#2
หลังจากที่ร้องไห้จนพอใจ แววตาของเสียนอี่กลับมานิ่งสงบดังเดิม นางหันไปสั่งมู่หยุน ก่อนจะก้าวออกจากห้อง เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ความอยากอาหารของนางหายไปจนสิ้น
ตั้งแต่เริ่มร่ำรวยมีเงินทอง เสียนอี่เคยจ้างคนรับใช้มาดูแลพ่อสามี แต่กู่เลี่ยวไม่ยินยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ เรื่องนี้เสียนอี่พอจะเข้าใจได้ คนที่เคยถูกจับไปเป็นเชลย ผ่านการถูกทรมานมาอย่างหนัก ไหนเลยจะไว้ใจผู้อื่นได้ง่ายๆ นอกจากนางแล้ว แม้แต่สาวใช้คนอื่น เขาก็ไม่ยอมให้มีในเรือน เป็นนางที่คอยดูแลเขามาโดยตลอด เสียนอี่จึงเคยชินกับการทานอาหารเช้าให้เร็วหน่อย เพื่อจะได้มาดูแลเขา
เรือนหงฮู่
เพียงเปิดประตูเข้ามา เสียนอี่พลันได้กลิ่นที่คุ้นชิน มิใช่กลิ่นปัสสาวะอุจจาระแล้วจะเป็นสิ่งใด พ่อสามีของนางพิการ ไปไหนมาไหนมิได้ จึงได้แต่ขับถ่ายใส่กระโถน
กู่เลี่ยวเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี เสียนอี่รู้ดี นางวางกระโถนไว้ให้เขาที่ปลายเตียง สี่ปีที่ผ่านมา ยามที่นางเข้ามาในห้องคราใด จะได้กลิ่นเช่นนี้เสมอ จนตอนนี้นางชินเสียแล้ว โดยมาก นางมักจะยิ้มทักทายเขา หากแต่วันนี้ นางกลับไม่กล้ามองหน้าด้วยซ้ำ เพราะเรื่องเมื่อวานทำให้นางรู้สึกกระดากอาย
หลังจากวางสำรับอาหารลงบนโต๊ะ เสียนอี่เดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อระบายกลิ่น จากนั้นเดินเข้าไปหยิบกระโถนปลายเตียงออกไปเททิ้ง ทำความสะอาดอย่างดีแล้ว ถึงค่อยกลับเข้ามาวางไว้ที่เดิม
ก่อนจะลากเก้าอี้มาข้างเตียง ค่อยๆ ยกตัวเขาลงมานั่ง นางเป็นคนทำงานหนักมาตั้งแต่เล็ก เรี่ยวแรงย่อมมีมากกว่าสตรีทั่วไป ถึงพ่อสามีจะสูงหกเซี๊ยก็ไม่ได้หนักหนา
นางต้องเปลี่ยนผ้าปูใหม่ให้เขาทุกวัน เสร็จแล้วถึงได้หันกลับมาจับเข้าเปลื้องผ้า ออกไปเอาอ่างใส่น้ำอุ่นมาจากมู่หยุน เข้ามาเช็ดตัวให้เขา ก่อนหน้านี้ยากจน เพียงเช็ดตัวอย่างเดียว แต่หลังจากร่ำรวย นางเริ่มซื้อน้ำมันมานวดตัวให้เขาด้วย
เขาเอาแต่จ้องมองเสียจนเสียนอี่ทำอันใดไม่ถูก ยิ่งเห็นท่อนล่างที่นางนั่งทับอยู่ครึ่งค่อนวันเมื่อวาน ใบหน้ายิ่งเห่อร้อน นวดตัวให้เขาเสร็จแล้ว นางสวมเพียงแค่เสื้อให้เขาตัวเดียว จากนั้นยกตัวเขากลับขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียง ใช้ผ้าห่มคลุมท่อนล่างที่เปลือยเปล่าของเขาเอาไว้ เดินไปยกสำรับมาวางบนตักของเขา
นอกจากมองนางด้วยสายตาเรียบเฉยแล้ว เขาไม่ได้วาดมือวาดไม้พูดอันใดกับนาง ทั้งที่รู้ว่านางเจตนาไม่สวมกางเกงให้เขาด้วยเหตุใด
