บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 เทพสังหารหรือเทพมรณะ 2

พื้นพิภพที่อยู่ระหว่างสวรรค์ชั้นฟ้ากับนรกอเวจี อันเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์

พวกเขาแบ่งแยกดินแดน สี่ทิศมีถึงแปดแคว้น ปกครองโดยผู้ที่ตั้งตนว่าเป็นโอรสสวรรค์

สืบทอดอำนาจบารมีล้นฟ้าจากสายเลือดเดียวกัน นั่นคือสายเลือดแห่งมังกร

เชื่อกันว่าคนผู้นี้เกิดมาพร้อมบุญญาธิการสั่งสมสูงส่งมีกลิ่นอายสัตว์เทพอันเป็นมหามงคล

ได้รับการปกปักรักษาจากผู้จงรักภักดีมิแปรพักตร์ พิทักษ์ไว้ด้วยใจภักดิ์ทั้งหมดที่มีจากรุ่นสู่รุ่นยากแปรผัน

คนผู้นั้นที่กล่าวมาย่อมมีชะตาวาสนากับโอรสสวรรค์ เปรียบประดุจสายพระเนตรและลายพระหัตถ์ของฮ่องเต้ ถึงขั้นช่วยคัดสรรผู้สืบทอดบัลลังก์ได้

บรรพกาลมีตำนานหนึ่งส่งความเชื่อสืบต่อกันมาว่าองค์จักรพรรดิอาจเป็นราชาเทพมังกรกลับชาติมาเกิด ส่วนผู้พิทักษ์พระองค์คือพญามารยมราชมาจุติ เพื่อปกป้องไว้ซึ่งความคุ้มครองผู้ครอบครองบัลลังก์ทองเท่าชีวิต

นั่นคือเหตุผลที่ฮ่องเต้เยี่ยเป่ยทรงก่อตั้งนักรบพิเศษที่ขึ้นตรงต่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพของพยัคฆ์ร้ายตนใด สามารถควบคุมและตรวจตราดำเนินการตามอำนาจพิเศษของฮ่องเต้ได้

และผู้นำซึ่งถือครองกองกำลังนักรบหน่วยพิเศษนี้ย่อมฟังเพียงคำดำรัสแห่งองค์เหนือหัวเท่านั้น

เขามีนามว่า หวงหมิง หัวหน้านักรบหน่วยพิเศษผู้นี้เปรียบเสมือนพญายมราชของโอรสสวรรค์

บางคนเรียกเขาว่าเทพสังหาร เสาหลักแห่งเยี่ยเป่ย แต่ต่างแคว้นกลับเรียกเขาว่า ‘เทพมรณะ’

คุกมืดซึ่งตั้งอยู่ในค่ายทหารหน้าด่านต้าไห่มีสภาพไม่ต่างจากหลุมศพขนาดมหึมาเท่าใด

กลิ่นสาบสางที่โชยคลุ้งตลอดเวลานั้น บ่งบอกได้ดีว่ามันคือสถานที่สังเวยชีวิตของข้าศึกและเชลยมานับไม่ถ้วน

ภายใต้กรงเหล็กล้อมรอบรายทางมีเสียงโหยหวนจากการลงทัณฑ์นักโทษดังลั่นทั่วบริเวณ

ท่ามกลางกลิ่นอายอันน่าสะอิดสะเอียดเหล่านั้น ฝ่าเท้าในรองเท้าปักดิ้นทองพาเรือนกายสูงค่าเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ

แม้ใบหน้าของพระองค์บิดเบี้ยวเหยเกสูญเสียความงามสง่าไปหลายส่วนเพราะเหม็นกลิ่นคาว แต่ความตื่นเต้นในทรวงอกกลับมามากกว่าจนมิแยแสความสกปรกโสโครกของสถานที่แห่งนี้

พระองค์ไม่เคยคิดเหยียบย่างมาเลยสักครั้ง หากมิใช่เพราะต้องการยลโฉมพญายมราชจากแคว้นเยี่ยเป่ยผู้นั้น ย่อมไม่ลดตัวลงมาสัมผัสกลิ่นอายอันโสมมต่ำตมของที่นี่

ครั้งนี้คือครั้งแรกและคาดว่าคงเป็นแค่ครั้งเดียว ไม่ว่าการเจรจาแกมข่มขู่จะเป็นผลหรือไม่ก็ตาม

เมื่อองค์ชายใหญ่แห่งต้าไห่ปรากฏกาย เหล่าทหารรีบค้อมกายกันอย่างลนลานด้วยมิเคยพบพานเชื้อพระวงศ์ หากมิใช่แม่ทัพเป็นคนหันมากระซิบบอกกล่าว เกรงว่าคนคงอาญามิพ้นเกล้าแล้ว

“ถ่ะ ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ” แต่ละคนตื่นตระหนก สุ้มเสียงติดขัดยิ่งนัก

เหรินจงไม่สนใจ เพียงโบกมือปัดรำคาญ

“อยู่ที่ใด?”

