บท
ตั้งค่า

#3

“เสียนอี่ หึ่ม!” หลังจากที่มีโทสะไปเมื่อตอนเช้าแล้ว โหยวกู่โหม่วออกมาเรียกประชุมชาวบ้านที่เช่าที่ดิน เพื่อบอกเรื่องการขึ้นค่าเช่า ทว่าชาวบ้านเหล่านั้น กลับไม่มีใครยอมทำตาม พวกเขายึดตามสัญญาเช่าที่ทำไว้กับเสียนอี่ มิหนำซ้ำ สัญญาเช่าเหล่านี้ ยังมีฉบับคัดลอกอยู่ที่อำเภอ โหยวกู่โหม่วคิดจะมาขึ้นค่าเช่า เพื่อเอาเปรียบผู้เช่า ย่อมไม่มีทางทำได้

เมื่อไม่เป็นดั่งใจ โหยวกู่โหม่วพลันมีโทสะขึ้นมาอีกครั้ง เขาก้าวขึ้นรถม้าอย่างหัวเสีย จางเปี่ยวหลุนรีบตามขึ้นมา

“นายท่าน ใจเย็นก่อน เรื่องนี้จะทำการบุ่มบ่ามมิได้ ควรกลับไปปรึกษาใต้เท้าก่อนจะดีกว่า ข้าน้อยเชื่อว่าการแก้ข้อความในสัญญาไม่กี่ฉบับ ใต้เท้าจางต้องจัดการได้แน่ขอรับ”

โหยวกู่โหม่วฟังแล้ว นัยน์ตาลุกวาว มุมปากขยับยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ชาวบ้านอวดดีพวกนั้นสมควรต้องชดใช้ที่บังอาจไม่ไว้หน้าเขา คิดแล้วโหยวกู่โหม่วออกคำสั่งทันที “ไปอำเภอ”

ร้านขายเครื่องประดับ

“คุณหนู ปิ่นชิ้นนี้งดงามยิ่งเจ้าค่ะ”

จางม่านหรัวหยิบปิ่นที่สาวใช้บอกขึ้นมาพิศดู ปิ่นหยกสลักลายผีเสื้อนี้ ดูก็รู้ว่ามีราคา แม้นางจะเป็นถึงบุตรสาวนายอำเภอ หากแต่ฐานะมิได้ร่ำรวย คาดว่าเงินเก็บที่นางมีทั้งหมด ยังมิพอจะซื้อปิ่นด้วยซ้ำ

“แม่นางน้อย ปิ่นหยกนี่กำลังเป็นที่นิยม ลวดลายนี้ ในหยางโจวมีเพียงสามชิ้น ราคาห้าสิบตำลึงนับว่าไม่แพงเลย” ผู้ดูแลร้านอ่านสีหน้าคนเก่ง เห็นว่านางพึงใจปิ่นอันนั้นจริง จึงรีบเสนอขาย

จางหม่านหรัวไม่เพียงมีใบหน้างดงาม รูปร่างยังบอบบางอ้อนแอ้นราวกับจะคั้นน้ำได้ ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคุณหนูมีชาติตระกูล ผู้ใดจะคิดว่านางไม่มีเงิน

“เถ้าแก่ รบกวนท่านช่วยห่อปิ่นแล้วส่งไปที่จวนเถ้าแก่โหยว บอกว่าเป็นของคุณหนูจางได้หรือไม่”

ใบหน้าผู้ดูแลร้านพลันชะงักงัน ให้ส่งปิ่นไปเก็บเงินกับเจ้านายเนี่ยนะ เขายังไม่โง่ถึงเพียงนั้น “มิทราบว่าแม่นางมีความเกี่ยวข้องอันใดกับเถ้าแก่ของเราหรือ?”

ครั้นได้ยินว่าผู้ดูแลร้านเรียกโหยวกู่โหม่วว่าเถ้าแก่ ลำคอของจางหม่านหรัวพลันยืดขึ้นเล็กน้อย ยิ่งรู้เช่นนี้ นางยิ่งอยากจับโหยวกู่โหม่วไว้ให้มั่น จางหม่านหรัวเอ่ยอย่างเอียงอายกับคนดูแลร้านว่า “เรื่องนั้น ท่านเอาไว้ถามกับพี่กู่โหม่วเองเถิด”

เรื่องที่เถ้าแก่ต้องการหย่ากับฮูหยิน ผู้ดูแลร้านย่อมรู้มาบ้าง ทว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องของเจ้านาย เขาคงมิกล้าไปก้าวก่าย ส่วนสินค้าในร้านเป็นหน้าที่ของเขาต้องดูแล จะให้เขาส่งปิ่นไปให้ฮูหยินจ่ายเงินน่ะหรือ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะทำ

“ต้องขออภัย ท่านลูกค้า ข้าคงมิอาจส่งปิ่นไปเก็บเงินที่จวนของเถ้าแก่ได้ ท่านคงยังมิทราบ ว่าฮูหยินเป็นคนคุมบัญชีทั้งหมด หากส่งไปที่นั่น ไม่เพียงฮูหยินจะไม่จ่ายเงิน แต่ยังจะไล่ข้าออกด้วย หวังว่าท่านลูกค้าจะเข้าใจในความลำบากใจของข้า”

จางหม่านหรัวได้ยินเช่นนั้น แทบจะเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ไม่อยู่ นึกอยากจะไล่เจ้าคนดูแลร้านไม่รู้ความผู้นี้ออกใจจะขาด ติดตรงที่ตนยังมิได้เป็นเจ้าของ แต่อีกไม่นานหรอก คอยดูไปเถิด เมื่อใดที่นางได้แต่งกับพี่กู่โหม่ว นางจะสั่งสอนคนผู้นี้ให้จงหนักเลยทีเดียว จางหม่านหรัวมิคิดกล่าวอันใด เพียงเดินออกจากร้านไปเงียบๆ นางไม่จำเป็นต้องโวยวายให้เสียภาพพจน์ เพราะอีกไม่นานนางจะได้เป็นฮูหยินตระกูลโหยวแล้ว

ร้านค้าของสกุลโหยวมีทั้งสิ้นแปดร้าน มีร้านขายผ้า ร้านขายเครื่องประดับ ร้านขายข้าวสาร ร้านขายใบชา ส่วนอีกสี่ร้านเป็นเหลาขายอาหารและโรงเตี๊ยมที่ตั้งอยู่ตามเมืองต่างๆ รายได้ปีหนึ่งราวหมื่นตำลึง ค่าเช่าที่อีกราวปีละหมื่นตำลึง ตระกูลที่มีรายได้ขนาดนี้ต่อปีนับว่ามั่งคั่งระดับหนึ่ง ทว่าในสังคมภายนอกกลับรู้จักเพียงเถ้าแก่โหยว น้อยคนนักที่จะเคยเห็นหน้าโหยวฮูหยิน

เสียนอี่อยู่บ้านมีงานล้นมือ ไหนจะต้องดูแลพ่อสามี ไหนจะต้องทำบัญชี ยังต้องคิดขยายเส้นทางทำกิน จะเอาเวลาที่ไหนออกไปร่วมงานสังสรรค์ นานวันเข้า โหยวกู่โหม่วกลับคิดว่านางไม่คู่ควรที่จะเป็นฮูหยิน เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่โหยวกู่โหม่วต้องการหย่า

ตกเย็นหลังไปพบนายอำเภอ โหยว่กู่โหม่วกลับจวนมาพร้อมกับโทสะ เขาปรี่เข้ามาในเรือนหงฮู่ กวาดกองบัญชีบนโต๊ะหล่นกระจัดกระจาย

“เสียนอี่ เจ้าอยากตายนักใช่หรือไม่!”

“นายท่านใจเย็นก่อนขอรับ” จางเปี่ยวหลุนไหนเลยจะยอมปล่อยให้เจ้านายเข้าไปตบตีภรรยาได้ มิเช่นนั้นแผนที่วางไว้ทั้งหมดคงได้สูญเปล่า เขารีบยื้อยุดฉุดร่างของกู่โหม่วเอาไว้ มิให้เข้ามาตบตีเสียนอี่

ส่วนเสียนอี่ยังคงนั่งอย่างใจเย็นอยู่หลังโต๊ะทำงาน มองสามีเกรี้ยวกราดด้วยสายตาว่างเปล่า ตั้งแต่เมื่อใดกันที่บุรุษอ่อนโยนอย่างกู่โหม่วกลายเป็นคนอารมณ์ร้ายเช่นนี้ คงตั้งแต่ที่ทะเลาะกันเรื่องหย่ากระมัง เสียนอี่เจ็บปวดใจจนด้านชาไปหมดแล้ว นางไม่อยากร่ำไห้ให้กับชายผู้นี้อีก

“เจ้า หึ่ม! ฝากไว้ก่อนเถอะ!” สุดท้ายโหยวกู่โหม่วก็ไม่กล้าลงมือ ได้แต่เตะเก้าอี้ล้มระเนระนาด ก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไป

เรื่องของเรื่องก็คือท่านนายอำเภอมิอาจหาทางแก้ข้อความในสัญญาเช่าได้ เพราะสัญญามีถึงสามฉบับ หากจะแก้ต้องแก้ทั้งหมด เรื่องสัญญาเช่า เสียนอี่ทำไว้อย่างรอบคอบ เพื่อมิให้เกิดปัญหาภายหลัง ราวกับรู้ล่วงหน้าว่าจะมีวันนี้ สัญญาแต่ละฉบับทำไว้ถึงสิบปี หากโหยวกู่โหม่วอยากจะขึ้นค่าเช่า ต้องรอให้หมดสัญญาเสียก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel