บทที่ 3
บทที่ 3
เมื่อคืนตัวของเธอถือของเข้ามาภายในบ้านก็พบกับครอบครัวของเธอนั่งรออยู่ก่อนแล้วโดยไม่มีการเตรียมถ้วยชามหรืออะไรมาใส่ของเลยเธอจึงเดินเข้าไปเพื่อเตรียมของที่จะทานอาหารร่วมกันในค่ำคืนนี้ เธอเตรียมของจนเสร็จเรียบร้อยและก็จัดการลงมือเทอาหารถุงใส่ในถ้วยทันทีทุกคนต่างนั่งเงียบไม่พูดอะไรกันแต่ก่อนที่เธอจะได้ลงมือทานอาหารเสียงแม่ของเธอก็ดังขึ้น
"วันนี้น้องสาวของแกไปที่โรงพยาบาลเพราะพาพ่อของแกไปตรวจร่างกายวันนี้น้องสาวของแกบอกว่าแกก็ไปที่โรงพยาบาลพร้อมกับเพื่อนของแกใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ พายกับธัญญ่าไปที่โรงพยาบาลจริงๆ"
"แล้วเรื่องที่แกด่าน้องสาวของแกที่กลางโรงพยาบาลนั่นใช่เรื่องจริงใช่ไหม"
"แม่คะ แพมเดินไปชนธัญญ่าจนเกือบล้มและโทรศัพท์มือถือของเขาก็ตกลงพื้นจนแตกกระจายแม่คิดว่า เขาไม่เอาเรื่องเราก็ดีแค่ไหนแล้วคะหนูแค่บอกน้องอย่าทำตัวก้าวร้าวแค่นั้นเองพ่อก็อยู่ในเหตุการณ์ในครั้งนั้นด้วย"
"ตั้งแต่แกโตขึ้นมาแกนี่มันช่างเถียงฉันเก่งจริงๆ ใครจะให้แกไปด่าน้องที่โรงพยาบาล"
"แม่คะแต่แพมไปทำร้ายเขาก่อนเดินชนเขาจนตัวเข้ากิลอื่นเขาเป็นอะไรขึ้นมาเกิดก็ตกบันไดคอหักตายหรือเขาล้มจนหัวไปกระแทกอะไรสักอย่างจนเขาตายขึ้นมาแม่ยังคิดว่าการกระทำนี้เป็นการกระทำที่ดีนั้นหรอหรือหนูจะพูดตัดเตือนน้องของตนเองไม่ได้"
"แกอย่ามาเถียงฉันนะ ปีกกล้าขาแข็งนะหรอคิดว่ามาต่อปากต่อคำกับฉันแกดูเอาไว้ถ้าไม่ใช่เพราะฉันก็คงตายไปตั้งนานแล้วจะบอกอะไรให้นะอย่ามาด่าลูกของฉันอีก"
"แม่คะหนูถามจริงๆเถอะหนูใช่ลูกของพ่อกับแม่หรือเปล่าทำไมอะไรแม่ถึงชอบพูดว่าหนูไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับพ่อกับแม่เลยหนูแทบจะเป็นคนไร้ค่าไร้ตัวตนในบ้านหลังนี้แล้วหนูใช่ลูกของแม่จริงหรอ"
"หุบปากของแกซะอีพาย!"
"ตั้งแต่หนูเกิดมาแม่ชอบเรียกหนูอีนั่นอีนี่ตลอดแต่ตั้งแต่ที่หนูเห็นน้องเกิดมาแม่ไม่เคยพูดจาหยาบคายกับน้องเลยหนูอยากรู้จริงๆว่าแม่เคยรักหนูก็ยอมรับหนูในการเป็นลูกหรือเปล่า"
"กูบอกให้มึงปาก!!"
