บทที่ 3 ทำตามหน้าที่หรือทำตามหัวใจ
วันต่อมา หลังจากที่ครองขวัญเรียนเสร็จแล้วเธอก็เดินลงบันได ระหว่างทางเดินเธอก็เห็นนักเรียนผู้หญิงหลายคนจับกลุ่มพูดคุยและหัวเราะคิกคักกันตลอดทาง ครองขวัญไม่สนใจแล้วเดินยักไหล่ไปหน้าอาคาร ซึ่งเธอจะไปรออยู่ตรงนั้นให้คนขับรถที่บ้านมารับอยู่เป็นประจำ
เมื่อเดินมาถึงหน้าอาคาร ครองขวัญก็รู้สึกรำคาญกลุ่มนักเรียนหญิงที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเหมือนเจอดาราหรือซุปเปอร์สตาร์อย่างนั้นแหละ แถมยังยืนขวางทางเธออีก ครองขวัญจึงถอนหายใจแล้วเดินเลี่ยงไปทางอื่น
“ของขวัญ!”
ครองขวัญเงยหน้าขึ้นและก็หันหลังกลับไปตามเสียง พบว่าจิรเมธยืนเอนหลังพิงรถของเขาเหมือนกับดาราไอดอลไม่มีผิด ครองขวัญขมวดคิ้วแล้วเดินเข้าไปหาเขาอย่างไม่พอใจ
จำเป็นต้องมาโชว์ความหล่อในสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอ จะมาเช็คเรทติ้งหรือยังไงกัน ครองขวัญคิดในใจ รู้สึกรำคาญอย่างบอกไม่ถูก
“นายมาทำไมที่นี่” ครองขวัญถามด้วยเสียงต่ำเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน
จากนั้นก็คิดว่าจิรเมธเหมือนกองขี้ไม่มีผิด ที่ทำให้เด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียนนี้รุมตอมเขาเหมือนแมลงวันตอมกลิ่นเหม็น ครองขวัญสาปแช่งเขาภายในใจ ผู้ชายคนนี้ต้องการเปิดตัวหรือยังไงกัน? อยากทำให้เธออับอายเหรอ?
“พี่ก็มารับเธอไง” จิรเมธพูดอย่างเรียบง่าย
“พี่อะไร? ใครเป็นน้องของนายไม่ทราบ ฉันไม่มีพี่” เธอพูดอย่างไม่พอใจ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวและไม่มีพี่ชายด้วย
“เข้าไป” เขาพูดแบบไม่สนใจ จากนั้นก็คว้ามือของครองขวัญแล้วลากเธอเข้าไปนั่งในเบาะผู้โดยสาร
“ฉันไม่ไปกับนาย ฉันจะให้คนขับรถของคุณพ่อมารับ” ครองขวัญโวยวายด้วยความโกรธ ผู้ชายคนนี้กล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับเธอ?
“หยุดโวยวายแล้วก็นั่งนิ่ง ๆ ไม่งั้นก็เดินกลับบ้านเอง” จิรเมธสั่งแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ
จิรเมธขึ้นรถแล้วขับรถออกไป ครองขวัญนั่งกอดอกแล้วหันไปมองเขาก่อนจะเริ่มโวยวายต่อ “นายมารับฉันทำไม? อย่าบอกนะว่ามันคือหน้าที่ อ้อ.. คงทำตามคำสั่งของคุณพ่ออีกล่ะสินะ นายชอบทำตามคำสั่งของคุณพ่อมากขนาดนั้นเลยเหรอ ชอบมากนักเหรอกับการคอยเป็นหมารับใช้เนี่ย”
ครองขวัญโกรธมาก เธอไม่ชอบชีวิตของเธอที่เป็นแบบนี้เลย เธอแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว แต่จิรเมธกลับไม่สนใจคำพูดของครองขวัญ เขาตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป ปล่อยให้คำพูดของเธอเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไป
ครองขวัญก็ขี้เกียจจะพูดกับเขาแล้ว เธอนั่งกอดอกแล้วมองไปนอกหน้าต่าง หากยังมองหน้าเขาต่อไปความโกรธของเธอก็จะยิ่งสูงขึ้น
เมื่อมาส่งครองขวัญถึงบ้าน จิรเมธก็ใช้น้ำเสียงปกติในการพูดกับเธอ “พรุ่งนี้พี่จะมารับ และวันต่อ ๆ ไปด้วย”
“ไม่ต้อง! ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย ฉันมีคนขับรถรับส่งอยู่แล้ว” ครองขวัญเอ่ยแล้วเปิดประตูรถลงไป
“แต่เธอต้องเริ่มปรับตัวได้แล้ว เพราะเรากำลังจะหมั้นกัน แม้ว่าเธอจะรังเกียจพี่มากแค่ไหน แต่ถึงยังไงเราก็ต้องหมั้นกันอยู่ดี” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่อยากพูดใส่อารมณ์กับคนแบบนี้
“แต่ฉันเกลียดนาย ฉันไม่อยากหมั้นกับนาย” เธอพูดอย่างโมโห ดวงตามีน้ำใส ๆ เอ่อคลออยู่
“พี่ก็ไม่ได้อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเด็กก้าวร้าวแบบเธอเหมือนกัน อย่าเอาแต่ใจให้มาก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ครองขวัญอ้าปากค้าง น้ำใส ๆ ที่เอ่อคลออยู่ในดวงตาก็ไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่ได้ เธอรีบวิ่งเข้าไปในบ้านและไม่หันมามองเขาอีกเลย การหมั้นครั้งนี้เขาก็คงทำตามคำสั่งของพ่อเธอจริง ๆ สินะ เธอยังแอบคิดว่าเขาอาจจะมีใจแอบชอบเธออยู่บ้าง แต่ไม่เลย เขาไม่ได้ชอบเธอ
จิรเมธยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง มองตามหลังครองขวัญที่วิ่งเข้าไปภายในบ้านอย่างหนักใจ ทำไมเธอถึงเกลียดเขามากขนาดนั้น?
เห็นได้ชัด ว่าครองขวัญนั้นเกลียดเขามากแค่ไหน เด็กสาวคนนี้ไม่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกับเขา แม้แต่การเคารพนับถือกันแบบพี่น้องยังไม่ได้เลย นี่เป็นเรื่องที่ยากที่สุดที่จิรเมธต้องเตรียมตัวรับมือ
ครองขวัญนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง คำพูดของจิรเมธที่บอกว่า ‘พี่ก็ไม่ได้อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเด็กก้าวร้าวแบบเธอเหมือนกัน’ มันทำให้หญิงสาวเสียใจ
'ใครอยากให้นายมาใช้ชีวิตร่วมกับฉันล่ะ'
'คนอย่างฉันต้องอยากให้นายมาเป็นคู่ชีวิตด้วยงั้นเหรอ? มีผู้ชายตั้งมากมายที่อยากจะแต่งงานกับคุณหนูอย่างฉัน' พูดไปก็ร้องไห้ไป
'ไอ้บ้า! ไอ้คนสารเลว! ฉันเกลียดนาย! นายเมฆ! นายรู้ไหมว่าฉันเกลียดนาย!'
ครองขวัญร้องไห้และโวยวายอยู่ภายในห้อง เธอขว้างปาหมอนและผ้าห่มจนเกลื่อนพื้นห้องไปหมด