บทที่ 5 แค่เริ่มต้น 1.1
ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้นที่ผ่านมาร่วมหนึ่งสัปดาห์ กล้าตะวันก็ไม่ได้กลับมาบ้านวรชัยกุลอีกเลย แล้วไม่ได้พักอยู่ที่ห้องชุดในคอนโดหรูกลางกรุง เขาหายตัวไปราวกับไม่ต้องการพบหน้าใคร ไม่มาทำงานที่บริษัท เปิดสัญญาณโทรศัพท์ราวกับว่าไม่ต้องการติดต่อกับโลกภายนอก อยากอยู่ในโลกของตัวเองตามลำพัง
และการที่กล้าตะวันไม่อยู่บ้าน ส่งผลให้อัลลิยาเกิดสบายใจขึ้นเป็นกองเพราะไม่ต้องเห็นหน้าเขา และไม่ต้องกลัวว่า กล้าตะวันจะล่วงเกินตนอีกหรือไม่ ทว่าเธอกลับปลอดโปร่งใจได้เพียงสองวัน เธอก็ไม่สบายใจและทุกข์ใจแทนที่ เนื่องจากกำธรพยายามตามหากล้าตะวันเพื่อปรับความเข้าใจ แต่ไม่ว่าจะหาทางไหนก็ดูเหมือนจะจนหนทาง แม้แต่เพื่อนสนิทของกล้าตะวันยังไม่รู้เลยว่า ลูกชายของกำธรอยู่ที่ใด กำธรถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ การเดินทางไปต่างประเทศของกำธรกับนารถวลัยจึงต้องพับโครงการไปโดยปริยาย ทั้งสองคงไม่มีกระจิตกระใจไปเที่ยวเวลานี้ และเมื่อกำธรไม่สบายใจมีหรือที่นารถวลัยจะพลอยไม่เป็นกังวลและทุกข์ใจเรื่องนี้ตามสามี
“แม่คะ แม่กินข้าวบ้างสิคะ วันนี้แม่กินข้าวไปนิดเดียวเอง ยากลัวว่าแม่จะไม่สบาย” อัลลิยาบอกมารดาเมื่อเห็นว่า นารถวลัยทานอาหารไปเพียงสองคำ
“แม่กินไม่ลงน่ะลูก” นารถวลัยตอบตามตรง
“ยารู้ค่ะว่าแม่เป็นทุกข์เรื่องคุณกล้า แต่ถ้าแม่ไม่สบายแล้วแม่จะมีแรงปลอบโยนคุณลุงเหรอคะ ทานอีกหน่อยนะคะแม่”
อัลลิยาบอกมารดาอย่างเป็นห่วง เธอเห็นนารถวลัยกับกำธรทุกข์ หญิงสาวก็อดที่จะทุกข์ตามไปด้วยไม่ได้
“แม่กินไม่ลงจริงๆ ลูก มันตื้อไปหมด ยิ่งเห็นคุณลุงทุกข์หนัก แม่ยิ่งกินไม่ลง แม่ผิดเอง ถ้าแม่ไม่เข้ามาในชีวิตของคุณลุงในวันนั้น เรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น”
นารถวลัยโทษตัวเอง เพราะตอนนั้นนางก็รู้ว่ากำธรมีภรรยาแล้ว นางก็ยังรับรัก หากรั้งใจไว้อีกสักพัก รอให้ปัญหาที่ค้างคาระหว่างกำธรกับมารศรีถึงที่สิ้นสุด เรื่องก็คงไม่ออกมาในรูปการนี้ บางทีกล้าตะวันอาจจะไม่โกรธและเกลียดนางกับลูกมากถึงเพียงนี้ด้วย
“แม่อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ เรื่องมันผ่านมาแล้วกลับไปแก้ไขอะไรก็ไม่ได้” เธอปลอบมารดา “แต่ยาสงสัยอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ คุณลุงกับแม่เหมือนมีอะไรปิดบังอยู่ แล้วแม่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะโกรธคุณกล้าที่ทำกิริยาและพูดจาไม่ดีใส่ แม่พอจะบอกยาได้ไหมคะว่า มันคือเรื่องอะไร” อัลลิยาตัดสินใจถามในเรื่องที่ตนเองสงสัยมานาน แล้วรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันลูก และแม่ก็สัญญากับคุณลุงไว้ว่าจะไม่บอกให้ใครรู้ ให้ความลับนี้มันตายไปกับแม่นะยา ยารู้แค่เพียงว่า ถ้าคุณกล้าแสดงกิริยาไม่ดี หรือวาจาที่ไม่สุภาพกับแม่หรือกับ ยาอย่าไปถือโทษโกรธคุณกล้านะลูก หลีกเลี่ยงที่จะมีปากเสียงกับคุณกล้าด้วย แม่ไม่อยากให้คุณลุงไม่สบายใจไปมากกว่านี้ แม่อยากเห็นคนที่แม่รักและเป็นผู้มีพระคุณของแม่มีความสุข”