"หนูอยากตรวจ DNA ให้เราแน่ใจว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันหรือเปล่า"
"ถ้ามึงไม่ใช่ลูกกู มึงก็จะทิ้งกูใช่ไหม"
"หนูไม่ได้หมายความอย่างนั้นหนูแค่ต้องการความแน่ใจ"
"แน่ใจหรอมึงต้องการความแน่ใจใช่ไหม"
เสียงตะโกนลั่นของผู้ให้กำเนิดในความคิดของเธอดังขึ้น ทำให้หัวใจของเธอเต้นถี่เร็วมากขึ้นเช่นเดียวกันความทุกข์ทรมานจิตใจที่ถูกทำมาตั้งแต่เด็กๆจนถึงปัจจุบันสร้างความกดดันให้กับเธอเป็นอย่างมากความเครียดสะสมทำให้ใจของเธอไม่อาจสงบนิ่งได้ แม่ของเธอเองก็อาจจะเป็นแบบนั้นเหมือนกันทำให้แม่ของเธอ เอาแกงที่ร้อนๆสาดใส่ใบหน้าของเธอแต่เคราะห์ยังดีที่เธอใช้แขนบางเอาไว้ต่อให้ใช้แขนบังเอาไว้แต่ความร้อนของอาหารที่เธอพึ่งอุ่นใหม่ๆ กลับทำให้แขนของเธอรู้สึกแสบร้อนมากขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวแม่ของเธอก็เพิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเธอจนเธอต้องหมอบลงกับพื้นแม่ของเธอใช้เท้ากระทืบเธอทั้งเตะทั้งถีบทั้งตบทั้งตีจนเธอที่ไม่เคยสู้แม่ของเธอเลยสักครั้งต่างยอมให้ถูกกระทำอย่างไม่อาจห้ามเอาไว้ได้
"พ่อช่วยหนูด้วย"
เสียงอันแผ่วเบาที่ร้องขอให้พ่อของเธอช่วยเหลือแต่พ่อของเธอกลับมองผ่านโดยไม่ได้สนใจใยดีเธอเลยกลับขึ้นไปบนห้องปล่อยให้เธอโดนแม่ของเธอเองทำร้ายร่างกายต่อไปน้องของเธอก็หัวเราะอย่างชอบใจมองเธอโดนทุบตีอยู่ตรงหน้าร่างกายของเธอถูกแม่บังเกิดเกล้าทำร้ายจนตัวของเธอสลบไปเมื่อรู้ตัวอีกที ตัวของเธอก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
"ที่นี่ที่ไหน...แค่กๆ..."
"ฟื้นแล้วหรอหนูพาย"
"คุณลุงคือใครคะ"
"ลุงคือคนที่อยู่ข้างบ้านของหนูยังไงล่ะที่หนูถูกทำร้ายลุงเองที่เข้าไปช่วย"
"ขอบคุณค่ะคุณลุงที่ช่วยหนู"
"ไม่เป็นไรลุงเห็นหนูมาตั้งแต่เด็กลุงรู้ว่าหนูเป็นคนยังไงแม่ของหนูทำร้ายหนูขนาดนี้หนูไม่แจ้งความหรอ"
"ไม่หรอกค่ะ เขาก็แค่โมโหไปชั่วขณะ"
"แต่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายเด็กจนถึงขนาดสลบไปมาฟื้นที่โรงพยาบาลเลยนะ แจ้งความเถอะ"
"หนูไม่กล้าที่จะแจ้งความจับแม่ของตัวเองขอบคุณนะคะที่ลงมาช่วยหนู"
"ไม่เป็นไรจริงๆก็แค่เห็นหนูถูกทำลายจนเกินไปลุงไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้ช่วยหนูได้ ต่อไปนี้อย่าปล่อยให้แม่ของหนูทำร้ายร่างกายหนูอีกเลยนะ"
"หนูเข้าใจค่ะหนูจะพยายาม"
"นี่ก็ 2 วันแล้วที่หนูสลบไปลุงยังไม่เห็นพ่อแม่ของหนูมาเยี่ยมเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะลุงกลับไปก็ได้นะคะ หนูอยู่เองได้"
"ถึงยังไงถ้ามีเรื่องอะไรให้โทรหาลุงนะเดี๋ยวลุงจะเขียนเบอร์โทรให้"
