2
“ถามจริงๆ เลยนะแก” เฌอร์รินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง หล่อนเป็นชายไม่จริงและเป็นเพศที่สามที่รักเพื่อนเหลือเกิน
“ถามอะไร”
“แกคิดฉากนั้นได้ไง ไม่เคยมีผัว”
“ก็ ก็...” เพลงพิณดึงนิ้วตัวเองไปมาอย่างเขินๆ
“มันเป็น...”
“ฟินลิ่งรึ” เฌอร์รินดักคอ
“ก็เออน่ะสิ ไม่เห็นต้องมีแฟนก็คิดได้ไอ้เรื่องแบบนั้น”
“แกหื่น”
“ฉันไม่ได้หื่น”
“แสดงว่าพระเอกแกหื่น”
“ก็ประมาณนั้นแหละ เวลาเขียนเรื่องอะไร ก็กระตุกผ้าห่มไม่ให้ฉันนอนทุกที ต้องลุกขึ้นมาเขียน”
“แกคิดได้นะ นังนักเขียนติสแตก ช่างมโนคิดไปได้” เฌอร์รินทำหน้าเมื่อย เท้าสะเอวมองเพื่อนอย่างหมั่นไส้
“แกพูดมากจริง”
“ไม่ให้พูดได้ยังไง ก็แกกรีดร้องเหมือนถูกข่มขืน วันนี้มันวันอาทิตย์ ฉันจะนอน แกเข้าใจไหมนังเพลง” เฌอร์รินทำหน้าโหดใส่เพื่อน
“ไม่เข้าใจ” เพลงพิณทำหน้าบ๊องแบ๊วไม่รู้ไม่ชี้
“ฉันควรจะทำยังไงกับแกดีนี่”
“แกช่วยฉันคิดฉาก NC หน่อยสินังเฌอร์” เพลงพิณทำหน้าอ้อน
“ถามจริงเหอะ”
“ถามไร” เพลงพิณถามกลับ
“นักเขียนคนอื่นอารมณ์แบบแกไหม คิดไม่ออกอะไรแบบนี้น่ะ”
“เยอะแยะไป” เพลงพิณตอบอย่างเนือยๆ
“มันเป็นอาการเขียนไม่ออก หรือเรียกอีกอย่างว่า Writer Block!"
“อ้อ... ก็ไม่ได้ใช่มีเท่าแต่แก แล้วแกจะเครียดทำไม”
“เครียดสิ”
“คนอื่นเขียนไม่ออกเขาทำกันยังไงล่ะ”
“ไม่รู้สิ บ่นว่าเขียนไม่ออกก็ต้องเขียนออกจนได้เหมือนฉันแหละ” เพลงพิณตอบแบบกำปั้นทุบดิน เฌอร์รินเท้าสะเอวมองเพื่อน ทำกัดหัวเพื่อนให้กระจุย จริงๆ เวลานี้ หล่อนต้องนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่มๆ แต่กลับต้องตื่นมารับรู้ปัญหาเขียนฉากรักของพระเอกนางเอกนิยายไม่ออกของเพื่อนแทน
“ฉันไปนอนดีกว่า” เฌอร์รินแยกเขี้ยวใส่เพื่อน
“เฌอร์ แกอย่าเพิ่งไปดิ๊ ช่วยกันคิดฉากนั้นให้ฉันก่อน” เพลงพิณรีบเรียกเพื่อนเอาไว้
“ไม่เอาหรอก มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉัน บก.บอกแกว่าแกเขียนไม่หื่น ก็ให้บก.ช่วยสิ เค้าเป็นบรรณาธิการ”
“แกจะบ้าหรือไง เขามีงานล้นมือ และหน้าที่เขียนมันก็เป็นของฉัน”
“แกมีแฟนคลับเยอะแยะ เขียนๆ ไปเถอะ ยังไงเค้าก็ซื้อของแกนั่นแหละ”
“ถ้าฉันเขียนห่วย เป็นแฟนคลับ ก็เลิกเป็นได้นะโว้ย ฉันรักงานของฉัน ไม่มีวันจะเขียนห่วยๆ เด็ดขาด”
