บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ซาลาเปาขาวนุ่มร่วงจากฟ้า3

ขณะที่เสียงฮึกเหิมของทหารต้าไห่ดังลั่นเซ็งแซ่ หวงหมิงเพียงเค้นพลังปราณสะบัดโซ่เหล็กไปทางฝั่งหนึ่ง ฟาดใส่ศัตรูไม่ยั้ง ทหารพลันล้มระเนระนาดเสียกระบวนทัพจนเปิดทางในเสี้ยวเวลา

ทว่ายังไม่หมด ทหารกลุ่มใหญ่พุ่งตัวเหิมเกริมประชิดเข้ามาแทนที่ได้ทันท่วงที

“ล่วงเกินแล้ว”

สิ้นเสียง หวงหมิงจับสาบเสื้อคอเยี่ยจื้อหลงกระโดดม้วนตัวข้ามหัวทหารต้าไห่แล้วลงมายืนขวางเบื้องหน้า สะบัดโซ่ตรวนปิดกั้น มิยอมให้ทหารออกจากหน้าผาไล่ตามรัชทายาทของตน

ชายหนุ่มส่งสัญญาณให้รัชทายาททางสายตา “ไป!”

เยี่ยจื้อหลงเวลานี้ย่อมรู้ว่าไม่ควรทำตัวเป็นภาระ ทางหนีชั่วแล่นที่ถูกเปิดนี้มีเวลาแค่เสี้ยวลมหายใจ จึงรีบหมุนตัววิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต

ครั้นหันหลังกลับไปมองอีกครั้งก็เห็นหวงหมิงกำลังใช้โซ่เป็นอาวุธสังหาร จนเหล่าทหารต้าไห่ร่วงลงสู่ก้นผาราวสายมุกขาดสะบั้น

นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายต้องการล่อพวกต้าไห่มาที่นี่ แล้วใช้หน้าผาสูงชันนั้นช่วยขจัดศัตรู!

หวงหมิงมีแผนการรบที่ปราดเปรื่องและน่าทึ่งเสมอ รัชทายาทให้รู้สึกสบายใจจึงวิ่งต่อไปไม่หยุดเท้า

เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าตนเองวิ่งมานานเท่าใด เบื้องหน้าสายตาของเขาในที่สุดก็เห็นชายป่า พลันเห็นคนชุดดำยืนอยู่หลังพุ่มไม้สี่คน

คนผู้หนึ่งตรงนั้นรีบเปิดผ้าคลุมหน้าสีดำออก

จงซานโหว!

รัชทายาทหนุ่มเรียกขานนามคนคุ้นเคยในใจ รีบวิ่งเข้าไปในกลุ่มคนนั้นทันที

“ถวายบังคมรัชทายาท” ทุกคนรีบทำความเคารพ

“ไม่ต้องมากพิธี” เยี่ยจื้อหลงหายใจหอบเหนื่อย “เหตุใดมีกันเท่านี้ ไฉนไม่พาคนมามากหน่อยเล่า”

จงซานโหวรีบตอบ “พวกเราทำได้แค่ปลอมตัวเข้ามาจึงมิอาจกระทำการเอิกเกริกพาคนมาเยอะพ่ะย่ะค่ะ”

“ทุกอย่างเป็นแผนการของหวงหมิงกระมัง”

“พ่ะย่ะค่ะ” จงซานโหวปิดผ้าคลุมหน้าดุจเดิม นำเสื้อผ้าสีดำมาสวมให้เยี่ยจื้อหลง “พวกเราต้องทำตามคำสั่งของหวงหมิงอย่างเคร่งครัด หากชักช้าอาจผิดพลาดได้ ตอนนี้ที่เยี่ยเป่ยกำลังเผชิญคลื่นใต้น้ำที่เริ่มทวีความรุนแรง มีเพียงรัชทายาทที่จะทรงหยุดยั้งคลื่นลมผันผวนนี้ได้ พระองค์ทรงรีบไปขึ้นเรือที่เตรียมไว้โดยไวเถิด พวกเราจะอารักขาพระองค์เอง”

เยี่ยจื้อหลงนึกถึงฝีมือของหวงหมิงพบว่าไม่น่าห่วง จึงพยักหน้า รีบออกตัววิ่งจนกลืนหายไปในป่าทึบทันที

ทางฝั่งหวงหมิง

แม้เขาจะมีฝีมือเก่งกาจชำนาญกลการศึกปานใด แต่สิบเท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นับประสาอันใดกับนักรบที่อยู่ท่ามกลางคมกระบี่ไร้ตา