"ขอบคุณค่ะ"
คุณลุงข้างบ้านคนนั้นก็กลับไปเธอสังเกตเห็นที่แขนของคุณลุงข้างบ้านก็รู้ว่าเขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกันแม่ของเธอเป็นคนอารมณ์ร้ายทำร้ายใครอยู่สักคนถ้ามีคนมาขวางคนคนนั้นก็จะเจ็บตัวไปด้วยเช่นเดียวกันลุงข้างบ้านก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน
ร่างกายของเธอที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บหนักแขนก็เข้าเฝือกหัวก็แตกจนได้เย็บใบหน้ามีแต่รอยพกช้ำตามเนื้อตัวมีแต่รอยเขียวช้ำไปทั้งตัวหากไม่มีคุณลุงข้างบ้านเข้ามาช่วยเธอคงจะตายไปแล้วจริงๆใจของคนเราดำมืดได้ถึงขนาดนี้เลยหรือไงทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้ได้ถึงขนาดนี้
"คนไข้ฟื้นแล้ว หมอขอตรวจอาการของคนไข้นะคะ"
"ค่ะคุณหมอ"
"ยังมีอาการเจ็บตรงไหนที่หนักๆกว่าเดิมไหมคะ"
"ตอนนี้เจ็บไปทุกส่วนเลยค่ะไม่รู้ว่าตรงไหนเจ็บกว่ากันแล้ว"
"หมออยากขอแนะนำให้คนไข้ไปแจ้งความนะคะ เพราะนี่คือการทำร้ายร่างกายโดยเจตนาทำให้คนไข้ต้องตายได้เลยนะคะ"
"คนที่ทำร้ายหนูเป็นแม่ของหนูค่ะหนูไม่อยากแจ้งความไม่อยากเอาผิดใดๆเราแค่มีเรื่องที่ทะเลาะกันเท่านั้นเองอย่าให้ถึงกับต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยนะคะ"
"คุณรู้ไหมคะการถูกกระทำถูกทำร้ายทำให้จิตใจของคนเรากลายเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เป็นโรคความเครียดสะสมจนกลายเป็นโรคซึมเศร้ามีอาการเป็นคนไข้ที่มีอาการเป็นโรคซึมเศร้าเบื้องต้น โรคนี้ดูผิวเผินแค่รู้สึกเครียดสะสมเท่านั้นแต่อาจทำให้คนคิดฆ่าตัวตายก็ได้หากอาการหนักไปมากกว่านี้"
"ตอนนี้หนูไม่คิดที่อยากจะฆ่าตัวตายเลยสักนิดมันไม่มีความคิดนี้เลยค่ะ"
"อาการของคนไข้เป็นแค่เบื้องต้นแค่รู้สึกเครียดสะสมเท่านั้นแต่ถ้าหากปล่อยไว้นานๆโดยไม่รักษาก็จะรักษายากมากขึ้นหมอแนะนำให้ทำการรักษาโดยด่วนนะคะ"
"ถ้าตัวของหนู ไม่ถูกทำร้ายร่างกายและไม่ถูกความเครียดสะสมหรือกดดันก็อาจจะหายจากโรคนี้ใช่ไหมคะ"
"การหายจากโรคซึมเศร้ามันยากมากนะคะแต่ถ้ามีวินัยในตัวเองก็จะหายง่ายกว่าคนทั่วไปที่ไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ส่วนมากคนที่เป็นโรคนี้จะมีอาการเก็บกดเพราะถูกทำร้ายร่างกายจากคนรอบข้างและเหตุการณ์สะเทือนใจก่อนหน้านี้คนไข้มีเหตุการณ์สะเทือนใจอะไรหรือเปล่าคะ"
เธอนึกย้อนกลับไปเธอไม่ได้มีเรื่องสะเทือนใจอะไรเพราะเธอไม่ได้มีเรื่องอะไรจริงๆแต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เธอสะเทือนใจที่สุดกับปรากฏขึ้นในความคิดขึ้นมาแว๊บเดียวเท่านั้นก็คือเรื่องของพัตเตอร์ที่ตายไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อนแต่เธอก็ไม่ได้พูดบอกหมอไปเธอก็ปฏิเสธไปว่าเธอไม่ได้มีเรื่องจะเกินไปอะไร
เธอนอนอยู่ที่โรงพยาบาล 5 วันไม่มีแม้แต่เงาของครอบครัวที่จะมาเยี่ยมเยือนเธอเลยสักนิดคนในครอบครัวปล่อยให้เธอนอนที่โรงพยาบาลอย่างเดียวดายมีเพียงคุณลุงกับคุณป้าที่อยู่ข้างบ้านที่มาเยี่ยมเธอไปบ่อยตลอด 5 วันที่ผ่านมาที่เธอพักรักษาตัว สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งใจ พวกเขาสองคนดีกับเธอยิ่งกว่าครอบครัวซะอีก
เมื่อถึงเวลาที่เธอออกจากโรงพยาบาลเธอก็ไปที่บาร์ เพื่อที่จะทำงานต่อโดยที่เธอไม่กลับไปบ้านก่อนเมื่อคนที่ทำงานที่บาร์ของเธอเห็นเธอกลับมาทำงานก็ต่างขอโทษขอโพยที่ไม่ได้ไปเยี่ยมเธอเลยตัวของเธอก็บอกไม่เป็นไรเพราะตัวของเธอเองก็ไม่อยากให้พวกเขาเห็นสภาพมันน่าอนาถของเธอแม่แขนข้างขวาของเธอจะหัก แต่รอยยิ้มในดวงตาของเธอก็ยังไม่หายไปพนักงาน ของเธอเองก็เอาแต่ทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อตอบแทนเธอและไม่ให้เธอห่วงเรื่องนี้พวกเขาทำงานและปล่อยให้เธอนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์เพื่อที่จะเก็บเงิน นั่นคืองานหลักของเธอที่เธอทำในทุกๆครั้งที่เธอมาทำงาน
ในค่ำคืนนี้ บาร์ของเธอถูกเหมาจัดงานเลี้ยงวันเกิด ลูกหลานคนรวยคนนึงที่มาเหมาร้านนี้เพราะถูกใจบรรยากาศ โดยที่มีเพื่อนของเขามากันหลายสิบคนเพื่อมาดื่มกินเลี้ยงกันที่นี่
สายตาของเธอ มองไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เคยช่วยเหลือเธอเอาไว้ ในที่สุดเธอกับเขาก็ได้เจอกันอีกครั้งภายในใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้พบเจอผู้ชายที่เธอ เคยได้รับการช่วยเหลือจากเขาแต่ก็อาจจะจำเธอไม่ได้แล้วก็ได้ เพราะคนเราหายไป 3 เดือน แล้วบังเอิญช่วยคนแปลกหน้าเมื่อ 3 เดือนก่อนยังไงเขาก็จำเธอไม่ได้อยู่ดี แต่เธอก็เพียงหวังว่า ขอให้เขาจำเธอได้ว่าในครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยเหลือผู้หญิงคนนึงเอาไว้
"มองอะไรอยู่พาย"
เธอสะดุ้งสุดแรงเมื่อแคทมายืนอยู่ข้างหลังเธอตอนไหนไม่รู้ตัวเลยสักนิดทำให้เธอตกใจจนสั่นไปเลย
"ตกใจอะไรขนาดนั้นพาย พี่มานานแล้วนะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ พายแค่ตกใจเท่านั้นเอง"
"แต่พายตัวสั่นมากเลยนะ"
"พายโอเคค่ะ พี่แคทไปทำงานเถอะค่ะ"
"ได้ๆ อ้อพี่จะมาบอกว่าวันนี้ยิปซีมันมาไม่ได้นะมันทะเลาะกับแฟนมันเลยไม่มีอารมณ์มาทำงาน"
"แล้วใครจะมาร้องเพลงล่ะคะ"
"ไม่รู้เหมือนกันถ้าโทร. หาคนอื่นมาร้องแทนก็ยากมากเลยนะ เพราะคนอื่นไม่รับงานด่วนแบบนี้"
"พี่แคทขึ้นร้องเพลงได้มั้ยคะ"
"พี่เล่นเป็นแต่กีต้าพี่ร้องเพลงไม่เป็นอีกอย่างถ้าพี่ขึ้นร้องเพลงใครจะชงเหล้าให้ลูกค้า"
"จริงด้วย แล้วจะทำไงดี"
"พี่เคยเห็นพายร้องเพลงอยู่นะ งั้นพายขึ้นร้องเพลงในคืนนี้ก็แล้วกันเดียวให้พวกนักดนตรีช่วยเล่นให้รีบเลือกเพลงเลย"
"พายเนี่ยนะ"
"เอาเถอะน่า ถือว่าช่วยกันแล้วกันนะร้องสักเพลงสองเพลงก็แล้วกัน"
สุดท้ายพายเองก็ได้ขึ้นไปร้องเพลงตามที่นัดหมายกับนักดนตรีเอาไว้ว่าเธอจะร้องเพลง มันคือความรัก ของลุลา ดนตรีเริ่มขึ้นมาตามจังหวะของทำนองเพลง ใจเธอเต้นระรัวเพราะเธอนั้นมาร้องเพลงที่บาร์ป็นครั้งแรกของเธอ
ฉันเองก็งง ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
ถามคนที่เคย เขาว่ามันคือความรัก
พบกันไม่นาน แล้วเราก็ห่างหายกันสักพัก
หันไปทางไหน ก็เห็นหน้าเธอคนเดียว
เมื่อเสียงของเธอดังขึ้นทำให้หนุ่มๆและสาวๆในร้านถึงกับเงียบฟังตัวของเธอร้องเพลงกันทุกคนไม่เว้นแม้แต่ตัวของผู้ชายที่เคยช่วยเธอเอาไว้ด้วย
ยิ่งดึกยิ่งเหงา จะกี่โมงก็ยังไม่นอน
เมื่อมีเธอเป็นภาพสะท้อน ติดอยู่ในใจ
ถ้ามันคือความคิดถึง ฉันเองก็คงคิดถึง
ถ้ามันคือความลึกซึ้ง ก็ลึกสุดๆ หัวใจ
ถ้ามันคือรักจริงๆ ก็คงจะรักมากมาย
เฝ้ารอคนอยู่ไกลๆ จะย้อนมา มาหากัน
บรรยากาศในร้านดีขึ้นมากกว่าเดิมและคนในร้านก็เริ่มร้องเพลงตามเธอกันเรื่อยๆจนทุกคนในร้านพร้อมใจกันร้องเพลงไปกับเธอจนจบเพลง ผู้ชายคนนั้นส่งยิ้มนิดให้กับเธอหลังจากที่เธอร้องเพลงเสร็จเมื่อร้องเพลงไปหลายเพลงแล้วนั้น นักร้องที่แคทโทร.ให้มาร้องเพลงแบบเร่งด่วนก็มาถึงเธอจึงเปลี่ยนไปนั่งทำงานแทนให้นักร้องตัวจริงเขาร้องเพลงไป
"ร้องเพลงเสียงดีนะเนี่ย"
"นี้ใคร นี้เจ้าของร้านนะคะ ต้องทำให้เป็นทุกอย่าง"
"จ้าๆเจ้าของร้าน ว่าแต่เล็งคนนั้นเอาไว้หรอเห็นมองนานแล้ว"
"จะบ้าหรอพี่แคทพูดอะไรแบบนั้น"
"ก็เห็นมองตาหวานขนาดนั้นตัวเราก็นึกว่าชอบ"
"พอเลย กลับไปทำงานเลยค่ะ"
"เขินหรอเอาเถอะความรักมันห้ามกันได้ที่ไหน พี่ยังชอบเกย์เลย"
"พอเลยค่ะพี่แคทไปทำงานลูกค้ามองพี่จะตาจะถลนออกมาแล้ว"
เธอก็บ่นไปอย่างนั้นเพราะรู้ดีว่าถ้าไม่เป็นความจริงแคทคงไม่พูดแบบนั้นออกมาหรอกแสดงว่าเธอแสดงพิรุธออกมาเยอะมากทำให้ใบหน้าของเธอแดงออกมาอย่างเขินอายอย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนั้นก็รู้ว่าเธอแอบมองเขา
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีค่ะ"
"ผมเรียวนะครับ คุณชื่ออะไร"
"ชื่อพายค่ะ"
"ทำงานที่นี้นานหรือยังครับ"
"ก็นานแล้วนะคะ 3 ปีกว่าแล้ว"
"ผมมาที่นี้ก็บ่อย ทำไมไม่เคยเห็นคนน่ารักแบบคุณพายเลย"
"ปกติก็นั่งทำงานที่นี้นะคะ"
"คุณพายมีแฟนหรือยังครับถ้ายังไม่มีผมขอ..."
"ฉันไม่ชอบผู้ชายค่ะ แฟนฉันยืนชงเหล้าอยู่ที่นั้นค่ะ"
"แย่จังเลยนะครับ แต่ผมชอบเสียงร้องเพลงของคุณมากเลยนะครับ"
"ขอบคุณนะคะที่ชอบ"
"งั้นผมต้องขอตัวก่อนนะครับ"
"ค่ะ"
ผู้ชายเหล่านี้เพียงเพราะต้องการนอนกับผู้หญิงที่ทำงานในผับในบาร์หรือแม้แต่ร้านอาหารล้วนมาทำแบบนี้กันทั้งนั้น เธอเองก็เคยเจอคนแบบนี้มามากมายยิ่งตอนที่พัตเตอร์ยังอยู่คนที่ชื่อเรียวก็เคยตามจีบพัตเตอร์เหมือนกัน ทำให้เธอรู้เรื่องพวกนี้ดีกว่าใครผู้ชายเพียงแค่อยากระบายความต้องการพวกเขาพร้อมจะทำให้ผู้หญิงเชื่อใจได้ทุกทางเธอจึงรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องแบบนี้แต่เธอไม่ได้ปิดกั้นความรักของเธอเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกว่าหากจะมึงอะไรกับใครสักคน คนๆนั้นต้องเป็นสามีเธอเพราะเธออยากมีครอบครัวเป็นของตัวเองแบบที่ไม่ต้องไปดิ้นรนหาคนอื่นอีกเพราะเธอไม่ต้องการรักใครอีกและคนที่เธอชอบนั้นเธอเองก็พบเขาแล้ว
"เธออยากทำความรู้จักกับฉันมั้ย"
"ทำไมหรอคะ"
"เธอรู้จักฉันหรอเห็นเธอมองฉันมานานแล้ว"
"ไม่รู้จักค่ะ"
"ชอบฉัน?"
"คุณคิดว่ายังไงคะ"
"คืนนี้อยากไปต่อกับฉันมั้ย"
"ฉันต้องทำงานค่ะ"
เขามองมาที่เธอด้วยสายตาอ่านไม่ออกแต่เธอก็ไม่ได้สนใจใยดีเขาเท่าไหร่นักเพราะยิ่งเธอสนใจเขา ตัวของเขาเองจะยิ่งสนใจเธอมากขึ้นแต่การที่เธอทำแบบนี้เพราะไม่ต้องการเป็นคนแค่คืนเดียวสำหรับเขาเพราะใจของเธออยากมีความรักกับใครสักและคนๆนั้นก็คือเขา
"เธอชื่ออะไร"
"พาย แล้วคุณล่ะ"
"ทะเล"
"อยากได้อะไรเพิ่มมั้ยคะ"
"ไม่ เอาเบอร์เธอมาสิจะได้รู้จักกัน"
"ฉันไม่มีมือถือ"
"หืม งั้นหรอโอเคเอาแบบนั้นก็ได้"
เธอส่งยิ้มอย่างรักษามารยาทก่อนจะทำงานต่อไปอย่างนั้นทุกการกระทำของเธออยู่ในสายตาของทะเลชายหนุ่มที่มาหาพายเพื่อถามเธออย่างตรงไปตรงมา เขาเพียงแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ถึงมองเขาขนาดนี้แต่พอมองเธอดีๆกลับรู้สึกเหมือนเคยเจอจากที่ไหนสักทีแต่เขากลับคิดไม่ออก
"มองอะไรขนาดนั้นว่ะทะเล"
"เห็นผู้หญิงที่เคาท์เตอร์นั้นมั้ย"
"เห็น มีอะไรหรอหรือว่าอยากจะได้ผู้หญิงคนนั้น"
"พูดมากไอ้เรียว ดื่มเหล้าของมึงต่อไปเถอะอย่ามาพูดมาก"
"นั้นชื่อพาย เป็นเด็กในร้านนี้ทำงานมาสามปีกว่าแล้ว แต่ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านคนใหม่เจ้าของคนเก่าเหมือนจะเสียไปเมื่อสี่เดือนก่อน"
