ตอนที่ 2 ซาลาเปาขาวนุ่มร่วงจากฟ้า2
ร่างสูงใหญ่ปานหินผายืนตระหง่านกลางห้องกว้าง กล้ามเนื้อตึงแน่นที่มีเลือดสีฉานเกรอะกรังแผ่ซ่านขุมพลังที่สะสมเอาไว้มากมาย เรือนผมสยายเต็มบ่ากว้างถึงกลางหลัง ปลายผมล้อมรอบกรอบหน้าคมคาย มองมาคล้ายจอมมารในร่างเทพเซียนอย่างไรอย่างนั้น
เหรินจงยังคงเบิกตามองหวงหมิงขณะสั่งเสียงเข้ม “จับตัวมันไว้!”
อีกฝ่ายไร้มีดดาบ ไม่มีแม้ไม้สักท่อน ย่อมไม่คณามือ
“ตรึงโซ่เหล็ก!”
ทหารกลุ่มใหญ่พากันถลันขึ้นหน้าในท่วงท่าจู่โจม เป้าหมายคือช่วยจับโซ่เหล็กคนละมุมเพื่อตรึงนักโทษเอาไว้ แม่ทัพและเหล่าผู้คุมรวมถึงทหารต่างกระชับกระบี่เตรียมกวัดแกว่งฟาดฟันใส่ร่างเปลือยของหวงหมิงอย่างไม่ออมแรง
หวงหมิงแสยะยิ้มเลือดเย็น แววตาเหี้ยมเกรียม แม้แขนขาและฝ่าเท้ายังมีโซ่ตรวนยึดไว้แน่นหนา แต่นั่นล่ะคืออาวุธสังหารของเขาในขณะนี้
ชายหนุ่มสะบัดมือออกกระบวนท่าที่ฝ่าเท้าหนึ่งครา พลันเกิดกระแสลมคลั่งทั้งที่กำแพงไม่มีช่องใด โซ่เหล็กไหลที่หนาแกร่งซึ่งเดิมทียึดรั้งตัวเขาเอาไว้ให้อยู่กับที่ ยามนี้ราวกับมีชีวิต ปลายโซ่ทั้งสี่ด้านคลับคล้ายกลายเป็นงูเหล็ก
อันหนึ่งพุ่งพรวด ปัดกระบี่ในมือทหารจนกระเด็น เกิดเสียงดังเคล้งไปทั่วบริเวณพร้อมกับเลือดสดๆ สาดทะลักจากฝ่ามือพวกเขา อันหนึ่งฟาดใส่ใบหน้าอย่างไม่ปราณีกระทั่งเลือดออกปากออกจมูก แต่ละคนล้มระเนระนาดกลายสภาพเป็นกองทัพแตกระส่ำระสายเพราะขุนศึกเพียงคนเดียว อีกอันพุ่งไปฉกเสื้อคลุมของแม่ทัพคนหนึ่งจนหลุด ผ้าคลุมสีดำสะบัดพรึบ พลันปิดกั้นการมองเห็นจากผู้คนรอบด้านชั่วขณะ อันสุดท้ายตวัดฉับ รัดเอวรัชทายาทเยี่ยแล้วกระชากตัวคนหายวับไปในพริบตา
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไวกว่าสายฟ้า
หวงหมิงเหมือนอัศนีบาตฟาดแสกหน้า ได้ยินเพียงเสียงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นจนรู้สึกอื้ออึงในรูหู
เหรินจงรู้ตัวอีกที กำแพงคุกหนาหนึ่งฉื่อ พลันเป็นช่องกว้างจากการถูกของแข็งกระแทกแตกจนทะลุ
“บัดซบ!”
องค์ชายใหญ่สบถลั่น
ครั้นสิ้นฝุ่นสีขาวขุ่นมัวที่ตลบคลุ้งบดบังสายตา เหรินจงก็เห็นหวงหมิงแบกเยี่ยจื้อหลงขึ้นบ่ากว้างโรยตัวลงจากห้องขังชั้นบนสุดแห่งนี้ด้วยการใช้โซ่เหล็กไหลของเขา
โซ่ที่ทำจากแร่เหล็กชั้นเลิศจนแข็งแกร่งที่สุดใต้หล้า
เหรินจงโมโหแทบคลั่ง เขาไม่ต้องการเก็บมันไว้แล้ว จึงตวาดก้องอย่างเดือดดาลปานฟ้าถล่ม “ตามไปฆ่ามัน ฆ่าให้ตาย ไม่ต้องเก็บไว้อีก หาไม่ พวกเจ้าก็จงตายๆ ไปซะ!”
“พ่ะย่ะค่ะ” ทหารรับคำแข็งขันแฝงความลนลาน
ฝ่ามือเรียวขาวของเหรินจนทุบกำแพงคุกอย่างแรง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยไฟโทสะ แววตาผุดประกายอาฆาตแค้น
ที่แท้มิใช่หวงหมิงที่เสียท่าจนถูกจับตัวมาคุมขัง แต่เป็นเขาเองที่เสียรู้ให้อีกฝ่าย มันใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อเข้าถึงรัชทายาท แล้วฉกชิงไปต่อหน้าต่อตา
ฮึ่ม! เจ้าตัวหายนะ ข้าจะแล่เนื้อเจ้าเป็นหมื่นชิ้น!
