บทที่2 คู่หมั้น
ทางบ้านมู่ สามีภรรยาบ้านมู่รู้สึกสบายใจมากที่ยกเลิกงานหมั้นหมายได้สำเร็จ
ความจริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้อยากให้การหมั้นหมายเกิดขึ้นแต่ติดตรงที่บิดาเป็นสหายกันซ้ำยังเคยช่วยชีวิตบิดาของเขาไว้ จึงได้สนิทกันยิ่งไปอีก
ตั้งแต่บิดาเสียชีวิตสองสามีภรรยาก็ต้องการจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมายมาตลอดแต่ไม่มีโอกาส
จนถึงพิธีปักปิ่นของชิงเฉินเมื่อคิดได้ว่าต้องแต่งชิงเฉินเข้าบ้านก็ยิ่งร้อนใจ
หลังพิธีปักปิ่นหนึ่งวันจึงรีบมายกเลิกสัญญาหมั้นหมายซึ่งก็ง่ายดายมากท่านปู่ของชิงเฉินไม่ถามอะไรสักคำ
ในเมื่อไม่เต็มใจรับหลานสาวเขาเป็นสะใภ้ก็ยกเลิกไปเสียดีกว่าแต่งเข้าไปแล้วหลานสาวเขาได้รับความลำบาก
หลายวันต่อมาเทียนหยวนซึ่งได้เดินทางกลับบ้านมายังหมู่บ้านตระกูลมู่ พอทราบเรื่องก็ร้อนใจมาก
เนื่องด้วยตัวเขาเองศึกษาอยู่ที่ตัวอำเภอวันหยุดสิบวันถึงจะได้กลับมาบ้านครั้งนึง
สถานศึกษาที่เทียนหยวนเล่าเรียนอยู่มีกำหนดเรียนสิบวันหยุดสองวัน ถึงกำหนดวันหยุดเขาถึงได้กลับบ้าน
เทียนหยวนรู้สึกไม่ยินยอมเขาชอบชิงเฉินตอนเด็กเด็กท่านปู่พาเขาไปบ้านตระกูลกู้บ่อยมากเขาจึงสนิทกับชิงเฉิน และยิ่งได้รู้ว่านางคือคู่หมั้นเขาก็ยิ่งมองแต่นางผู้เดียว
มู่เที่ยนหยวนเป็นคนหน้าตาดีหุ่นดีถ้าเกิดในยุค2040เป็นดาราดังได้เลย แต่เขาไม่เคยสนใจสตรีคนไหนทั้งที่มีสตรีมากมายชื่นชอบเขา
มู่เทียนหยวนมีพี่น้องสี่คนเขาเป็นคนที่สามเขามีพี่ชายสองคนน้องสาวหนึ่งคน
“ท่านแม่ข้าไม่ยินยอมถอนหมั้นข้าจะแต่งกับชิงเฉินท่านปู่สั่งเสียไว้แล้วให้ข้าแต่งนางเป็นภรรยา ท่านพ่อท่านแม่จะยกเลิกไม่ได้นะขอรับ“
เทียนหยวนบอกกล่าวให้บิดามารดาฟัง
สองสามีภรรยาไม่รับฟังซ้ำยังบ่นด่าเทียนหยวนว่าเรียนมาเสียป่าวทำไมไม่คิดถึงอนาคตบ้าง ในอนาคตต้องแต่งบุตรสาวตระกูลใหญ่เหมือนพี่ชายทั้งสอง
ซึ่งบุตรสาวตระกูลใหญ่จะได้เกื้อหนุนผลักดันให้ตระกูลมู่เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีก
ตระกูลกู้เป็นชาวบ้านยากจนถ้าเกี่ยวดองกันไม่ได้ช่วยอะไรซ้ำยังทำให้ตกต่ำลงอีก เทียนหยวนฟังแล้วก็รู้สึกเสียใจที่บิดามารดาคิดเช่นนี้
เขาคุกเข่าโขกศรีษะอ้อนวอนบิดามารดาแต่ทั้งสองก็ไม่เห็นใจจนเขาบอกว่าจะไปหาชิงเฉิน
สองสามีภรรยาโมโหมากบอกว่าถ้าเขาไปจะขับเขาออกจากตระกูลตัดชื่อออกจากสกุลมู่ไม่คิดว่าเขาเป็นบุตรชายอีก
เทียนหยวนดึงดันจะไปบิดาจึงให้คนไปเชิญผู้อาวุโสในสกุลรวมถึงหัวหน้าหมู่บ้านตระกูลมู่ มาเขียนสัญญาสามฉบับ
เป็นหนังสือตัดขาดและขับออกจากสกุลมู่ต่อไปนี้จากนี้ไปไม่ว่าจะมีรึจนจะไม่เกี่ยวข้องกันอีก