"บอกกูทำไมกัน ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย"
"สายตามึงมันบ่งบอกเว้ย"
"ไม้เอกมึงก็เอากับเขาด้วยหรอว่ะ"
"วันนี้วันเกิดกูจะทำอะไรก็ได้เว้ย แต่มึงคงจะชอบเขานิดๆใช่มั้ย"
ไม้เอกคือเพื่อนในกลุ่มของทะเลและเรียวเขาสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆจนถึงตอนนี้แต่เพื่ออีก 7 คนในกลุ่มก็เป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน ปีนี้พวกเขาก็อายุ 27 ปีแล้วคนที่อายุมากที่สุดเห็นจะเป็นทะเลเพราะเกิดต้นปีพวกเขาจึงให้เกียรติเพื่อนหน้านิ่งคนนี้เสมอมา ตั้งแต่รู้จักกันมาทะเลคือคนที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงหรือผู้ชายเลยสักครั้งมีแค่ครั้งนี้ที่เขาสนใจผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์เก็บเงินคนนั้นคนเดียว
"บ้าใครจะไปชอบไม่เห็นจะสวยเลย"
"ปากแข็งมากไอ้ทะเลอย่ามาปากแข็งเลยชอบก็บอกชอบสิวะนี้คือครั้งแรกของมึงเลยนะที่ชอบผู้หญิงน่ะ"
"ไอ้เรียวอย่าพูดมากจะชอบไม่ชอบมันก็เรื่องของกูมึงอย่ายุ่ง"
"ถ้ามึงนอนกับเขาได้ภายในคืนนี้มึงอยากได้อะไรก็บอกกูได้เลย"
"กูไม่เอาด้วยหรอก"
"ไม่กล้าอะดิ ป๊อดว่ะ"
"เออก็ได้ กูจะฟาดผู้หญิงคนนี้ก็ได้ขออะไรก็ได้ใช่มั้ย"
"เออ"
"ดีล ตามนั้น"
"มึงมันแน่ว่ะ"
เสียงเอ่ยแซวของเพื่อนทำให้ทะเลนั้นตั้งใจที่จะนอนกับพายจริงๆในคืนนี้เขาจะต้องจัดการนอนกับเธอให้ได้ในคืนนี้
กว่าจะปิดร้านเพื่อนของเขาต่างก็พากันเมาจนไม่มีสติจนต้องเรียกคนขับรถมารับไปส่วนตัวของเขากลับรอให้ทุกคนกลับบ้านไปให้หมดทุกคนแล้วรอให้พายออกมาและเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะคนที่ปิดร้านคนสุดท้ายคือพายผู้หญิงที่เขารอก็ปิดร้านเขาจึงเข้าไปช่วยในทันที
"ฉันช่วย"
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำเองได้"
"สูงแค่นี้ยังจะอวดเก่งอีกมาฉันจะช่วยปิดร้านเอง"
"ฉันสูงถึง 158 เชียวนะ"
"มีอะไรน่าอวด ฉันสูง 195 ยังไม่อวดเลย"
"เหอะ แค่สูงเท่านั้นเอง"
"พูดมากน่ารำคาญ"
เขาปิดร้านช่วยเธอเสร็จก็ชวนเธอไปนอนกับเธอเขาเลยพูดกับเธออีกครั้ง "คืนนี้นอนกับฉันมั้ย" เขาทำให้เธอหันมามองหน้าอีกฝ่ายอีกครั้งก่อนจะตอบกลับไปนิ่งๆ
"ไม่ค่ะ"