“แม่รักคุณลุงมากขนาดที่ว่า ยอมให้คุณกล้าพูดจาไม่ดีใส่ มองเราอย่างเหยียดหยามเลยเหรอคะ” อัลลิยาถามกลับอย่างสงสัย
“ความรักมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนสำคัญเลยคือ คุณลุงมีพระคุณกับเราสองคนมากไม่ใช่เหรอลูก ข้อนี้ยาก็รู้ดี การที่เราสองคนทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนคุณลุงทางหนึ่งด้วย อีกอย่างแม่เชื่อว่า ความดี ความจริงใจของเราจะชนะใจคุณกล้าได้สักวัน” นารถวลัยหวังเช่นนั้น แม้ว่าความหวังจะน้อยนิดก็ตาม
“ยาเข้าใจแล้วค่ะแม่” แม้ว่าจะไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมด แต่เธอก็ไม่คิดจะซักไซร้ผู้เป็นแม่ต่อ เพราะรู้ดีว่า จะไม่มีวันได้คำตอบที่ตนต้องการ
“แล้วเรื่องงานล่ะลูกไปถึงไหนแล้ว” นารถวลัยเปลี่ยนเรื่องคุย
“พรุ่งนี้ทางโรงเรียนนัดสอบสัมภาษณ์ยาค่ะ”
อาชีพครูเป็นอาชีพที่อัลลิยาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นเธอจึงสานฝันของตนให้สำเร็จ หลังจากเรียนจบ เธอจึงไปสมัครเป็นครูในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่เปิดรับสมัคร ซึ่งเธอก็ได้รับโอกาสให้ไปสอบสัมภาษณ์
“แม่ขอให้ลูกของแม่ประสบความสำเร็จได้เป็นครูสมใจนะลูก”
นางอวยพรบุตรสาวและส่งยิ้มให้ อัลลิยาเห็นรอยยิ้มของคนเป็นแม่แล้วรู้สึกห่อเหี่ยวมากกว่าดีใจ เพราะรอยยิ้มนี้อยู่บนใบหน้าของคนที่กำลังเป็นทุกข์ รอยยิ้มจึงไม่สดใสมองดูแล้วเหมือนจะฝืนยิ้มมากกว่า ซึ่งเธอก็รู้ดีว่า สาเหตุของรอยยิ้มอันหมองเศร้านี้มาจากสาเหตุใด อัลลิยาเห็นแล้วอดที่จะสงสารและเห็นใจนารถวลัยไม่ได้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยมารดาได้อย่างไร นอกจากกำลังใจที่จะมีให้ไม่มีวันสิ้นสุด
“ขอบคุณค่ะแม่” อัลลิยาพูดพร้อมกับโอบกอดผู้เป็นแม่ “ยารักแม่ รักคุณลุง หากมีทางใดให้แม่กับคุณลุงพ้นจากความทุกข์ได้ ยาจะทำทันทีค่ะแม่”
ลำแขนของนารถวลัยโอบกอดร่างบุตรสาวยอดดวงใจ ยิ้มและเอิบอิ่มใจกับคำพูดที่ได้ยิน
“ขอบใจมากลูก ขอบใจจริงๆ แม่ดีใจที่ยาเกิดมาเป็นลูกของแม่”
“ยาก็ดีใจและภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกของแม่ค่ะ”
สองแม่ลูกกอดกันน้ำตาซึม อัลลิยาเป็นห่วงมารดาเป็นที่สุด หญิงสาวรู้ดีว่า จิตใจของนารถวลัยเป็นอย่างไร ปากก็บอกว่าไม่เป็นไร ทว่าในความเป็นจริงทุกพื้นที่ในความรู้สึกอัดแน่นไปด้วยความทุกข์จากเรื่องลูกเลี้ยงที่ไม่รู้ว่าจะหาข้อยุติอย่างไร แล้วหากมีทางไหนที่จะทำให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็ว เธอก็พร้อมที่จะทำอย่างไม่เกี่ยงงอน เพื่อบุคคลอันเป็นที่รักและมีพระคุณกับเธอ