การทะลวงคุกมืดที่แข็งแกร่ง มีการคุ้มกันแน่นหนาและฝ่าด่านเข้าไปถึงคุกชั้นในนั้นไม่ง่าย ทั้งยังถูกคุมขัง กระทั่งถูกทรมานหลายวัน

กว่าจะได้พบหน้าองค์รัชทายาทตามแผนการนั้น ทำเอาหวงหมิงสูญสิ้นกำลังวังชาไปมากโข อาการบาดเจ็บที่กลืนกินยามนี้เรียกว่าสาหัสพอควร

หลังจากล่อลวงกลุ่มมือสังหารและทหารชุดดำให้เพลี่ยงพล้ำตกหน้าผาไปหลายต่อหลายคน แต่สุนัขต้าไห่ยังคงไม่หมดโดยง่าย พวกมันวิ่งกรูเข้ามากลุ่มแล้วกลุ่มเล่า กลุ่มเก่าตายตกก็มีกลุ่มใหม่พุ่งทะยานเข้ามาแทนที่พริบตา

หวงหมิงจึงวิ่งหนีมาอีกทางซึ่งแน่นอนว่าอยู่ตรงข้ามกับฝั่งที่รัชทายาทหนีหาย

โซ่ตรวนที่ทั้งหนาทั้งหนักซึ่งใช้แทนอาวุธฆ่าคนและใช้แทนโล่กำบัง บัดนี้ขาดวิ่นสั้นกุดไปหมดแล้ว

ชายหนุ่มกัดฟันขบกราม ใบหน้าคมคายเครียดขรึม เขาลอบสบถในใจ

อาวุธของต้าไห่ช่างดีเลิศสมคำร่ำลือ คมกริบยิ่ง

ร่างสูงกำยำวิ่งมาหยุดใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อใช้กำบังหมายยื้อเวลาปราชัย หวงหมิงเริ่มรู้ตัวแล้วว่าหนทางชนะเริ่มริบหรี่รำไร เขาเสียเลือดมากเกินไป ไม่มีเวลาฟื้นฟูกำลัง ดวงตาคมปลาบจึงเริ่มพล่าเลือนทีละน้อย

กลุ่มคนดำทะมึนทยอยตามมารุมล้อม ทหารต้าไห่ให้รู้สึกฮึกเหิมลำพองใจยิ่ง แม่ทัพคนหนึ่งกล่าวเสียงหยัน “อย่าเพิ่งตายเล่า ข้าจะแล่เนื้อเถือหนังเจ้าเองกับมือ”

“ฮ่าๆ” กลุ่มคนด้านหลังรับวาจาด้วยการหัวเราะร่า

คนหนึ่งหันไปส่งสัญญาณบางอย่างทางท้องฟ้าพลุถูกจุดส่งแสงสว่างวาบ ความหมายคือพิชิตศัตรูได้แล้ว ไม่นานก็มีสัญญาณตอบกลับมา

นี่คือข่าวดีที่สุดในใต้หล้าสำหรับชาวต้าไห่

หวงหมิงแค่นยิ้มเย็นชา ท่าทางของเขาสุขุมเยือกเย็น หาได้นำพาต่อการข่มขวัญ

อย่างไรเสียการตายอนาถกลางสมรภูมิรบยังดีกว่าตายสงบในคุกมืด

เขามาที่นี่ก็เพียงให้รัชทายาทได้กลับออกไปทำสิ่งที่ควรทำเท่านั้น

เพื่อเยี่ยเป่ย หลังจากนี้จะตายย่อมไม่เสียดาย

จังหวะที่ภยันตรายจากศัตรูกำลังคืบคลานทีละนิด กลุ่มมือสังหารหมายเอาชีวิต ตรงหน้าหวงหมิงพลันมีเสียงสิ่งหนึ่งตกกระแทกพื้นดินดังตุ้บ เมื่อหรี่ตามองกลับเห็นเป็นซาลาเปาขาวนุ่มก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเสมือนหล่นมาจากฟ้า

ซาลาเปาก้อนนี้คือสตรีตัวขาว ทั้งร่างเปลือยเปล่า

นางไม่ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว...

ผืนพิภพไร้เมตตา

ทว่าฟ้ากลับยื่นไมตรี

ส่งซาลาเปาขาวนุ่มชวนร้อนรุ่มผู้นี้

สตรีซึ่งไม่มีดีอันใดให้รื่นรมย์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel