บทที่ 1
บทที่ 1
พายได้รับจดหมายจากทนายของพัตเตอร์ ในเนื้อหาจดหมายเล่าเรื่องราวที่ทำให้ใจของเธอต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เนื้อหาของจดหมายนั้น พูดถึงเรื่องราวของเธอกับเขาและการให้มรดกแก่ตัวเธอในครั้งนี้ เพื่อหวังว่าสักวันตัวของเธอจะได้มีความสุขและมีชีวิตที่มีความสุขในอนาคต
ถึงพาย
ถ้าพายได้รับจดหมายฉบับนี้พี่ก็คงอยากไปแล้วในช่วงชีวิตนึงของพี่ การที่พี่ได้รู้จักกับพายเป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดท้ายไม่เคยรังเกียจพี่ที่พี่ไม่ได้ชอบผู้หญิงและแตกต่างจากคนอื่นทั่วไป แต่พายก็ไม่เคยรังเกียจพี่เลยสักนิด พี่ซาบซึ้งและรู้สึกดีใจที่ยังมีคนดีๆแบบพายอยู่ ที่พี่มอบทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตพี่ที่ตัวของพี่หามาได้นั้นเพราะนอกจากพายพี่ก็เหลือแค่ยายของพี่เท่านั้น พินัยกรรมอีกฉบับพี่ได้ให้ทนายส่งมอบให้กับยายของพี่หลังจากที่พี่จากไปแล้ว พี่เข้าใจพายนะที่ว่าทำไมถึงแช่งตัวเองแบบนี้พี่แค่คิดว่าในอนาคตข้างหน้าไม่มีใครรู้ว่าชีวิตจะยาวจะสั้นแค่ไหนพี่จึงวางแผนอนาคตเอาไว้แบบนี้พี่ขอให้ในอนาคตของพายมีความสุขต่อให้มีความทุกข์แค่ไหนก็ขอให้ผ่านไปได้เสมอจำไว้นะพี่จะยืนอยู่เคียงข้างพายตลอดไปหากท้อใจและหมดหวังให้กลับมาอ่านจดหมายฉบับนี้และก็มีความสุขตลอดไป พี่รักพายนะเด็กดี น้องสาวของพี่
จาก พัตเตอร์
"ทำไมพี่พัตเตอร์ถึงได้เขียนจดหมายแบบนี้เอาไว้บอกว่าตัวเองอาจจะอายุสั้นแบบนี้ล่ะคะ"
"เรื่องนี้พวกเรามีหน้าที่แค่ดูแลพินัยกรรมและส่งมอบพินัยกรรมและมรดกให้กับผู้ได้รับมรดก เป็นความต้องการของผู้เขียนพินัยกรรมครับ"
"ขอบคุณนะคะ ที่รักษาสิ่งของเหล่านี้เอาไว้ แต่ว่าในตอนนี้ฉันอยากฝากเอาไว้ที่คุณทนายเอาไว้ก่อนและห้ามให้คนที่บ้านของดิฉันรู้เรื่องที่ดิฉันได้รับมรดก"
"ทำไมล่ะครับ ถ้าคนที่บ้านรู้ไม่ดีกว่าหรอที่เขาจะได้รับรู้ว่ามีมรดกเท่าไหร่"
"สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พี่ชายของฉันเก็บเอาไว้ให้ดิฉันเพื่อขยายต่อในอนาคตและหากดิฉันตั้งตัวได้ก็จะส่งมอบทรัพย์สินเหล่านี้ให้แก่ผู้ยากไร้ ให้เขาได้มีโอกาสได้ทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยได้ทำจะให้คนที่บ้านของฉันรู้ไม่ได้"
"ถ้าอย่างนั้นคุณก็ทำพินัยกรรมเอาไว้ก็แล้วกัน ดีไหมครับ"
"ดีค่ะ แต่เรื่องพินัยกรรมฉันขอให้คุณทนายเก็บเป็นความลับด้วยนะคะ"
"หากเป็นความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมผมจะรักษาความลับนี้เอาไว้จนกว่าจะถึงเวลาครับ"
