บทนำ
บทนำ
พะพายหรือพาย หญิงสาววัย 20 ปี ที่กำลังนั่งทำงานในบาร์แห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองหลวง เธอทำงานที่นี้มาตั้งแต่เธอจบ ม.ปลายทางครอบครัวของเธอไม่ยอมให้เธอเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนคนอื่นๆแต่เธอไม่เคบปริปากบ่นเรื่องนี้ให้ใครฟัง เพราะเธอไม่ต้องการให้ใครรับรู้ว่าชีวิตเธอน่าสงสารและไม่อยากให้ใครต้องมารักเธอเพราะความสงสาร เธอจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ไม่เอ่ยปากบอกใครทั้งนั้นแม้แต่เพื่อนสนิทของเธอ
ในทุกๆวันเธอมีหน้าที่ทำความสะอาดร้านก่อนเปิดร้านและหลังปิดร้านก็เป็นเธอที่ทำความสะอาดเธอทำงานมานานตั้งแต่เปิดร้ายนนี้ก็มีเธอมาทำงานที่นี้แล้วพอกลับมาคิดดูแล้วก็ผ่านมา 3 ปีแล้วที่เธอทำงานอาชีพนี้ เธอทำความสะอาดร้านเสร็จเรียบร้อยกำลังปิดประตูร้านก็มีเสียงหวานของผู้หญิงเรียนกเธอจากทางด้านหลัง
“พาย!”
เสียงเรียกดังขึ้นมาทำให้ปั้นหยารีบหันกลับไปมองคนที่เรียกชื่อเธอทันที และคนที่เรียกเธอก็คือธัญญ่าเพื่อนสมัยม.ปลายของเธอตอนม.ปลายเธอกับธัญญ่าเป็นเพื่อนสนิทกันก็ว่าได้ธัญญ่าเป็นลูกคนรวยเคยบริจาคทุนการศึกษาให้กับปั้นหยาบ่อยๆ และที่พายมีโอกาสเรียนต่อในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็เพราะทุนการศึกษาของครอบครัวธัญญ่าทำให้เธอเรียนจนจบม.ปลายได้นับว่าธัญญ่ากับครอบครัวเป็นผู้มีพระคุณเลยก็ว่าได้
“พายใช่มั้ย”
“ธัญญ่า ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ใช่ เราสองคนไม่เจอกันนานเลย เป็นยังไงบ้างแล้วมาทำอะไรที่ร้านนี้หรอ”
“เราทำงานที่นี้ทำงานได้ 3 ปีแล้ว”
“พายไม่ได้เรียนต่อหรอ ไหนว่าตอนนั้นพายจะเรียนต่อมหา’ลัย”
“เราแค่คิดว่าออกมาทำงานหาเงินดีกว่า ว่าแต่ธัญญ่าเถอะเป็นยังไงบ้าง”
“เราสบายดี เรากำลังจะแต่งงาน”
“ธัญญ่าจะแต่งงานกับใครหรอทำไมเราถึงไม่รู้ว่าธัญญ่ามีแฟนแล้ว”
“เรากับแฟนเคยเรียนด้วยกันตอนม.ต้น แต่เพราะครอบครัวของแฟนเราต้องไปต่างประเทศทำให้เราสองคนต้องห่างกัน และเราพึ่งกลับมาเจอกันเมื่อ 2 ปีก่อนนี้เอง”
“เขาคงดีกับธัญญ่ามากสินะ”
“ดีมากเลยตอนนี้เขากำลังเรียนแพทย์ที่ต่างประเทศเดือนหน้าเราก็จะบินไปอยู่กับเขาแล้ว”
“ยินดีด้วยนะที่กำลังจะแต่งงาน”
“ขอบคุณนะ งั้นเราสองคนไปทานอาหารกันเถอะเราออกมาเที่ยวคนเดียวเหงามากพายไปเที่ยวกับเรานะ”
“ได้สิ เดี๋ยวเราพาธัญญ่าไปเดินเที่ยวเอง”
“เย้ พายใจดีที่สุดเลยหากปั้นหยาไม่มีใคร เราจะแนะนำพี่ชายให้พี่ชายเรานะทั้งหล่อทั้งใจดี เวลาอยู่กับพายก็คงจะมีความสุขมากแน่ๆเลย”
“นี้อยากให้เราเป็นพี่สะใภ้เลยหรอธัญญ่า”
“ก็แน่นอนสิพายน่ารักจะตาย ถ้าเราเป็นผู้ชายเราจะแต่งงานกับพายเลยนะรู้มั้ย”
พายหัวเราะออกมาอย่างที่ไม่เคยได้หัวเราะออกมานานแล้ว นานแค่ไหนดกันนะที่เธอไม่เคยได้หัวเราะแบบนี้คงจะ 3 ปีแล้วล่ะมั้งที่เธอไม่เคยได้หัวเราะอย่างมีความสุขแบบนี้ ธัญญ่าคือผู้หญิงในโรงเรียนคนเดียวที่เข้าหาเธอและเป็นเพื่อนกับเธอ ตลอด 3 ปีที่เรียนอยู่ด้วยกันเธอค้นพบความสุขใหม่ๆที่ธัญญ่าพาเธอก้าวออกมาจากมุมมืดที่เธอยืนถ้าเปรียบสำหรับพายคือเงามืด ธัญญ่าคือแสงสว่างของทุกคนเช่นกัน
“ร้านอาหารร้านนี้น่าอร่อยมาก พายมีร้านที่ถูกแต่อร่อยมาแนะนำเราเสมอเลยจนตอนนี้ เราติดนิสัยพายมาตลอดเลยล่ะ”
“ขอแค่อร่อย ราคาพอไหวก็พอแล้ว”
“นั้นสินะ เราเคยกินที่ร้านแพงมาก แต่อาหารไม่ได้เรื่องเลยแต่พอกินร้านที่ธรรมดาแต่รสชาติคือสุดยอดอร่อยจนต้องกลับมากินอีกบ่อยๆเราชอบแบบนั้นมากกว่า”
“มาทานอาหารมื้อดึกกับเราแบบนี้พ่อกับแม่ไม่เป็นห่วงหรอ”
“ท่านทั้งสองปล่อยอิสระกับเรามากกว่าแต่ก่อนเยอะเลย ตอนนี้เราอยากทำอะไรก็ได้ทำตามใจตัวเองมากขึ้นเพราะเรากำลังจะแต่งงานคุณพ่อกับคุณแม่เลยตามใจ”
เธอกับธัญญ่าทานอาหารกันคุยกันไปจนถึงเที่ยงคือพายจึงพาธัญญ่ามาส่งที่รถที่มีคนขับที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างลุงสมจิต ที่ขับรถมารับมาส่งธิดากับพายบ่อยๆ ไม่เจอกัน 3 ปี ลุงสมผมขาวมากขึ้นไปอีกแล้วพายซื้อขนมที่เคยซื้อให้กับลุงสมตั้งแต่ม.ปลายมาฝากทำให้ลุงสมน้ำตาใหลเพราะคิดถึงเธอมากลุงสมรักเธอเหมือนเธอเป็นลูกสาวของลุงอีกคนคุยกันอยู่นาน เธอจึงบอกให้ลุงสมพาธัญญ่ากลับบ้านได้แล้วเพราะกลัวว่าถ้าดึกกว่านี้อาจจะเกิดอันตรายได้ หลังจากส่งเพื่อนสนิทกลับบ้านไปธอเองก็ถึงเวลากลับบ้านเช่นกัน
กว่าจะถึงบ้านก็เกือบตี 2 แล้วไม่น่าเชื่อว่าคนที่บ้านของเธอจะยังไม่นอนกันอีก เมื่อได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับมาจอดที่หน้าบ้าน บรรดาพ่อแม่และน้องสาวต่างออกมากันหมดบ้าน บ้านของเธอมี 2 ชั้นเป็นบ้านที่เธอเก็บเงินอยู่ 2 ปีกว่าจะหาเงินมาซื้อบ้านหลังนี้ได้แต่พอย้ายบ้านเข้ามาอยู่ทุกคนต่างมีห้องเป็นของตัวเองทั้งหมดส่วนเธอปูเสื่อนอนที่ห้องรับแขกตั้งแต่ซื้อบ้านได้ปีกว่าแล้ว
“อีพายมึงทำอะไรอยู่ถึงกลับช้าแบบนี้รู้มั้นพวกกูหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว!”
เสียงของผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นมาเสียงดังจนคนข้างบ้านเปิดไฟกันลุกขึ้นมาฟังครอบครัวของเธอด่ากันอีกแล้ว
“แม่ พายให้เงินแม่ซื้อของไว้กินแล้วไม่ใช่หรออีกอย่างของในตู้เย็นก็มีพายซื้อของเต็มตู้แล้วนะ”
“มึงยังจะเถียงกูอีกอีเด็กเวร มึงให้เงินกูแค่สองพันมึงคิดว่ากูจะซื้ออะไรได้บ้าง แค่เดินออกจากบ้านเงินที่มึงให้ก็หมดแล้ว!”
“แม่เงินสองพันต้องใช้ให้ได้เกินอาทิตย์นะแม่เงินไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆช่วงนี้ยิ่งคนเข้าร้านที่พายทำยิ่งน้อยอยู่ด้วย แม่ถือว่าพายขอร้องเถอะนะช่วยพายประหยัดสักหน่อยเถอะนะ”
“ประหยัดอะไรของมึงอีพาย กูเลี้ยงมึงมาเพราะมึงต้องเลี้ยงกูตอนแก่นี้อะไรมึงจะให้กูประหยัดเงินที่ทำมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่ากูเลี้ยงมึงเสียข้าวสุกหรอกหรอ!”
“แม่ฟังพายก่อน เงินที่พายให้แม่เพราะแม่จะได้มีเงินไว้ใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นปิ่นเองก็กำลังจะเรียนมหา’ลัยไม่ใช่หรอ พายเก็บเงินเพื่อให้น้องได้เรียนสูงๆตามที่แม่อยากได้ไม่ใช่หรอ ถือว่าเห็นแก่อนาคตของแพมเถอะนะแม่”
“มึงเป็นเด็กที่ไม่ได้เรื่องกูไม่น่าเลี้ยงมึงมาเลยน่าจะปล่อยให้มึงตายๆไปซะ”
“แม่ทำไมแม่ชอบพูดทำร้ายจิตใจพายเหมือนว่าพายไม่ใช่ลูกแม่เลยล่ะ พายก็ลูกแม่นะทำไมแม่ถึงต้องพูดแบบนี้”
“กูจะพูดแบบนี้แล้วจะทำไม มึงจะทำอะไรกูอีพาย!”
“อาหารนี้พายซื้อมาให้พ่อกับแม่ก็กินเถอะจะได้พักผ่อน พ่อพรุ่งนี้อย่าลืมไปหาหมอนะถึงเวลานัดแล้ว”
“พรุ่งนี้ แพมจะพาพ่อไปหาหมอเองพายไปทำงานเถอะ”
“ค่ะ งั้นพายจะเอาอาหารไปอุ่นให้นะคะ พ่อกินแล้วก็กินยาแล้วเข้าไปนอนพักนะคะ”
“อืม พายคือพ่อ...”
