดอะไรไปเขาก็ไม่เชื่อในสิ่งที่คุณพูดหรอก'
'แน่ใจเหรอที่สิ่งที่เธอพูดมา'
'พูดแบบนี้ระวังคุณจะไม่ตายดีฉัตรชัย'
คำพูดนี้ของพ่อคงจะไปกระตุกอารมณ์โกรธของแม่ได้เป็นอย่างดีเพราะในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาร่างของพ่อก็เต็มไปด้วยเลือด
ชีวิตนี้ของเธอไม่นึกว่าจะเจอสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้แม่ที่เทิดทูนและเคารพรักเป็นคนสั่งลงมือฆ่าสามีแท้ ๆ ได้อย่างเลือดเย็น เพียงเพราะว่าพ่อจะพูดในความลับที่เธอปกปิดเอาไว้แต่เหตุผลมันเพียงเท่านี้หรือถึงได้ทำให้ผู้เป็นแม่ลงมือทำถึงเพียงนี้
สายตามองรูปภาพนั้นอย่างปวดใจเพราะผู้ชายคนนี้ใช่ไหมถึงทำให้แม่ได้ทิ้งเธอและพ่อไป และผู้ชายคนนี้คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ของเธอทำอะไรไปไร้ซึ่งศีลธรรม
เวลาผ่านพ้นไปไร้คนคอยอยู่เคียงข้าง เธอรู้สึกอ้างว้างจนอยากจะตายตามผู้เป็นพ่อไป ไม่มีใครต้องการเธอแม้แต่แม่ เงินที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนที่ท่านจะจากไปก็ร่อยหรอลงทุกทีตอนที่ไปโรงเรียนก็ได้แต่นั่งมองเด็กคนอื่นทานข้าวกลางวันทานขนมอย่างมีความสุขซึ่งเธอก็ได้แต่เก็บแก้วน้ำที่เด็กคนอื่น ๆ ทิ้งไปกรองน้ำที่ก๊อกน้ำหลังโรงเรียนเพื่อดื่มประทังชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าของห้องที่พ่อเธอเช่าเขามาไล่เธอออกเพราะขาดส่งค่าเช่าเป็นเวลาสามเดือน ไม่ว่าเธอจะขอร้องอ้อนวอนเท่าไหร่เจ้าของห้องก็ไม่ใจอ่อนที่จะให้เธออยู่ต่อ สุดท้ายเด็กน้อยแบบเธอก็ไม่มีทางที่จะสู้ใครเขาได้จึงต้องจำใจหอบเสื้อผ้าของตัวเองเพียงไม่กี่ชิ้นออกมาแถมเงินที่เหลือเพียงไม่กี่ร้อยถูกเจ้าของห้องเช่าเอาไปเสียจนหมดเด็กน้อยวัยสิบขวบเดินออกมาจากห้องพักในตอนใกล้ค่ำด้วยสภาพรองเท้าเก่า ๆ เนื้อตัวมอมแมมหอบหิ้วกระเป๋าใบเก่าที่ด้านในมีเสื้อผ้าของพ่อและของเธอเพียงไม่กี่ตัวโทรศัพท์เครื่องเก่าถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเป็นอย่างดี ส่วนห้องพักห้องนั้นก็มีคนมาขอเช่าอยู่ต่อ เด็กน้อยเดินเร่ร่อนระหกระเหินเดินไปตามทาง ผู้คนมากมายต่างมองมาที่เธอแต่ก็ไม่มีใครคิดที่จะยื่นมือเข้ามาช่วย ดวงตาหม่นหมองเหม่อมองท้องฟ้าในยามนภาวันนี้เธอคงต้องใช้กองขยะใต้สะพานลอยเป็นที่ซุกหัวนอน
ปึก
กล่องข้าวที่กินเหลือของผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นโยนลงใส่ถังขยะ มุกดามองถังขยะสีเขียวส่งกลิ่นเหม็นอับที่อยู่ตรงหน้า กล่องข้าวที่ถูกโยนลงไปถูกคว้าขึ้นมาเศษข้าวเพียงน้อยนิดที่อยู่ในนั้นนั่นคือสิ่งที่จะใช้ประทังชีวิตในค่ำคืนนี้ของเธอ