บทที่ 2 ระบายอารมณ์
“กรี๊ดดดดดดดด!!!!” ครองขวัญส่งเสียงกรีดร้องอย่างอึดอัดใจกับกลุ่มเพื่อน “ฉันเกลียดเขา ทำไมคุณพ่อของฉันถึงต้องให้ฉันหมั้นกับเขาด้วย” เธอระบายความโกรธกับกลุ่มเพื่อนสาว ซึ่งก็มีดาริน น้ำค้าง ไข่มุกและน้ำหอม
แม้ว่าพ่อของครองขวัญจะเอาใจและตามใจเธอมากแค่ไหน แต่มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่พ่อเธอไม่ยอมอ่อนข้อให้ ครองขวัญเกลียดจิรเมธมาก ทำไมพ่อของเธอถึงต้องยกเธอให้หมั้นหมายกับผู้ชายที่ชื่อจิรเมธ อัศวจินดาด้วย เธอเกลียดเขามาก ทุกครั้งที่ได้เจอหรือได้ยินชื่อของเขา เธอก็ยิ่งเกลียดเขามากขึ้นไปอีก
เพื่อน ๆ ทั้ง 4 คนถอนหายใจกันอย่างพร้อมเพรียง ทุกคนรู้ว่าครองขวัญนั้นเอาแต่ใจมากแค่ไหน ทุกคนได้แต่นั่งฟังครองขวัญระบายความอัดอั้นตันใจและร้องไห้ให้เสร็จก่อนแล้วจึงจะพูด
“ใจเย็น ๆ นะของขวัญ ที่พ่อของเธอทำแบบนี้ ท่านต้องมีเหตุผลแน่นอน” เมื่อเห็นว่าครองขวัญเริ่มหยุดร้องแล้ว ดารินก็เป็นคนเริ่มพูดก่อน แต่กลับทำให้ครองขวัญยิ่งร้องไห้หนักขึ้นอีก “งั้นถ้าแกร้องไห้เสร็จแล้วก็บอกพวกฉันแล้วกัน” ดารินบอกอย่างไม่แยแสเพื่อน
ครองขวัญดึงทิชชูมาเช็ดน้ำตาแล้วทำหน้ามุ่ย “ก็ฉันเสียใจและก็โมโหมากนิ ฉันไม่อยากหมั้นกับคนที่ฉันไม่ได้รักและเขาก็ไม่ได้รักฉัน” ใบหน้าของเธอมีแต่น้ำตาและความโศกเศร้า จ้องมองไปยังเพื่อน ๆ
ไข่มุกมองหน้าเพื่อน ๆ ก่อนจะถอนหายใจและตบไหล่ครองขวัญ “ของขวัญ แกต้องทำใจนะ สำหรับเรื่องนี้พวกฉันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก” ไข่มุกบอกอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้จะปลอบเพื่อนยังไงเหมือนกัน
“แล้วทำไมถึงต้องเป็นเขาล่ะ ฉันยังเด็กอยู่เลยนะ ฉันพึ่งจะอายุ 18 ปีเอง ส่วนผู้ชายคนนั้นอายุ 25 ปีแล้ว ทำไมฉันต้องหมั้นกับคนที่อายุมากขนาดนั้นด้วย ฉันยังมีโอกาสเลือกคนที่จะมาคู่ฉันอีกตั้งมากมาย” ครองขวัญพูดอย่างโมโห
“แต่พ่อของเธอประกาศเรื่องการหมั้นออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” น้ำค้างเอ่ย
ปัง!!
ครองขวัญตบโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างฉุนเฉียว จนทำให้แก้วน้ำตกแตกเพราะเธอลุกขึ้นยืนและชนโต๊ะอย่างแรง “ก็ใช่ไง!” ทุกคำพูดของเธอมีแต่ความโกรธ และการกระทำของเธอนั้นก็ทำให้เพื่อน ๆ ต่างก็สะดุ้งตกใจ
“พอได้แล้ว ครองขวัญ! แกเลิกดราม่าได้แล้ว” น้ำหอมเอ่ยอย่างโมโห แม้จะรู้ว่าเพื่อนกำลังเศร้าและต้องการระบาย แต่ในฐานะเพื่อนที่ดี เธอก็ไม่อยากให้ครองขวัญโวยวายและเสียนิสัยแบบนี้ “แกโวยวายแล้วมันได้อะไรขึ้นมา แกควรเอาเวลานี้ไปคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงต่อไป ไม่ใช่มาโวยวายแบบนี้”
ครองขวัญกัดริมฝีปากแน่นแล้วถอนหายใจ “ฉันขอโทษ” เธอบอกเพื่อน ๆ ก่อนจะนั่งลงอีกครั้งอย่างรู้สึกผิด
จริง ๆ แล้ว สิ่งที่ครองขวัญต้องการก็คือ การที่ได้แต่งงานกับคนที่เธอรักและเขาก็รักเธอ คนที่จะทะนุถนอมเธอ เคารพเธอ เอาใจใส่เธอ ดูแลเธอไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข และรักเธอในแบบที่เธอเป็นก็เท่านั้น เธอนั่งเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ ฟัง
“แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้ชอบแก บางทีเขาอาจจะชอบแกอยู่ก็ได้ ไม่งั้นก็คงไม่ตกลงหมั้นกับแกหรอก” น้ำหอมเอ่ย
“คนอย่างเขานี่นะจะชอบฉันได้จริง ๆ นอกจากจะชอบสมบัติของฉันก็เท่านั้นแหละ คนอย่างเขาจะคิดอะไรเองได้ อย่าว่าแต่การปกป้องฉันเลย ขนาดทุกวันนี้ก็ทำได้แค่ทำตามคำรับสั่งของพ่อฉันเท่านั้นแหละ เหมือนสุนัขที่คอยรับใช้เจ้านายไม่มีผิดเลย พวกแกเข้าใจมั้ย!” เธอพูดอย่างเดือดดาล
เพื่อนทั้ง 4 คนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ
“นี่! พวกแกหัวเราะอะไรกัน ฉันกำลังเครียดอยู่นะ” ครองขวัญต่อว่าเพื่อนสาว
“แกรู้มั้ย ว่าแกพูดคำว่า ‘เกลียด’ เขากี่ครั้งแล้ว” ไข่มุกพูด
“แต่ฉันเกลียดเขาจริง ๆ นิ ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าพ่อของฉันจะมองว่าเขาดียังไง เพียงเพราะว่าเขากตัญญู เขาหล่อ เขาเก่ง ทำงานได้ดีไปหมด แล้วยังไงล่ะ! แต่สำหรับฉันแล้ว เขาเป็นคนหยิ่งและไม่ได้อยู่ในสายตาของฉันเลยสักนิด อร๊ายยยย ฉันเกลียดเขามาก ฉันคิดว่าฉันจะตายก่อนจะจูบเขาซะอีก!” เธอพูดอย่างสิ้นหวัง
“นี่! พวกแกคิดว่านายจิรเมธนั่นหล่อจริง ๆ หรือเปล่า” ลินดาเอ่ย พร้อมขยับเขาไปหาเพื่อสาวอีก 3 คน
“แล้วพวกเรามีใครเคยเห็นหน้าเขาไหมล่ะ” น้ำค้างพูดแล้วมองหน้าเพื่อน ๆ
“หยิ่งและก็หล่อเหรอ….เรื่องนี้แกต้องเล่าแล้วล่ะของขวัญ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ว่าที่คู่หมั้นของแกจะหล่อแค่ไหน” น้ำหอมเอ่ย และสาว ๆ ทั้ง 4 คนก็เข้าไปประชิดครองขวัญทันที