"ขอบคุณมากนะค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับนี่คือหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว ขอให้คุณวางใจเราจะดูแลเต็มที่ครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
หลังจากที่ทนายผู้ดูแลพินัยกรรมกลับไปเธอก็ทำบัญชีต่อคนเดียวภายในห้องทำงาน เมื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นทำให้มจเธอเหม่อลอยจนไม่อาจทำงานที่กองตรงหน้าได้อีกต่อไป ในความจริงแล้วเธอก็รู้เหตุผลนี้ดีที่สุดเพราะตัวของพัตเตอร์ นอกจากยายแล้วก็มีเพียงเธอเท่านั้นที่อยู่ข้างๆเขาตลอดเวลาหากไม่ไว้ใจเธอก็ไม่รู้แล้วว่าพัตเตอร์เองจะไว้ใจใครได้อีก แต่เธอเพียงอยากอยู่ข้างๆพี่ชายที่แสนดีเท่านั้นเพราะไม่ใช่เพียงพี่เขามีแต่เธอที่อยู่เคียงข้างแต่เธอก็มีเพียงพี่ชายคนนี้ที่อยู่ข้างๆเหมือนกันจึงไม่แปลกที่สมบัติทั้งหมดจะยกให้เธอ ตัวของเธอจะรักษาสมบัตินี้ของพี่ชายตนเองเอาไว้ให้ดีที่สุดแล้วจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดประโยชน์ที่สุดเช่นเดียวกัน
"แหมตั้งแต่หัวหน้าคนเก่ายกร้านนี้ให้พร้อมกับเงินงวดนี้ ก็มีผู้ชายแก่คราวพ่อมาหาอีกเป็นเด็กเสี่ยหรอย่ะ"
"ยิปซี ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเธอเป็นใบ้หรอกนะ บางทีเธอก็ควรเก็บปากเอาไว้บ้างและหัดสงบปากสงบคำบ้าง เอาแต่ระรานคนอื่นเป็นนักร้องอ่ะก็หัดพัฒนาตนเองบ้างนะ"
แคทสาวทอมบอยเดินมาหลังจากเช็ดแก้วที่จะใช้งานในคืนนี้เสร็จแล้วตัวของพายกับแคทก็สนิทกันพอสมควร แม้แคทจะหยาบคายบ้างแต่ทุกคำพูดของแคทล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ตอนนี้แคทก็กำลังทะเลาะกันกับยิปซีอยู่ทำให้ยิปซีคือนักร้องในร้านที่จะมีร้องเพลงสดทุกวันจันทร์ วันพุธและวันศุกร์วันนี้วันศุกร์ทำให้เธอมาที่นี้ยิปซีกับตัวของเธอไม่ค่อยถูกกันตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วไม่ว่าตัวเธอทำอะไรก็จะโดนยิปซีว่าร้ายเป็นคนแรกเหมือนในครั้งนี้ที่เธอกำลังนั่งทำงานอยู่ยิปซีก็เปิดประตูเข้ามาหาเรื่องตัวของเธอแต่ก็โนแคทด่ากลับไปเช่นกัน
"อีแคท อีแมวผีมึงนี่มันปากดีจริงๆ ที่ปกป้องเนี่ยเพราะอะไรยะ ฉันรู้นะว่าแก ชอบพี่พัตเตอร์แต่แกก็คงรู้อยู่เต็มอก ว่าพี่พัตเตอร์เอ็นดูยายนี่มาตลอด ไม่ได้สนใจใยดีแกเลยนางชะนี"
"ต่อให้เขาไม่ได้ชอบฉันแล้วยังไง สุดท้ายแล้ว พี่เขาก็เป็นพี่ที่ดีที่สุดคนที่ตายไปแล้วแกไม่สมควรที่จะเอาคำพูดนี้มาพูดให้เขาไม่ดีเข้าใจไหมถ้าแกไม่พอใจแกจะอยู่ที่นี่ทำไมฉันเข้าใจนะว่ายังแกจะหาที่อยู่ไม่ได้เพราะปากแกมันวอนหาเท้า"
"มันจะมากไปแล้วนะอีแคท!"
"แล้วมันจะมาไหมล่ะอียิปซี!"