“ย่ะ! แม่คนมีอุดมการณ์” เฌอร์รินประชดปนแดกดันเพื่อน
“เห้อ...” เพลงพิณถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะวางคางลงบนโต๊ะคอม
“แกเขียนไม่ออกก็ลอกเล่มเก่าๆ มาเขียนสิ ฉากแบบนั้นพระเอกจ้ำจี้กับนางเอกทุกเรื่อง มันจะอะไรนักหนา แฟนนิยายแกจำไม่ได้หรอก”
“ไม่ได้หรอก มันต้องคิดใหม่ทำใหม่ ให้แปลกใหม่” เพลงพิณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“โอ๊ย! ก็แกเขียนมากี่ปีแล้วนังเพลง ท่าเบสิคยันตีลังกา แกจะหาท่าใหม่อะไรมาอีกล่ะ ห้อยหัวร่วมรักกันรึ”
“มันไม่ใช่นังเฌอร์ มันต้องแบบว่าปรับอะไรให้มันแปลกใหม่น่ะ แกไม่เข้าใจหรอก”
“เออ... ฉันไม่เข้าใจจริงๆ นั่นแหละ”
“ฉันอยากไปเที่ยวน่ะแก หาบรรยากาศ ได้เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ แทนที่จะอยู่ในห้อง ฉันต้องคิดออกแน่ๆ เลยแก” เพลงพิณรีบออดอ้อนเพื่อนรักทันที
“ฉันว่างหรือไง ทำงานตั้งแต่จันทร์ถึงเสาร์ จะให้ไปเที่ยวกับแกตอนไหนล่ะ”
“ใกล้ๆ ก็ได้”
“โอ๊ย! แก อะไรรอบตัวก็เขียนได้หมด แกเบื่อก็ไปนั่งสวนสาธารณะ ไปเดินห้าง เที่ยวสวนสนุกก็ได้ ไปดูคู่รักเขาจู๋จี๋จีบกัน รับรองแกฟินแน่ๆ”
“แต่ฉันไม่อยากไปคนเดียว”
“ก็บอกให้หาผัว”
“ฉันยังไม่อยากแต่งงาน”
“แกจะเก็บเงินไปไหนของแก วันๆ แทบไม่ใช้จ่ายอะไร แกไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมันรถ ไม่มีค่าเครื่องสำอาง ค่าเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว ทำกับข้าวกินเองที่ห้อง เงินแกจะโดนปลวกกินแล้วนะ”
“ปลวกบ้าบออะไรของแก มันอยู่ในธนาคาร”
“เปรียบเปรยให้ฟังย่ะ” เฌอร์รินประชด
“นะๆๆๆ แกไปเที่ยวกันนะ”
“ก็ได้ จะหาเวลาไปก็แล้วกัน แต่ช่วงนี้ลาไม่ได้”
“แกลาได้ตอนไหนอะเฌอร์”
“พ่อตาย แม่ตาย ญาติสนิทเสียและแต่งงาน”
“โหดอะ”
“ฉันไม่ได้ทำงานอิสระเหมือนแกนะนังเพลง” เฌอร์รินขึ้นเสียงแปดหลอด
“แกก็ลาออกมาสิ จะได้ไปไหนมาไหนอิสระ ทำงานประจำน่าเบื่อจะตายแก ไหนจะเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ภาษีสังคม ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ปวดหัวกับลูกค้า กับงาน โอ๊ย! ต้องตื่นเช้าตาลีตาเหลือกไปทำงาน กลับบ้านมาก็เหนื่อย ดึกดื่นกว่าจะได้นอน เป็นแบบนี้ทุกวันเห็นแล้วเหนื่อยอะแก”