ตลอดเส้นทางของการหลบหนีจากคุกสูงชัน หวงหมิงแบกเยี่ยจื้อหลงไว้บนบ่าข้างหนึ่ง
ปลายโซ่ถูกตวัดรัดหลักยึดที่มองหาได้ในปราดเดียว ปลายเท้าเตะส่งตัวคนทั้งสองเหวี่ยงไปพร้อมโซ่เหล็กไหล ทุกทิศทางที่โรยตัวเกิดขึ้นอย่างฉับไวแม่นยำ โซ่นี้ดีมาก หากเป็นโซ่ธรรมดาคงขาดสะบั้นนานแล้ว
เสียงโซ่กระทบต้นเสาที่รัดรึงและลากถูพื้นหินกรวดดังเสียดหูไปตามทาง ส่งผลให้กลุ่มทหารวิ่งตามเป็นพรวน ขบวนทัพจับทิศทางได้แม่นยำไม่มีพลาดสักก้าว
หวงหมิงเห็นเช่นนั้นก็เร่งส่งตัวจนพ้นกำแพงสูงให้เร็วยิ่งขึ้น ครั้นฝ่าเท้าแตะพื้นดินนอกคุกมืดอันเหี้ยมโหด เยี่ยจื้อหลงที่กลายร่างเป็นหุ่นฟางจึงได้จังหวะลงมายืนเอง เขารีบดึงผ้าคลุมมาผูกกับลำคอของหวงหมิง หมายปกปิดท่อนบนที่เปล่าเปลือยเต็มไปด้วยบาดแผลน่ากลัวจนมิด
“เลือดเจ้าออกเยอะมาก”
“กระหม่อมไม่เป็นไร”
“แต่...” เยี่ยจื้อหลงมีทักษะรักษาจึงเอ่ยอย่างห่วงใย “ให้ข้าห้ามเลือด...”
“ไม่จำเป็น” หวงหมิงสั่งเสียงขรึม “รีบไป!”
หวงหมิงแตะไหล่รัชทายาทหนุ่มให้ออกตัววิ่งนำหน้า ส่วนตัวเองวิ่งคุมเชิงและคุ้มกันด้านหลัง กลุ่มทหารต้าไห่ยังคงไล่ล่าไม่หยุดยั้ง ทุกครั้งที่มีคนพยายามจับปลายโซ่ มันกลับคล้ายงูดิ้นหนีอย่างไรอย่างนั้น พวกเขาจึงใช้วิธีสกัดด้วยมีดดาบพุ่งใส่ ทหารนอกวิถีโซ่เหล็กไหลรีบยิงธนูใส่ไม่ยั้ง
ทั้งหมดต่างโรมรันด้วยการสะบัดมีดสั้นคมกริชและยิงธนูใส่หวงหมิงอย่างบ้าคลั่ง
ทว่าน่าเสียดาย ที่เสื้อคลุมกลับมิใช่เสื้อคลุมอีกต่อไป เพียงหวงหมิงสะบัดผ้าสีดำที่ลำคอตนนั้น มันพลันกลายเป็นโล่กำบังที่แม่นยำและคืนอาวุธสาดใส่ผู้คนไปเสียได้
สุดท้าย กำแพงชีวิตของนักโทษหลบหนีก็บังเกิด เมื่อเส้นสายปลายทางของเยี่ยจื้อหลงกับหวงหมิงตรงหน้าเป็นหน้าผา เบื้องล่างแม้ไม่ลึกจนยากหยั่งถึงก้นบึ้งแต่กลับไม่มีน้ำสักหยด มีแต่หินขรุขระแหลมคม หมดสิ้นหนทางหนี คำว่ากำแพงชีวิตไม่เกินไปจริงๆ เพราะมิอาจไปต่อได้อีก
“ว่ะฮ่าๆ เสร็จข้าล่ะ” มือสังหารในชุดเกราะผู้หนึ่งพากองกำลังของตนวิ่งตามมาจนทัน เขาหยุดยืนและหัวเราะเย้ยหยันเสียงห้าว “ต่อให้มีปีกก็หนีไม่รอด”
หวงหมิงสีหน้าเยียบเย็น “เข้ามา...”
เสื้อคลุมสีดำโบกสะบัดกลมกลืนกับเส้นผมสีดำที่สยายเต็มแผ่นหลัง ท่ามกลางสายลมโชยแรงเหนือหน้าผา บุรุษตัวใหญ่ยืนเบื้องหน้าว่าที่จักรพรรดิของเขา
แม้เลือดท่วมกายแต่ท่วงท่าทระนงองอาจปานนั้น ไหล่กว้าง อกผาย เพียงยืนหยัดนิ่งๆ อย่างเย็นชา ทุกส่วนคล้ายกำจายกลิ่นอายมรณะออกมาได้อย่างน่ากลัว
หวงหมิงคือนักรบปีศาจผู้ปกป้องเทพมังกรของตน
ทหารต้าไห่ถึงกับชะงักเล็กน้อยกับภาพน่าพรั่นพรึง อีกฝ่ายเสมือนเทพเจ้าแห่งความตายในตำนานโดยแท้
แต่เพียงครู่ก็เหยียดยิ้ม สืบเท้ารุกคืบ อาวุธครบมือ ครั้นปิดหนทางหนีของศัตรูจนสิ้นก็รุกฆาตทันที
“ย๊า...”