บทที่ 4 หายตัวไปจากโรงเรียน
วันต่อมา จิรเมธก็ไปรับครองขวัญที่โรงเรียนตามปกติ เขารอน้องอยู่ที่หน้าอาคารเรียนนานแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นน้องออกมาสักที เขาถามเด็กนักเรียนแถวนั้นแต่ทุกคนก็บอกว่าครองขวัญออกไปจากโรงเรียนแล้วนะ
สถานการณ์แบบนี้ทำให้จิรเมธปวดหัวขึ้นมาทันที เขาโทรหาบอดี้การ์ดของน้อง ก็ได้คำตอบว่า น้องเดินออกไปจากโรงเรียนแล้วจริง ๆ บอดี้การ์ดกำลังตามดูอยู่ห่าง ๆ
“งั้นเดี๋ยวผมจะตามไป คอยดูเธออยู่ห่าง ๆ แล้วกัน อย่าให้คาดสายตานะ” จิรเมธสั่ง
“ครับ” ปลายสายตอบ
นิพลเป็นบอดี้การ์ดของครองขวัญที่เดชาส่งมาคอยติดตามดูแลลูกสาวอยู่ห่าง ๆ เพื่อไม่ทำให้ลูกสาวรู้สึกกดดันหรืออึดอัดมากเกินไป นิพลจึงไม่สามารถเปิดเผยสถานะของตนเองให้คนรอบข้างของครองขวัญรู้ได้ ครองขวัญไม่อยากให้เพื่อน ๆ นักเรียนมองว่าเธอนั้นทำตัวเว่อร์จนเกินไป ที่ต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา
จิรเมธยัดโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและขับรถออกไปอย่างช้า ๆ ตามถนน ‘ของขวัญ นี่เธอรังเกียจพี่มากถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงกลับต้องหนีออกจากโรงเรียนเพื่อไม่ให้พี่มารับเธอ มันน่าอับอายมากเหรอหากคนอื่นจะรู้ว่าเธอกับพี่เป็นอะไรกัน’ จิรเมธพึมพำขณะขับรถ
จิรเมธขับรถออกมาได้ประมาณ 500 เมตรก็เห็นร่างที่คุ้นตา เธอแต่งชุดนักเรียนและสะพายกระเป๋าเป้สีชมพูฟ้า แต่ว่าเธอกำลังช่วยพยุงหญิงชราคนหนึ่งข้ามถนน ในมือถือถุงอาหารและถุงผลไม้อยู่หลายถุง เธอพูดและยิ้มกับหญิงชราคนนั้นอย่างอ่อนโยน
“บ้านคุณยายอยู่ไกลมั้ยคะ เดี๋ยวหนูจะช่วยถือถุงพวกนี้ไปส่งคุณยายที่บ้านให้ค่ะ” ครองขวัญเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะหนู เดี๋ยวยายนั่งรถสองแถวไปก็ได้แล้ว ขอบใจมากนะ” หญิงชราตอบ รู้สึกขอบคุณน้ำใจดี ๆ ของหญิงสาวไม่น้อย
“ถ้างั้นหนูพาคุณยายไปนั่งรอตรงจุดรอรถโดยสารนะคะ” ว่าแล้วก็พาหญิงชราเดินข้ามทางม้าลายไปยังจุดรอรถผู้โดยสาร
ครองขวัญมีรอยยิ้มที่อบอุ่นและดูเป็นเด็กผู้หญิงที่มีจิตใจดีมาก แตกต่างกับการที่อยู่กับจิรเมธ เธอดูเหมือนปีศาจน้อยไม่มีผิด เจอหน้าเขาทีไรต้องทำหน้าหงุดหงิดทุกที จิรเมธเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นแบบนี้
เมื่อเห็นน้องโบกมือลาหญิงชราแล้ว จิรเมธก็ลดกระจกรถลงและกดแตรไปหนึ่งครั้ง น้องก็หันหน้ามามองตามเสียง ครองขวัญหรี่ตามองคนในรถอย่างสงสัย ‘ใช่เขาหรือเปล่านะ’ เธอคิดในใจ
จิรเมธเปิดประตูลงจากรถพร้อมถอดแว่นตาดำ บุคลิกและท่าทางของเขานั้นดูเท่มาก จนสาว ๆ ที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นมองตาเป็นมัน
ครองขวัญเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นจิรเมธจริง ๆ ยัยน้องต้องการวิ่งหนีแต่งก็ถูกพี่คว้าต้นแขนเอาไว้ได้ทัน
“ปล่อยฉันนะ!” ยัยน้องพยายามแกะมือของพี่ออก “ฉันบอกให้ปล่อยไงไอ้สุนัขบ้า!” ยัยน้องโวยวาย