เสียนอี่นั่งมองเขากินข้าวอยู่ข้างเตียง พึ่งสังเกตว่าพ่อสามีของนางขนตายาวมาก ยิ่งตอนมันหลุบต่ำยิ่งชวนมอง ดั้งของเขาโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักหนา กู่เลี่ยวผู้นี้ หากไม่มีหนวดเครา คงหล่อเหลาปานเทพ พอคิดถึงเรือนร่างสมส่วนของเขาเมื่อครู่ เสียนอี่พลันหน้าแดงขึ้นมา รู้สึกเหมือนว่ายอดอกกำลังตั้งชัน นางรีบสลัดภาพนั้นออกจากหัวอย่างรวดเร็ว
รอให้เขาทานข้าว ล้างมือ บ้วนปาก จนเสร็จ เสียนอี่เดินไปหยิบตำราพิชัยสงครามมาให้เขานั่งอ่านเพื่อย่อยอาหาร ผ่านไปพักหนึ่ง ถึงได้เดินไปงับบานหน้าต่าง อันที่จริง ต่อให้ใครเข้ามาเห็นว่านางนั่งคร่อมอยู่บนตัวพ่อสามี ก็ไม่มีทางที่ใครจะคิดไปถึงเรื่องพรรค์นั้น หากไม่เห็นอวัยวะช่วงล่างที่เชื่อมกันกับตา เพราะทุกคนคิดมาโดยตลอดว่าพ่อสามีของนางท่อนล่างพิการ แม้แต่โหยวกู่โหม่วยังคิดเช่นนั้น
แต่หารู้ไม่ว่า... เสียนอี่กัดริมฝีปากตนเองเบาๆ เพื่อข่มความอับอาย จากนั้นค่อยๆ ตลบผ้าห่มที่คลุมช่วงล่างของเขาออก เห็นแล้วนางตกใจจนเกือบผงะ เพราะเวลานี้ ส่วนนั้นของเขากำลังตั้งชูชัน มันใหญ่มากจริงๆ แต่ก็สวยงามด้วย
เสียนอี่ยังคงไม่กล้ามองหน้าเขา นางปีนขึ้นเตียงมาได้ รีบถลกกระโปรงนั่งคร่อม จับส่วนหัวจ่อเข้าที่ปากทาง หากแต่เขาไม่ปล่อยให้นางจัดการโดยง่าย พ่อสามีเอื้อมมือมาประคองใบหน้าของนาง ก่อนจะโน้มลงมาจุมพิต เสียนอี่รู้ดีว่าเขาต้องการช่วยปลุกเร้าอารมณ์ จึงสนองตอบจุมพิตของเขาด้วยความเต็มใจ
ฝ่ามือข้างหนึ่งของเขาล้วงเข้าไปในสาบเสื้อ อีกข้างหนึ่งล้วงเข้าไปใต้กระโปรง ถูกเขาเล้าโลมไม่นาน ช่องทางของนางก็พร้อม ตัวตนใหญ่โตของเขาเข้ามาคับแน่นอยู่ในกาย เสียนอี่ขยับสะโพกไปพลาง กอดจูบกับเขาไปพลาง นางทำกับเขาไปอีกสามครา กระทั่งรู้สึกว่าของเหลวที่ขังอยู่เริ่มไหลทะลักออกมาตามหว่างขา ถึงได้ลุกออกจากตัวเขา
“ขอบคุณนะเจ้าคะ” เสียนอี่บอกเขาเบาๆ หลังจากช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัว สวมกางเกงเรียบร้อยแล้ว รอเขาทานมื้อกลางวันเสร็จ ถึงได้ออกไปนั่งตรวจบัญชี
เรือนหงฮู่เป็นเรือนที่นางใช้ทำงานมาแต่ไหนแต่ไร เพื่อสะดวกในการดูแลพ่อสามี จะว่าไปตั้งแต่แต่งงานมา เหมือนว่านางจะอยู่กับพ่อสามีมากกว่าสามีเสียอีก
งานของนางมีค่อนข้างมาก เพราะโหยวกู่โหม่วไม่เก่งเรื่องการคำนวณ ทั้งยังหูตาไม่กว้างไกล คิดอ่านไม่รอบคอบ เขาจึงมีหน้าที่เพียงติดต่อซื้อขายสินค้า พบปะผู้คน ออกงานสังคม ส่วนการดูแลบัญชี เขียนใบสั่งสินค้า วิเคราะห์กลุ่มลูกค้า สำรวจราคาตลาด ล้วนเป็นนางทั้งสิ้น พูดให้ถูกก็คือ นางคือผู้อยู่เบื้องหลังความร่ำรวยทั้งหมด