"พวกพี่สองคนพอได้แล้วเลิกทะเลาะกันเถอะค่ะ ทำไมต้องมาหาเรื่องทะเลาะกันแบบนี้ด้วยฉันก็ไม่เข้าใจพวกพี่เหมือนกัน อยู่ที่นี่อย่าทะเลาะกันอีกเลยนะคะ ถือว่าฉันขอร้องแต่ถ้าใครไม่พอใจเชิญออกไปได้เลยค่ะ"
"ทำตัวสูงส่งแล้วยังไง สุดท้ายก็มีแม่เป็นอีขี้ขอ ขอเงินเก่งยิ่งกว่าหาเองซะอีกแต่ไม่มีปัญญาทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน"
"แล้วแต่พี่จะคิดนะคะพี่ยิปซี ต่อให้ฉันพูดอะไรออกไปพี่ก็คิดในแง่ลบอยู่ดี ถือว่าครั้งนี้ ฉันให้อภัยพี่ก็แล้วกัน พี่กลับไปทำงานของพี่ซะอีก 1 ชั่วโมงจะเปิดร้านแล้ว"
"แกนี้มันน่ารำคาญจริงๆ"
"พอแล้วยิปซีถึงยังไง พายก็เป็นเจ้านายเรานะ"
"ฝากไว้ก่อนเถอะ"
เพียงเพราะว่าตัวของเธอถูกเอ็นดูจากเจ้านายมาโดยตลอดเลยทำให้คนหลายคนไม่พอใจรวมถึงยิปซีรุ่นพี่ที่ทำงานคนนี้ด้วยเช่นกัน แต่ใครจะรู้กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เธอก็ทำงานแทบเป็นแทบตายเหมือนกันแต่ต่อให้พูดออกไปสุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้นอยู่ดี จึงปล่อยผ่านเรื่องราวทั้งหมดและก็หันไปทำงานต่อไปโดยปัดเรื่องราวที่รกสมองออกไป
"เธอรู้สึกยังไงบ้างพาย"
"ก็ไม่มีอะไรนะคะ พี่แคทไม่ต้องห่วงพายหรอกนะพายโอเค"
"ให้มันจริงเถอะ ถ้ายิปซีมาหาเรื่องก็บอกพี่อย่าเก็บเอาไว้คนเดียวเข้าใจมั้ย"
"ได้เลยค่ะ งั้นพี่สบายใจแล้วใช่มั้ยคะ พายขอทำงานก่อนเดี๋ยวเปิดร้านพายจะออกไปเฝ้าเคาท์เตอร์และช่วยเก็บกวาดของในร้าน"
"ไม่ต้องหรอกพี่ทำเองได้ พายทำงานนี้เถอะรอแค่รับเงินก็พอ"
"เอางั้นก็ได้ค่ะ"
"ดีมาก อ้ออีก 7 วันว่างมั้ยพี่จะชวนไปทำบุญที่วัดใกล้ๆ"
"ว่างนะคะ วันนั้นร้านปิดด้วยงั้นเราไปทำบุญกันนะคะ พายจะทำบุญให้พี่พัตเตอร์ด้วย"
"อืม"
เธอรู้ว่าภายในใจของพี่แคทนั้นยังมีพี่พัตเตอร์อยู่ภายในใจเสมอมาแต่จะให้ทำยังไงในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่อาจจะสมหวังเอีกแล้วเธอเข้าใจนะว่าหวังอะไรแล้วสุดท้ายไม่ได้ดั่งหวังก็อาจจะเสียใจหน่อยแต่ว่าการเลือกจำแต่สิ่งดีๆมันยังดีกว่าจำสิ่งแย่ๆพวกนี้
ในช่วงของสิ้นเดือนภายก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการแล้วเจ้านายของทุกคนวันนี้เป็น วันที่ทุกคนต้องได้รับเงินเดือนเธอจึงมีหน้าที่ไปที่ธนาคารเพื่อเบิกเงินมาให้พนักงานทุกคนในร้านแต่การเบิกเงินครั้งนี้ถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งเพราะอาจเกิดการถูกปล้น ได้ในระหว่างทางเพราะมีมิจฉาชีพมากมายที่จ้องจะทำแบบนี้อยู่แต่เธอก็ต้องเสี่ยง เพราะถ้าเธอไม่ทำทุกคนในร้านก็จะไม่มีเงินรับการโอนเงินให้ พนักงานบางทีอาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับพวกเขาเพราะบางคนก็ไม่อยากให้แฟนตัวเองรู้ว่ามีเงินเข้าบัญชี จึงเลือกที่จะรับเป็นเงินสดแทน