“พ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“แกก็บอกมันไปสิ ว่าค่าหมอมันยังไม่ให้แก”
“เรื่องเงินไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พรุ่งนี้พายจะไปเอาเงินมาให้”
“อืม พายไปพักเถอะอาหารพวกนี้พ่อจะเอาไปอุ่นเอง”
“ก็ได้ค่ะ”
ในช่วงเช้าของทุกๆวันตั้งแต่ 04.00 – 05.00 น.พายมีหน้าที่ไปทำงานในตลาดคือการส่งผักผลไม้ตามแผงที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างๆสั่ง กว่าจะทำเสร็จก็เริ่มเช้าแล้ว เมื่อทำงานตรงนี้เสร็จยังมีงานอีกอย่างที่ปั้นหยาต้องทำคือเป็นแม่บ้านทำความสะอาดหอพักเริ่มทำงาน 08.00 – 15.00 น. คือเวลาทำงานและเลิกงาน พายจะมีเวลาพักจนกว่าจะถึง 2 ทุ่มก็หลายชั่วโมง ก่อนที่พายจะไปทำความสะอาดบาร์ก่อนจะเปิดทำการจนถึง 5 ทุ่มและปิดร้านไม่เกิดเที่ยงคืนพายทำงานอยู่สามที่เดือนนึง พายก็มีเงินเยอะพอสมควรแต่ที่ไม่กล้าบอกว่าทำงานอะไรบ้างกับครอบครัวเพราะพายกลัวว่ายิ่งพ่อกับแม่หรือน้องสาวรู้จะใช้เงินฟุมเฟือยกว่านี้ ขนาดคิดว่าพายทำงานที่บาร์อย่างเดียวพวกเขาใช้เงินเยอะ จนพายที่หาเงินเข้ามาอย่างเดียวแต่ไม่มีโอกาสได้ใช้จ่ายมากนักก็ต้องปวดหัวกับเรื่องนี้
“พาย”
“พี่พัตเตอร์ มีอะไรคะ”
“ปั้นพี่กำลังจะแต่งงาน”
“ช่วงนี้เขากำลังฮิตแต่งงานกันหรอคะ ถึงได้ชอบแต่งงานกันในช่วงนี้”
“พี่พูดจริงๆ พี่กำลังจะแต่งงานกับนิคคนที่เป็นลูกค้าประจำของเราเขาอยากสร้างครอบครัวกับพี่ แต่พี่ก็ห่วงร้านนี้อีกอย่างพี่ห่วงพายด้วยพี่เลย...”
“พูดมาเถอะค่ะ พายรับได้หมดทุกอย่าง”
“พี่จะมอบร้านนี้ให้กับพายให้ปั้นดูแลร้านต่อจากพี่เงินเดือนที่จะต้องจ่ายอยู่ในบัญชีร้านแล้วที่จะให้พายไปเปลี่ยนเป็นชื่อของพายแทน พี่ขอแค่พายดูแลร้านต่อแค่นี้ก็พอเรื่องทุกอย่างพี่จัดการให้หมดแล้ว”
“พี่พัตเตอร์ พายขอบคุณพี่พัตเตอร์ มากนะคะที่ไว้ใจพายมากขนาดนี้”
“นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่พี่ควรทำมาตลอด พี่ฝากร้านด้วยนะ”
“พายจะดูแลร้านนี้ให้ดีที่สุดค่ะ”
พายไม่เคยรู้เลยว่านั้นคือคำพูดสุดท้ายที่พัตเตอร์กับพายจะได้คุยกัน พัตเตอร์คือรุ่นพี่ที่แสนดีของเธอเขาเป็นเกย์ที่สุภาพและอ่อนโยนเพราะพัตเตอร์ พายถึงมีโอกาสได้ทำงานในร้านนี้หลังจากที่ทำการโอนชื่อเจ้าของเราเป็นพายและทำธุระเสร็จทุกอย่างก่อนวันที่พัตเตอร์ จะเดินทางไปหานิคแฟนหนุ่มชาวต่างชาติคนนั้น พัตเตอร์ ถูกโจรปล้นบ้านและถูกฆ่าตายในบ้านพักและตำรวจรวบตัวคนร้ายได้ในเวลาต่อมาโจรสารภาพว่าเห็นพัตเตอร์อยู่ที่บ้านคนเดียวมาตลอดและวางแผนนานมากแล้ว จึงทำการปล้นบ้านของพัตเตอร์ในคืนนั้นทันที แต่เพราะพัตเตอร์ขัดขืนพวกเขาจึงใช้มีดแทงพัตเตอร์จนเสียชีวิต พายที่กำลังนั่งทำงานที่บาร์เคลียร์บัญชีอยู่นั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ ต้องการพูดการกับใครคะ”
“ขอสายคุณพะพายค่ะ”
“สวัสดีค่ะ พายพูดสายอยู่ค่ะ”
“ดิฉันเป็นพยาบาลนะคะ ตอนนี้คุณวรวีอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะกำลังติดต่อญาติให้มารับคุณวรวีแต่จากการดูประวัติผู้เสียชีวิตไม่มีญาติที่ไหรนเลยค่ะ”
“คุณวรวี คือเขาเป็นอะไรนะคะคุณพยาบาล”
“คุณวรวีเขาเสียชีวิตเมื่อคืนค่ะ ยังไงคุณปั้นหยาก็มาที่โรงพยาบาลก่อนนะคะ”
“ได้ค่ะฉันจะรีบไป”
แต่เมื่อจะเดินไปร่างกายกลับอ่อนแรงขึ้นมาทันทีเธอไม่มีแรงแม้จะเดินหรือวิ่งได้ในตอนนี้จนทำให้คนในร้านวิ่งมาดูเธอในทันที พายอยากที่จะไปหาพี่พัตเตอร์ของเธอจนใจจะขาดแต่เอกลับไม่มีแรงจะเดินต่อไปด้วยซ้ำ พี่พัตเตอร์ที่แสนนี้ของเธอคนที่เธอรักเปรียบดั่งพี่ชายที่แสนดีเป็นครอบครัวที่จริงใจสำหรับเธอต่ทำไมคนที่ดีแบบนี้ถึงต้อมาตายแบบนี้
“พะ พี่ พัตเตอร์ อึก พี่พัตเตอร์! ฮืออออ พี่พัตเตอร์!!”
เสียงของเธอดังออกมาจนสุดเสียงด้วยความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่เธอเคารพรักมากที่สุด เมื่อมาถึงโรงพยาบาลที่พี่นุพี่ชายที่แสนดีนอนอยู่ที่นี้ร่างที่ไร้ชีวิตที่แต่ก่อนส่งยิ้มให้กับเธอ ปลอบใจเธอเวลาแม่ลงมือทำร้ายทุบตีเธอสองมือที่พี่พัตเตอร์เคยทำแผลให้ สองมือที่ทำอาหารให้เธอทานทุกวันที่เธอมาทำงานตอนนี้กลายเป็นสีขาดซีดไปแล้วมือที่เคยอบอุ่นตอนนี้เย็นจนหน้าใจหายน้ำตาที่เคยหยุดใหลไปแล้วกลับใหลออกมาอีกครั้งแต่ไม่มีเสียงกรีดร้องใดๆอีกมีเพียงหยดน้ำตาที่ใหลออกมาจนเธอเริ่มหายใจไม่ออกเสียงสั่นเครือของเธอดังลอดผ่านออกจากปากของเธอเบาๆพร้อมทั้งเสียงสะอื้นของเธอคลอไปด้วย
“พี่พัตเตอร์ พายรักพี่นะพี่คือพี่ชายที่แสนดีของพายหากเรามีวาสนากันพี่พัตเตอร์มาเกิดเป็นลูกพายนะคะ พายจะได้ดูแลพี่เหมือนที่พี่ดูแลพาย พายอึก พาย ฮือออ พายรักพี่นะ ฮืออออๆ”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเมื่อเธอกล่าวกับพี่พัตเตอร์ของเธอแบบนั้นเสร็จความกดดันหลายๆอย่างของเธอก็ดับวูบไปเป็นครั้งที่สองที่เธอสลบไปต่อหน้าพี่ชายที่ชื่อพัตเตอร์ คนนี้ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อสามปีก่อนเพราะเธอหางานทำจนเธอเป็นลมหน้าร้านของพัตเตอร์ นั้นทำให้เธอได้เจอพี่ชายคนนี้และนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเป็นลมสลบต่อหน้าเขาและครั้งนี้คือการจากลา
พิธีฌาปนกิจศพของพัตเตอร์ ถูกจัดขึ้นหลังจากพาร่างของพัตเตอร์กลับบ้านเกิดที่มีเพียงยายที่เลี้ยงดูพัตเตอร์มาตั้งแต่เด็กพ่อแม่ของพัตเตอร์ต่างเสียชีวิตไปหมดก่อนหน้านี้พัตเตอร์เพียงมีเวลาส่งเงินให้กับยายเท่านั้น แต่ไม่มีเวลามาเยี่ยมยายที่รักของเขาเลยตอนนี้เขาได้มีโอกาสนั้นแล้ว
“พัตเตอร์ของยาย...อึก...”