บิดามารดาของเทียนหยวนทำเพื่อขู่เทียนหยวนนึกว่าเขาจะยอมแพ้ แต่เขาไม่ยินยอมเขาเซ็นสัญญาออกจากสกุล
สองสามีภรรยาจึงต้องประทับลายเซ็นลงไป เทียนหยวนคุกเข่าโขกศรีษะสามครั้งจนหัวแดงแล้วกล่าวว่า
“ท่านพ่อท่านแม่ลูกอกตัญญูขอท่านทั้งสองรักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ”
กล่าวจบเขาก็ก้าวเท้าออกจากบ้านเดินเท้าเป็นเวลาหนึ่งชั่วยามถึงหมู่บ้านหวังยามอู่
เสียงเคาะประตูบ้านกู้ดังขึ้นกู้ฟางซินเป็นผู้มาเปิดประตู นางมองอดีตคู่หมั้นของพี่สาวด้วยแววตาโกธรแค้น
“ท่านมาทำไมพี่ใหญ่ของข้ายังไม่ตายสมใจท่านหรอกนะ“
ตุบ เสียงเข่ากระทบพื้น “ข้ามาขออภัยได้โปรดให้ข้าพบแม่นางกู้ด้วยเถอะขอรับ”
คนบ้านกู้ทั้งหมดออกมาหน้าบ้านเว้นแค่ชิงเฉินและเจ้าหนูเฟยหมิง
ท่านปู่กล่าวว่า“บิดามารดาของเจ้ามาถอนหมั้นแล้วเจ้ามาเพื่ออะไรอย่ามาทำให้หลานสาวข้าเสียใจอีกเลย”
ตุบ ตุบ ตุบ เสียงโขกหัวดังขึ้นสามครั้ง“ได้โปรดเถอะขอรับให้ข้าได้พบกับชิงเฉินด้วย”
“ไม่ได้” เสียงคนบ้านกู้พูดขึ้นพร้อมกัน น้ำตามู่เทียนหยวนหลั่งไหลออกมาอย่างไม่อายใคร
ท่านปู่บอกให้เข้าบ้านทุกคนจึงเข้าบ้านพร้อมกับปิดประตูรั้ว โดยที่มู่เทียนหยวนยังคุกเข่าไม่ไปไหน
“ท่านปู่ขอรับนี่ก็ยามโหย่วแล้วท่านพี่มู่ยังคุกเข่าอยู่เลยขอรับ“ กู้เฟยฮุยเอ่ยบอกท่านปู่
คนบ้านกู้ที่นั่งอยู่ห้องโถงทุกคนก็ได้ยินแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรจนชิงเฉินพูดขึ้น
“ท่านปู่เจ้าคะให้เขาเข้ามาพบข้าเถอะเจ้าค่ะ ข้าผ่านความตายมาแล้วครั้งนึงข้าขอสัญญาว่าจะไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายอีกแล้วเจ้าค่ะ“
เฮ้อ! ท่านปู่ถอนหายใจแล้วสั่งบุตรชายคนโตให้ไปพาอดีตคู่หมั้นเข้ามา
ตุบ เข่าของอดีตคู่หมั้นกระทบพื้น ชิงเฉินคิดในใจว่าไม่เจ็บบ้างรึไงแต่สีหน้านางยังทำเป็นเรียบเฉย
”ชิงเฉินข้ามาขออภัยแทนบิดามารดาของข้าที่ผิดสัญญาถอนหมั้นเจ้า”
ชิงเฉินได้ยินดังนั้นจึงพูดว่า “เอาเถอะๆข้าให้อภัยพวกท่าน ข้าไม่กล่าวโทษพวกท่านหรอกบ้านข้ายากจนไม่เหมาะสมที่จะเกี่ยวดองกับสกุลมู่ ถอนหมั้นกันไปก็ดีแล้วเราจะได้สบายใจไม่มีอะไรติดค้างกัน“
ได้ยินเช่นนั้นอดีตคู่หมั้นก็พูดว่า ”ในเมื่อแม่นางไม่อยากเกี่ยวข้องกับสกุลมู่อีกเพื่อความสบายใจของแม่นางข้าก็ไม่บังคับฝืนใจ“
ตุบ ตุบ เสียงโขกศรีษะให้ท่านปู่ อีก ตุบ โขกให้นาง
ชิงเฉินกรอกตามองบน คิดในใจไม่เจ็บบ้างรึไงนางพูดว่า ”คุณชายมู่ท่านกลับไปเถอะ“
อดีตคู่หมั้นตอบว่า ”ข้าไม่กลับข้ามาครั้งนี้เพื่อ…….
*ยามเหม่าคือ05.00-07.00 น
*ยามอู่คือ 11.00-13.00 น
*ยามโหย่วคือ 17.00-19.00 น
*1เค่อ คือ 15 นาที