"พายวันนี้สิ้นเดือนปล้วที่พายจะไปธนาคารให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่แคท ช่วงสิ้นเดือนพี่แคททำงานหนักมากแล้วเดี๋ยวเรื่องนี้พายจะไปเอง"
"เอารถพี่ไปมั้ย วันนี้พี่ขับรถมา"
"ใกล้แค่นี้พายเดินไปก็แล้วกันค่ะ"
"งั้นหรอ พี่พาไปได้นะ"
"ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ งั้นพายจะรีบไปและจะกลับมาให้ทันหกโมงเย็นนะคะ"
"เอางั้นก็ได้แต่ถ้าพายมาช้าพี่จะให้คนออกไปตามนะ"
"ได้เลยค่ะพี่แคท งั้นพายไปก่อนนะคะ"
"เดินทางดีๆนะ"
"ค่ะพี่แคท"
หลังจากที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารจนออกจากธนาคารมาเธอรู้ว่าต้องทำยังไงไม่ให้ตัวเองถูกโจรปล้นเพื่อป้องกันการถูกปล้นเธอจึงเลือกที่จะเดินไปกับฝูงชนคนที่เดินผ่านไปผ่านมา แต่เมื่อต้องผ่านซอยที่ต้อง เดินผ่านก่อนจะถึงร้านเพียงแค่ไม่ถึง 200 เมตรเท่านั้นก็จะถึงแล้ว แต่ก็นับว่าเป็นอันตรายอย่างมากเหมือนกัน เพราะที่นี่นอกจากไม่มีกล้องวงจรปิดแล้วยังเป็นพื้นที่เปลี่ยว สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ทุกเย็น แล้วทุกเที่ยงคืนจะมีตำรวจที่เป็นสายตรวจมาตรวจที่นี่บ่อยๆแต่ตอนนี้ แค่ 17:00 น จึงไม่มีสายตรวจที่คนไหนขับรถผ่านมาที่นี่ในเวลานี้หรอก ในขณะที่เธอกำลังเดินไปอย่างเร่งรีบเสียงของผู้ชายดังอยู่ข้างหลังทำเอาเธอตกใจจนรีบสับเท้าให้เร็วขึ้น
"จะรีบไปไหนเห็นเดินคนเดียวให้พี่ไปส่งไหม"
เสียงที่เดินตามเธอมาดังขึ้นทำให้เธอรีบหันไปด้วยความตกใจแต่ก็มีเสียงของชายหนุ่มที่ตัวสูงใหญ่หน้าตาเหมือนโจรพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวสร้างความตกใจให้แก่เธอเป็นอย่างมากจนต้องเร่งตัวเองให้ก้าวเร็วไปอีก
"ไม่เป็นไรค่ะอยู่ใกล้แค่นี้ ไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว"
"จะพูดมากทำไมวะเรามาปล้นมันนะเว้ย จับตัวมันสิวะตัวเล็กแค่นี้เอง!"
"พวกพี่จะทำอะไร! ปล่อยฉันนะ แถวนี้มีตำรวจมาตรวจบ่อยๆพี่ไม่กลัวโดนจับหรือไง"
"มั่วแต่กลัวตำรวจกูก็อดตายสิวะ เฮ้ยพวกมึงจับมันเอาไว้หุ่นก็ดีอยู่หรอกแต่หน้าตาไม่ค่อยถูกใจเลยว่ะ"
"ลูกพี่จะข่มขืนมันด้วยมั้ย"
"ไม่เอาหรอกว่ะ หน้าตาอย่างนี้ไม่มีอารามณ์ปล้นแค่เงินมันก็พอ"
"ครับลูกพี่"
"ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วยฉันโดนโจรปล้นค่ะ ช่วยฉันด้วยค่ะใครก็ได้ช่วยฉันที!"
"หุบปาก!!!"
"ช่วยด้วย! โอ๊ย!!"
ผั๊วะ!!
พายตะโกนออกไปสุดเสียงทำให้โจรพวกนั้นเกิดความโมโหจึงตบเธอจนตัวของเธอล้มลงและลงมือทำร้ายร่างกายเธอ แต่เพราะมีเงินในกระเป๋าเธอจึงกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยทำให้พวกโจรหัวเสียขึ้นมาในใจของเธอในตอนนี้ไม่ได้ห่วงตัวเองเลยเพียงแต่คิดว่าถ้าเธอปล่อยกระเป๋านี้ไปอีกหลายชีวิตที่จะต้องอดอยากในช่วง 1 เดือนต่อจากนี้เธอจึงกอดกระเป๋าเอาไว้สุดชีวิตต่อให้โดนผู้ชายกลุ่มนี้ทำร้ายเพื่อจะปล้นเงินของเธอแต่เธอก็พร้อมที่จะรักษากระเป๋าใบนี้ด้วยชีวิตเช่นเดียวกัน ได้แต่ร้องขอในใจว่าขอให้มีคนผ่านมาแล้วช่วยเธอสักทีเถอะ
ผั๊วะ!!!!!
เสียงบางอย่างที่เกิดขึ้นกระทันหันในขณะที่เธอ นอนกอดกระเป๋าอยู่ที่พื้นเพราะมีผู้ชายรุมทำร้ายร่างกายเธอ แต่เสียงที่เธอได้ยินเป็นเสียงของคนที่สู้กันเธอเจ็บหนักแต่ก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาอาจจะเป็นอีกกลุ่มนึงที่ต้องการที่จะมาปล้นเธอเป็นคราวซวยของเธอจริงๆ
"เธอจะนอนอีกนานไหม ลุกขึ้นมาสักทีจะรอให้มันกลับมาปล้นอีกหรือไง"
"ฉันเจ็บค่ะ จึงลุกไม่ไหวคุณจะมาปล้นฉันอีกคนใช่ไหมคะ"
"ใครจะปล้นเธอ ฉันแค่สงสารจึงเข้ามาช่วยเท่านั้นเอง"
"คุณช่วยฉันไว้ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ"
"สมัยนี้ใครเขาจะไปเบิกเงินที่ธนาคารถือเงินเป็นแสนแสนมาเดินแถวนี้ให้คนมาปล้นกัน"
"ไม่ทำไม่ได้หรอกค่ะเพราะถึงยังไงถ้าฉันโอนเงินให้กับพวกเขา พวกเขาก็คงจะไม่พอใจฉัน"
"ไม่พอใจได้ยังไง การโอนเงินมันก็ยังมีสลิปเงินอีกอย่างเธอก็จะได้รู้อีกว่าใครที่เธอโอนไปให้แล้วบ้าง จะได้ไม่โดนโกง เธอเป็นเจ้านายหรือว่าเป็นลูกน้องกันแน่เนี่ยถึงได้โง่แบบนี้"
"ฉันเป็นแค่พนักงานในร้านที่เจ้านายให้ฉันเข้าไป เบิกเงินเท่านั้นเองค่ะ"
"เจ้านายของเธอนี่มันแย่จริงๆมาเดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่ร้านเอง"
"ไม่ต้องก็ได้ค่ะ"
"ยังจะทำอวดเก่งอีก อยากโดนมันฉุดไปอีกหรือไง ครั้งนี้มันอาจจะฆ่าเธอเพื่อปิดปากก็ได้โดนพวกนี้มันยิ่งชั่วๆกันอยู่ด้วย"
"คงไม่ถึงขนาดนั้นมั้งคะ"
"เธอนี่มันอ่อนต่อโลกจริงๆ เธอจะไปอยู่สังคมแบบพวกนี้ได้ยังไง หากเธอใจดีและคิดปัญญาอ่อนแบบนี้อีก เดินมาเดี๋ยวฉันไปส่งร้านเธออยู่ที่ไหน"
"อีก 200 เมตรก็ถึงแล้ว"
"ไกลขนาดนี้ไม่ขับรถมาล่ะ"
"ฉันขับรถไม่เป็นค่ะ อีกอย่างก็เกรงใจคนในร้านด้วย"
"เบื่อคนดีอย่างเธอจริงๆ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ"
"ซื่อบื้อชมัด"
แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะติดรำคาญเธอเป็นอย่างมากแต่สุดท้ายแล้วเขาก็บ่นนิดหน่อยจึงทำให้เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกได้แต่เดินตามหลังของเขามาอย่างเงียบๆ จนกระทั่งมาถึงร้านเธอก็ขอบคุณเขาอีกครั้งนึง
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยฉันเอาไว้"
"เลิกขอบคุณเถอะ ทำแผลด้วยแล้วกันโดนผู้ชายสามสี่คนรุมทำร้ายน่าจะช้ำในมากอยู่เอาเถอะอย่าลืมทำแผลก็แล้วกัน"
"ขอบคุณ..."