จิรเมธกัดริมฝีปากล่างอย่างเจ็บใจ ทำไมกันนะ? ทำไมครองขวัญถึงปฏิบัติต่อเขาแย่ ๆ แบบนี้ ในเมื่อเธอสามารถยิ้มให้คนแปลกหน้าได้ แต่สำหรับเขาแล้วทำไมถึงยิ้มให้ไม่ได้ เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเสียหน่อย เขาอยากรู้จริง ๆ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เธอเกลียดเขาได้มากถึงขนาดนี้
จิรเมธลากน้องขึ้นไปบนรถ “นั่งดี ๆ ” พูดพร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัยให้
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่อยากเห็นหน้านาย เรื่องอื่นนายก็ฉลาดดีนิ แต่ทำไมเรื่องนี้นายถึงโง่ล่ะ ฉันบอกนายไปกี่ครั้งแล้วว่าฉันเกลียดนาย ไม่อยากเห็นหน้านาย!” เธอตะคอกเสียง
“นั่นมันเรื่องของเธอ อยากเกลียดก็เกลียดไป” เขาพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ฉันจะลง ฉันไม่ไปกับนาย” เธอผลักเขาออก แล้วจะปลดเข็มขัดนิรภัย
“เอาสิ ถ้าเธอลงรถไปตอนนี้ พี่ก็จะอุ้มเธอกลับบ้าน รถนี่ก็ไม่ต้องนั่งมันก็ได้” เขาพูดพร้อมจ้องเข้าไปในแววตาเธอ
ดวงตาของน้องสั่นไหว “นาย..นายกำลังบังคับฉันอยู่นะ” เธอเสียงสั่น “ไม่งั้นฉันจะตะโกนให้คนแถวนี้ได้ยินว่านายจะลักพาตัวฉัน ฉันยังเป็นเด็กนักเรียน ฉันพึ่งจะอายุ 18 ปีได้ไม่กี่วัน ฉันจะตะโกนให้คนแถวนี้รุมประชาทัณฑ์-” เสียงยัยน้องอู้อี้ขึ้นมาทันที
ครองขวัญยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งดังขึ้น จนจิรเมธต้องเอามือปิดปากเธอไว้
“ของขวัญ! เธอเกลียดอะไรพี่นักหนา” เขากดเสียงต่ำ “พี่เคยทำอะไรไม่ดีกับเธอเหรอ? พี่ทำร้ายเธอเหรอ? ถ้าหากว่าพี่ทำอะไรที่ผิดกับเธอ เธอก็บอกพี่มาตรง ๆ แต่ถ้าหากว่าไม่ ก็อย่าทำตัวไร้สาระมากจนเกินไป”
จิรเมธต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมน้องถึงโกรธเกลียดเขาได้มากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองคนไม่เคยมีเรื่องอะไรกัน ไม่เคยทะเลาะกัน เขาไปเรียนต่างประเทศ 5 ปี กลับมาเจอกันอีกครั้งก็เป็นแบบนี้แล้ว ทุกครั้งที่เธอเห็นเขาก็จะรู้สึกหงุดหงิดใส่เขาทุกครั้ง
หากเขาทำผิดกับเธอหรือทำอะไรให้เธอไม่พอใจ เขาก็อยากจะรู้เหตุผลว่าทำไม เพราะเขาจะได้แก้ไขหรือปรับปรุงตัวเอง เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เขาอยากให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และทำให้ใยน้องมีความสุขไปชั่วชีวิตด้วย
ครองขวัญอึ้งกับคำถามของคนเป็นพี่ “ฉัน..ฉันอยากกลับบ้านแล้ว” ยัยน้องน้ำเสียงสั่นจนพูดกระตุกกระตัก
แม้ว่าอยากจะรู้คำตอบมากแค่ไหน แต่จิรเมธก็ไม่ชอบเซ้าซี้ เขากลับไปฝั่งที่นั่งคนขับ หันมามองน้องอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะขับรถออกไปโดยไม่ได้คำตอบ
ครองขวัญมีคำพูดมากมายที่อยากจะพูด เธอเกลียดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในใจมากกว่าที่เกลียดเขาอีก ครองขวัญบีบกำมือแน่นบนหน้าตักของเธอ ดวงตาแดงมีน้ำใส ๆ เอ่อคลอ จนจิรเมธสังเกตเห็นและรู้สึกปวดใจ เพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้น้องเกลียดเขามากถึงเพียงนี้?