“พี่พัตเตอร์ พายพาพี่กลับมาบ้านแล้วนะ”
“พัตเตอร์ ฮืออออ เด็กดีของยาย...”
“ยายคะหนูเป็นรุ่นน้องของพี่พัตเตอร์ ยายไปอยู่บ้านที่พี่พัตเตอร์ซื้อไว้ให้ก่อนที่พี่พัตเตอร์จะจากไปนะคะ”
“เขาน่าสงสารเหลือเกิน...ยายสงสารเขาพัตเตอร์ของยาย...ฮือออๆ”
เพียงเท่านั้นเองที่ทำให้พายร้องไหนหนักกว่าเดิมเธอเริ่มทำใจได้แล้วส่วนนึงแต่เมื่อมาเจอยายของพี่พัตเตอร์ เธอถึงกลับร้องไห้ตามขึ้นมาอีกครั้งจนได้ งานฌาปนกิจศพของพัตเตอร์ มีคนในหมู่บ้านมาร่วมงานเยอะมากมายเพราะทุกคนในนั้นเอ็นดูพัตเตอร์ มากเพราะเขาเป็นเด็กดีมาตลอดเพื่อนในกรุงเทพที่พัตเตอร์ทำงานเป็นเจ้าของบาร์ก็มีลูกน้องในนั้นมาร่วมงานด้วย นิคที่รู้ข่าวการจากไปของพัตเตอร์ เขารีบบินกลับมาที่ไทยอย่างกระทันหันและหลังจากจบงานฌาปนกิจศพของพัตเตอร์ไป ยายของพัตเตอร์ก็ถูกหลานเขยพาไปที่ต่างประเทศด้วยพร้อมอัฐิของพัตเตอร์ที่นิคพาไปด้วยพร้อมกับยาย
“พายมีคนมาขอพบ”
“ให้เขาเข้ามาเลย”
เธอกลับมาทำงานในบาร์อีกครั้งหลังจากที่เสร็จสิ้นงานฌาปนกิจศพของนุไปเมื่อ 3 วันก่อน คนที่เข้ามาใหม่นั้นเป็นผู้ชายภูมิฐานคนหนึ่ง ถือเอกสารบ้างอย่างเข้ามาในร้าน
“มาติดต่อเรื่องอะไรคะ”
“ผมเป็นทนายของคุณวรวีครับ”
“สวัสดีค่ะคุณทนาย”
“สวัสดีครับ ตอนนี้ที่ผมมาเพื่อที่จะมอบพินัยกรรมให้กับผู้รับมรดกของคุณวรวี”
“ผู้รับมรดกงั้นหรอคะ”
“ใช่ครับตอนนี้คุณพาย คือผู้ได้รับมาดกจากคุณวรวีหลังจากคุณวรวีเสียชีวิตจากกรณีใดก็ตามครับ ทรัพสินที่เป็นของคุณวรวีมีทั้งหมด 5 รายการ”
“ทำไมพี่พัตเตอร์ถึงมอบมรดกให้กับฉันคะ”
“เพราะในพินัยกรรมกำหนดชื่อของคุณเป็นผู้รับครับพินัยกรรมฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนตอนนั้นคุณวรวีมีสติครบท้วนและมีพยานในตอนนั้นถึง 5 คนรวมตัวผมด้วยแค่คุณเซ็นชื่อตรงนี้ก็พอครับ”
“ทำไมพี่พัตเตอร์ถึงทำแบบนี้”
“นี้คือจดหมายที่คุณพัตเตอร์เขียนไว้ให้คุณครับ”