พอกำลังจะขอบคุณเขาอีกรอบแต่ตัวเขาก็จากไปโดยที่ไม่ทิ้งเบอร์ติดต่ออะไรเอาไว้ แต่ก็คงดีที่เราไม่ได้ติดต่อกัน แต่ใจในย่อมรู้ตัวดีว่าเธอเป็นคนที่ธรรมดาจนผู้ชายไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แตกต่างจากน้องสาวที่มีแต่ผู้ชายตามจีบอยู่บ่อยๆแต่เธอกลับมีแต่ผู้ชายเมินอยู่บ่อยๆ
"เฮ้อ ทำไมรู้สึกเศร้าใจแบบนี้กันนะ โอย เจ็บไปหมดทั้งตัวเลยเดือนหน้าคงต้องโอนเงินแล้วล่ะ"
3 เดือนผ่านไป
เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 เดือนก่อน เธอล้วนลืมเลือนมันไปจนหมด ลืมแม้กระทั่งว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 3 เดือนก่อน เพราะตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาเธอมัวแต่ทำงานโดยไม่มีเวลาพัก บางครั้งก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านและนอนเฝ้าที่บาร์ ตลอดหลายเดือนเพราะต้องการเก็บเงินเพื่อที่จะให้พ่อของเธอได้รับการผ่าตัดหัวใจที่ดีที่สุดเพราะในชีวิตเธอพ่อของเธอคือคนเดียวที่ไม่ทำร้ายลงมือทุบตีเธอเลยเธอจึงรักพ่อของเธอมากกว่าแม่กับน้องของตัวเองซะอีก ในช่วงบ่ายยังไม่มีคนทำให้เธอมีเวลาที่จะทำอะไรแทนคนไม่มาทำงานในวันนี้ แต่เสียงอันสดใสของใครบางคนสร้างความตกตะลึงให้เธอรีบหันไปมองตามเสียงเรียกนั้น
"พาย!"
