บทที่3
ฉัตรชัยยืนส่งยิ้มไปให้กับลูกสาวของตัวเองที่กำลังยืนมองมา แข่งขาของเขาแทบไร้เรี่ยวแรงที่จะยืน
"พะ..พ่อขา พ่อเป็นอะไรทำไมถึง"มุกดารีบวิ่งเข้ามาหา สองพ่อลูกตกเป็นเป้าสายตาของผู้ปกครองที่ทยอยกันมารับลูกหลานของตัวเองในเวลาหลังเลิกเรียน
"มุกดาลูก ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีพ่อหนูจะต้องเป็นเด็กดีเข้าใจไหม"บาดแผลฉกรรจ์ที่ถูกซ่อนไว้หลังกระเป๋าเป้ที่ใส่เอกสาร หลังจากเลิกงานเขากำลังเดินมารับลูกสาวที่โรงเรียน ในมือของเขาถือถุงเค้กวันเกิดขนาดเล็กเอาไว้ เพราะพรุ่งนี้จะได้ให้ลูกในวันสำคัญของเธอ แต่ระหว่างทางกลับเจอชายชุดดำที่วิ่งเข้ามาห้อมล้อมตัวของเขาเอาไว้ ก่อนจะรุมทำร้ายเข้าได้อย่างเลือดเย็นก่อนที่จะมีชายชุดดำคนหนึ่งที่ถือมีดขนาดยาวแทงเข้าที่ท้องจนแทบจะทะลุลำตัว ก่อนที่ชายชุดดำพวกนั้นจะรีบวิ่งขึ้นรถตู้สีดำแล้วขับออกไป
'หนูรักพ่อนะคะ'คำคำนี้คือแรงที่ทำให้เขาฮึดสู้ต่อบาดแผล พยุงตัวเดินมายังหน้าโรงเรียนของลูกสาว ในมือของเขานั้นกำถุงเค้กที่หน้าเละเอาไว้ตั้งใจจะมอบให้กับลูกสาวเป็นของขวัญวันเกิดอายุครบสิบขวบ
"ฮึกพ่อขา พ่ออย่าทิ้งหนูมุกไปนะคะ คุณน้าขาช่วยโทรเรียกรถพยาบาลให้หนูมุกหน่อย"มุกดาร้องออกมาจนแทบจะขาดใจเมื่อผู้เป็นพ่อนั้นได้สำลักเลือดออกมาก่อนที่ร่างของฉัตรชัยจะล้มลงนอนบนพื้นท่ามกลางความตกใจของผู้คน มีหญิงใจดีคนหนึ่งที่มารับลูกสาวของเธอได้โทรเรียกรถพยาบาล ทุกคนในที่นี้ต่างมองสองพ่อลูกอย่างน่าสงสาร
"หนูมุก พรุ่งนี้วันเกิดหนู พ่อมีเค้กมาให้หนูด้วยนะลูก"มุกดาส่ายหน้า สายตามองถุงที่ใส่เค้ก ตอนนี้เธอไม่ต้องการอะไรขอแค่ให้ผู้เป็นพ่อปลอดภัยก็พอ
"หนูมุกไม่ต้องการเค้ก หนูมุกต้องการให้พ่อหายเมื่อไหร่รถโรงพยาบาลจะมา ฮือ"ร้องไห้อย่างน่าเวทนา เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากบาดแผลจนนองพื้น ผู้ปกครองชายคนหนึ่งรีบเข้ามาช่วยประถมพยาบาลแต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
"อย่าพยายามเลยครับคุณ ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่มีทางรอด"มือที่เต็มไปด้วยเลือดจับมือของผู้หวังดีเอาไว้ ร่างกายของตัวเขาตอนนี้เขารับรู้มันดีมากกว่าใคร ๆ
"คุณต้องสู้สิครับ ลูกคุณยังรอคุณอยู่"ชายคนดังกล่าวมองไปที่ใบหน้าของลูกสาวผู้บาดเจ็บ ตอนนี้เด็กน้อยกำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร
"หนูมุกลูก"น้ำเสียงที่เริ่มแหบแห้งทำเอาทุกคนในที่นี้เริ่มใจไม่ดี มุกดารีบคลานเข่าเข้ามาหาผู้เป็นพ่อ แก้มใสแนบลงไปบนแผงอก เสียงหัวใจของผู้เป็นพ่อนั้นเริ่มเต้นช้าลง
"ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่ได้เลี้ยงดูหนูจนเติบใหญ่ แต่พ่อก็อยากจะบอกให้หนูรู้เอาไว้ว่าหนูเป็นแก้วตาดวงใจที่พ่อที่สุด อึก"ทุกคนที่ยืนอยู่ต่างพากันน้ำตาคลอสายตามองสองพ่อลูกที่กำลังกอดร่ำลา
"มุกดา หนูจงเติบโตเป็นคนเข้มแข็งหยัดยืนด้วยตัวของตัวเอง พ่อคงมีบุญมาส่งหนูได้แค่นี้ ต่อแต่จากนี้ไปขอให้หนูรู้เอาไว้ถึงตัวของพ่อจะอยู่ห่างไกล แต่ใจของพ่อก็ยังคงรักแต่เพียงหนูคนเดียว"
"มุกดาลูกรัก"นี่คือประโยคสุดท้ายก่อนที่มัจจุราชจะพรากลมหายใจของพ่อเธอไป เด็กสาวร้องร่ำไห้ปานจะขาดใจ ต่อจากนี้เธอจะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไรเมื่อข้างกายไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้างเธอ
"หนูนี่เป็นทรัพย์สินของพ่อหนูที่มีติดตัวเอาไว้"ถุงซิปล็อกใบใหญ่บรรจุข้าวของเครื่องใช้ของพ่อเธอหลังจากที่ศพของพ่อเธอถูกรถพยาบาลมารับไป
"ฮึก ขอบคุณค่ะ"เด็กน้อยที่ยังมีความเสียใจ มองถุงใบใหญ่ก่อนที่จะยื่นมือไปรับ นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่พ่อของทิ้งเอาไว้
"เรื่องคดีของคุณพ่อหนูไม่ต้องกลัวนะ ทางตำรวจจะรีบจัดการหาตัวคนร้ายมารับโทษให้เร็วที่สุด"ตำรวจหนึ่งนายที่ได้รับมอบหมายให้มาจัดการคดีรีบเอ่ยปลอบใจ เขาไม่นึกเลยว่าจะมีเหตุการณ์อุอาจแบบนี้เกิดขึ้น ขนาดตอนกลางวันแท้ ๆ คนร้ายยังกล้าลงมือ
"ขอบคุณมากนะคะคุณตำรวจ"
"แล้วเรื่องศพของพ่อหนู หนูจะทำยังไง"นั่นสิมุกดาเธอจะทำยังไง เธอเป็นแค่เด็กตัวเล็กเพียงนิดเดียวแถมยังไม่มีเงินไปจัดงานให้ผู้เป็นพ่ออีก
"มันจะรบกวนเกินไปไหมคะ ถ้าหากว่าหลังจากที่เสร็จจากโรงพยาบาลหนูอยากให้คุณตำรวจพาพ่อของหนูไปที่วัด"
"ได้สิไม่มีปัญหา"
ควันสีดำลอยขึ้นสู่ท้องนภา มุกดายืนมองร่างของผู้เป็นพ่อที่กำลังถูกเปลวไฟแผดเผาร่างกาย หลังจากที่จัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จ ตำรวจผู้นั้นก็พาร่างของพ่อมายังที่วัดที่ใกล้กับห้องเช่าใหม่ที่เธอกับพ่อใช้เป็นที่ซุกหัวนอน
"หลับให้สบายนะคะพ่อ มุกดารักพ่อนะคะ"บอกรักผ่านม่านน้ำตา วาสนาที่จะมีครอบครัวที่อบอุ่นคงสิ้นสุดแค่นี้