บทที่5
เพล้ง เพล้ง
เสียงกระทะกับตะหลิวกระทบดังไปมา มุกดายืนมองแม่ค้ากำลังลงมือทำอาหารให้กับลูกค้าอยู่ภายในร้านอยู่นานสองนาน ความหอมของอาหารมันทำให้เธอชวนหิวแต่ตอนนี้เธอไม่มีเงินแม้แต่สักแดงเดียว เมื่อคืนก็ได้แต่คุ้ยขยะหาเศษอาหารประทังชีวิต จนแม่ค้าที่กำลังทำอาหารมองมาเห็น
"หิวเหรอลูก"มุกดาพยักหน้าให้กับแม่ค้าเธอละอายใจเกินกว่าที่จะพูดมันออกไป ท้องน้อย ๆ ของเธอร้องประท้วง แม่ค้ารีบทำอาหารให้ลูกค้าก่อนที่จะล้างกระทะแล้วเริ่มทำอาหารใหม่
มุกดามองหน้าแม่ค้าคนนั้นในใจคิดว่าตัวเธอคงหมดวาสนาที่จะได้กินข้าวในมื้อนี้คงได้กลับไปคุยหาเศษขยะกินประทังชีวิตดังเดิม แต่เมื่อเธอกำลังจะเดินออกจากหน้าร้านแม่ค้าคนนั้นกลับเรียกเธอเอาไว้
"หนูอย่าพึ่งไปลูก"มุกดาหันไปมองแม่ค้าที่กำลังตักข้าวผัดใส่จานอย่างเร่งรีบ ก่อนที่แม่ค้าคนนั้นจะกวักมือเธอเรียกให้เข้าไปหาในร้าน
"หนูลูกมานี่สิ มากินข้าวน้าทำข้าวไว้ให้"น้ำตาแห่งความดีใจไหลรินออกมา มุกดารีบวิ่งเข้าไปหาแม่ค้าคนนั้น ข้าวผัดธรรมดา ๆ แต่ตอนนี้กลับมีค่าต่อชีวิตของเธอมาก
"กินให้อิ่มนะลูก น้ำอยู่ในกระติกหนูตักเอาเองนะ ถ้าไม่อิ่มมาบอกน้าเดี๋ยวน้าจะทำให้เพิ่ม"รู้สึกตื้นตันในหัวใจเพราะยังมีใครที่ไม่เคยรู้จักแม้แต่ชื่อยื่นมือเข้ามาช่วย
"รับข้าวไปสิจ๊ะหนู"มุกดามองจานข้าวที่อยู่ในมือของแม่ค้า ตอนนี้เธอมีความรู้สึกลังเลใจจะทำยังไงกับข้าวจานนี้ดีเธอไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวสักบาท สีหน้าของมุกดาแม่ค้ารับรู้ได้
"รับไปเถอะหนูข้าวผัดจานนี้น้าไม่คิดเงิน"เงยหน้าขึ้นมาสบตา แม่ค้าใจดีกำลังส่งยิ้มให้
"ขอบคุณนะคะคุณน้า"ยกมือไหว้ก่อนที่จะยื่นมือไปรับจานข้าว มุกดามองจานข้าวผัดอย่างดีใจมื้อนี้เธอคงจะรอดตายจากความหิว
มุกดาถือจานข้าวมานั่งกินที่โต๊ะว่าง ก่อนที่จะลงมือกินข้าวอย่างน่าอร่อยมื้อนี้ถือเป็นอาหารมื้อที่ดีที่สุดในรอบสองเดือนตั้งแต่ที่พ่อของเธอจากไป ก่อนหน้านั้นเธอเพียงทำได้แค่ทานข้าวเหนียวห่อละห้าบาทกับหมูย่างไม้ละห้าบาทเท่านั้นซึ่งอาหารมื้อเดียวต่อวันทำให้ร่างกายของมุกดานั้นซูบผอมได้อย่างรวดเร็ว จนตอนนี้เธอมีแค่ผิวหนังที่ห่อหุ้มกระดูก
หลังจากที่ทานข้าวผัดจานนั้นเสร็จมุกดาก็มองซ้ายมองขวาหาที่เก็บจานจนเธอเหลือบสายตาไปเห็นกะละมังใบเก่า ๆ ที่มีจานวางอยู่มากมาย จะเป็นอะไรไหมถ้าเธอจะตอบแทนความมีน้ำใจของแม่ค้าคนนี้
วันนี้ร้านอาหารมีคนเข้ามาใช้บริการแน่นร้านกว่าทุก ๆ วันจนทำให้ปิดร้านเกือบจะมืดค่ำ แม่ค้านั่งลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยหอบ ทำข้าวให้ลูกค้ามือเป็นระวิงจนไม่มีเวลาได้พัก แต่เดี๋ยวก็ยังต้องเก็บร้านอีกแต่เมื่อมองไปที่หลังร้านเธอก็ต้องตกใจ จานข้าวที่อยู่ในกะละมังถูกล้างและจัดเก็บไว้เป็นอย่างดีด้วยฝีมือของเด็กผู้หญิงเธอให้ข้าวผัดในเมื่อตอนเที่ยง
'ขอบคุณคุณน้าสำหรับข้าวผัดจานนั้น หนูจะไม่ลืมบุญคุณของคุณน้า หนูหวังว่าวันหนึ่งหนูจะได้มีโอกาสทดแทนบุญคุณให้กับคุณน้านะคะ เก็บจดหมายฉบับนี้ของหนูไว้ให้ดีนะคะ มุกดา'
วันเวลาล่วงเลยเข้ามาจนถึงเดือนที่สามมุกดาหนูน้อยวัยสิบขวบต้องเดินร่อนเร่พเนจรไปตามถนนหนทางต่างใช้ชีวิตเยี่ยงขอทานที่ยกมือขอข้าวน้ำจากชาวบ้าน
"ไป๊ จะไปไหนก็ไปอย่ามาเกะกะหน้าร้านฉัน"เสียงด่าทอของแม่ค้าร้านขายข้าวพร้อมกับสาดน้ำขับไล่ มุกดาเดินออกมาอย่างปวดใจน้ำตารินไหลนี่สองวันแล้วที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องของเธอ เด็กน้อยเดินไปตามถนนมองดูเมฆฝนสีดำที่กำลังมืดครึ้ม
"เอ๊ะ นั่นแม่นี่"หน้าโรงพยาบาลขนาดใหญ่มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินลงมาจากรถคันหรูมีผู้ชายประคองผู้หญิงอยู่ด้วยความทะนุถนอมทั้งสองยิ้มให้อย่างมีความสุข