"ธัญญ่า มาได้ไงไหนบอกว่าไปต่างประเทศ"
"ก็เมื่อ 3 เดือนก่อนไปประเทศต่างประเทศที่นั่นแหละ แต่ว่า ฉันได้รับข่าวดีว่าฉันตั้งท้อง ครอบครัวจึงให้กลับมารอคลอดที่นี่"
"เธอท้อง เธอไปอยู่กับเขาแค่ 3 เดือนท้องเลยหรอ"
"ก็ธรรมดานั้นแหละ คนอยู่ด้วยกันก็ต้องท้องเป็นธรรมดาฉันน่ะดีใจมากเลยนะที่ได้มีลูกกับเขา"
"แล้วพ่อแม่เธอไม่ว่าอะไรหรอ เกี่ยวกับเรื่องนี้เธอท้องเลยนมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะเนี่ย"
"เธออย่าลืมสิฉันเป็นลูกครึ่งนะ พ่อแม่ของฉันน่ะไม่ได้ยึดถืออะไรแบบโบราณคร่ำครึหรอกนะ มีแต่พี่ชายฉันเท่านั้นแหละโมโหกับเรื่องที่ฉันท้องน่ะ"
"เธอนี้นะน่าตีจริงๆ ท้องก่อนแต่งงานได้ยังไงกันค่าสินสอดก็ราคาตกพอดี"
"เธอพูดเหมือนพี่ชายฉันเลยนะ"
"จะว่าไปพวกเรารู้จักกันมาตั้งหลายปี ฉันยังไม่เคยเจอพี่ชายเธอเลยรูปสักใบก็ไม่เคยเห็นลึกลับมากเลยนะเนี่ย"
"พี่ชายของฉันไม่ค่อยถ่ายรูปหรอก อีกอย่างเขาไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศคนเดียว ตั้งแต่เด็กพวกฉันก็ไม่ค่อยได้เจอเขาเหมือนกันแต่พี่ชายของฉันน่ะห่วงฉันมาก ยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ซะอีก"
"ก็ต้องหวงเป็นธรรมดานั่นแหละน้องสาวสวยขนาดนี้ มาเหนื่อยๆอยากดื่มอะไรเดี๋ยวจะไปเอามาให้เธอดื่มแก้หิว"
"เอานมร้อนก็แล้วกันง่ายดี"
"OK แล้วขนมอยากกินอะไรไหม"
"ไม่เป็นไรล่ะ พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่าฉันอยากชวนเธอไปโรงพยาบาลฉันอยากให้เธอเป็นคนแรกที่พาฉันไปฝากครรภ์ได้หรือเปล่า"
"ได้สิ ฉันก็อยากเป็นคนแรกที่พาเธอกับหลานไปฝากครรภ์เหมือนกัน"
"งั้นพรุ่งนี้บ่าย เจอกันที่โรงพยาบาลใกล้ๆนี้โอเคไหม"
"โอเคงั้นเอาอย่างนี้ วันนี้ฉันจะเลี้ยงเธอเอง เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่โอเคไหม"
"ได้แน่นอนของฟรีฉันชอบอยู่แล้ว"
"เยี่ยมมาก"
ในบ่ายวันต่อมา พายก็ไปรอธัญญ่าที่โรงพยาบาลใกล้ๆ เพียงเวลาไม่ถึง 5 นาทีธัญญ่าก็มาถึงโรงพยาบาลพวกเธอสองคนเดินจูงมือกันเพื่อที่จะพาเพื่อนสนิทของตนเองไปฝากครรภ์ ตื่นเต้นยิ่งกว่าตัวเองตั้งท้องเสียอีก เธอทำยินดีและมีความสุข ที่เห็นเพื่อนของตัวเองตั้งท้องและมีครอบครัวที่อบอุ่นหากในอนาคตเธอมีลูกเธอก็อยากให้ลูกของเธอ มีความสุขและได้รับความรักจากเธอและสามีในอนาคตจะได้ไม่ขาดความรักความอบอุ่นแบบเธอ
"เธอมาที่นี้คนเดียวแล้วว่าที่สามีเธอล่ะเมื่อไหร่จะกลับมา"
"อีกไม่นานว่าที่สามีของฉันก็จะกลับมาแล้วอีก 3 เดือนเท่านั้น"
"จริงหรอ นี่ฉันอยากเห็นหน้าเขาจังว่าเขาจะมีหน้าตาเป็นยังไงบ้าง"
"นี่จะเปิดให้ดูก็แล้วกัน ฉันมีรูปเขาอยู่ในเครื่องขอค้นหาก่อนแล้วกัน"
"ได้ๆฉันรอได้รีบๆหา"
"ใจร้อนยิ่งกว่าฉันซะอีก อ๊ะ เจอแล้ว"
ในขณะที่ธัญญ่ากำลังจะเปิดรูปว่าที่สามีให้กับพายได้เห็นแต่พอเปิดรูปก็ถูกใครบางคนชนจนเธอ เกือบล้มและเผลอปล่อยให้โทรศัพท์มือถือของเธอตกพื้นไปจนแตกกระจายทำเอาตัวเธอและธัญญ่ามองหน้ากันในทันทีและกำลังจะต่อว่าคนที่เดินชนคนนั้นด้วย และคนที่โดนชนธัญญ่าก็คือน้องสาวของเธอเอง
"แพม!"