“ทางนี้พ่ะย่ะค่ะ”

ประตูเหล็กถูกปลดสลักและเปิดออกช้าๆ ค่อยๆ เผยกลิ่นอายแปลกประหลาดออกมา

แม้ยังไม่ทันได้เจอหน้าสบสายตาแต่กลับรับรู้ได้ถึงกระไอสังหารอันเข้มข้นทะลุทะลวงจนแสบเคืองโพรงจมูก

เหรินจงถึงกับต้องกลั้นหายใจเดินเข้าไปอย่างระแวดระวัง กระทั่งได้เห็นห้องขังหนึ่งคล้ายมีสัตว์ป่าดุร้ายถูกมัดตรึงเอาไว้ คนผู้นี้ทั้งตัวใหญ่และน่าเกรงขาม ประดุจเจ้าป่าตั้งแต่บรรพกาลที่ความน่ากลัวถูกกล่าวขานมาช้านาน

ครั้นมองอีกทีจึงเห็นเป็นบุรุษตัวโตผมเผ้าปิดหน้า เปลือยกายท่อนบนยืนถมึงทึงอยู่กลางห้องอย่างโดดเดี่ยว

ทว่าน่าหวาดกลัวอย่างประหลาด

แม้อีกฝ่ายอยู่อาการสงบนิ่งเงียบงัน แต่รอบกายนั้นกลับอึมครึม รอบด้านแผ่ซ่านกลิ่นอายมืดดำเย็นเยือกเหมือนน้ำแข็งอันธการ

พระองค์หรี่ตาเพ่งมอง เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายรำไรผ่านเส้นผมยาวสยายที่ปรกใบหน้า

“คงไม่ผิดตัวกระมัง?” พระองค์ถามกุนซือข้างกาย

กุนซือรีบหันไปถามแม่ทัพที่ยืนอยู่อีกฝั่ง “ใช่หรือ?”

แม่ทัพผู้นั้นพยักหน้าหนักแน่นที่สุดในชีวิต “ใช่!”

ทว่าไม่นาน องค์ชายใหญ่ก็ทรงค้นพบได้ด้วยตนเอง

เมื่อคนตรงหน้าค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาคมกล้าที่มองมาคมกริบราวคมกริชทะลวงใจกระนั้น มีความกลัวเกรงต่อทัณฑ์ทรมานที่กำลังเผชิญเสียที่ไหนกัน

เหรินจงสะดุ้งเฮือกอย่างมิอาจควบคุม

ย่อมไม่ผิดตัวแน่นอน!

แต่ทว่า...น่ากลัวออกปานนี้ ไฉนถึงมีใบหน้างดงามเฉกสตรีกันเล่า?

บุรุษผู้นี้เรียกว่าฟ้าประทานโดยแท้ แม้รูปลักษณ์มิใช่ หากแต่กลิ่นอายเฉพาะกาย อีกทั้งบรรยากาศที่กดทับผู้คนจนรู้สึกหายใจไม่ออกนี้ แม้แต่ผู้เปี่ยมบารมีกุมอำนาจสูงส่งแห่งต้าไห่ที่ไม่เคยมีผู้ใดข่มขวัญพระองค์ให้รู้สึกยำเกรงได้ ยังสัมผัสถึงอย่างลึกล้ำจนเผลอหวาดหวั่นอย่างมิอาจควบคุม

ในห้องมืดแห่งนี้มีไว้เฉพาะขังเดี่ยวนักโทษอันตราย และยังคงมีกรงเหล็กไหลอีกชั้น กระนั้นผู้ถูกควบคุมตัวกักขังยังต้องถูกโซ่ตรวนตรึงร่างกายไว้อย่างแน่นหนา ทั้งแขนซ้ายและแขนขวา รวมถึงข้อเท้าทั้งสองข้าง โซ่ที่รั้งร่างทั้งร่างนี้ทำจากแร่เหล็กไหลชั้นเลิศ ไม่มีทางขาดโดยง่าย

เหรินจงค่อยๆ ขยับเท้าเดินเข้ามาถึงกรงเหล็กชั้นใน ระยะสายตาลุ่มลึกของพระองค์พลันเห็นบุรุษร่างใหญ่ยืนอยู่

คนผู้นี้แม้ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล แต่ดวงตากลับนิ่งสงบ สองแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามถูกพันธนาการยากหลุดพ้น สองเท้าถูกมัดแน่นด้วยโซ่เส้นใหญ่ เลือดสดๆ หลั่งไหลจากเนื้อหนังไม่หยุด เนื่องจากผู้ลงทัณฑ์ยังคงลงแส้ฟาดใส่ไม่ยั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel