บทย่อ
“ปล่อย...ปล่อยค่ะคุณกล้า” เธอร้องออกมาในที่สุด หลังจากที่ดึงสติกลับมาและเริ่มดิ้นรนออกจากวงแขนที่รัดรึงเธออยู่“ไม่ปล่อยมีอะไรไหม” เขาไม่พูดเปล่าหลุบสายตาโลมเลียไปทั่วดวงหน้าหวาน ต่ำลงถึงลำคอระหง เนินอกคู่สวยที่โผล่ล้นออกมากจากคอเสื้อชุดนอน มันเคลื่อนไปมาตามแรงจังหวะการหายใจของหญิงสาวที่เร็วและแรง ความร้อนรุ่มแผ่กระจายพร้อมกับความตื่นตระหนกตกใจ เมื่อปลายจมูกโด่งคลอเคลียแก้มนวลแผ่วเบา ไล้ไปมาโดยไม่ทิ้งน้ำหนัก อัลลิยาหลบปลายจมูกโด่งเป็นพัลวัน มือนุ่มนิ่มเริ่มมีเรี่ยวแรงดันแผงอกแกร่ง หวังจะให้ร่างสูงออกห่างกายตน แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ขยับออกห่าง ยิ่งรัดแน่นมากยิ่งขึ้น“คุณกล้า ปล่อยยาเถอะคะ คุณกล้าเมาแล้วนะคะ”เธอพยายามเตือนสติของเขา กลิ่นวิสกี้ที่เธอสูดดมเข้าไป แปลความหมายได้ไม่ยากว่า ตอนนี้เขากำลังเมาไม่ได้สติ หญิงสาวจึงเรียกสติของเขาให้กลับคืนมา“ฉันดื่มวิสกี้ไปแค่สองสามแก้ว ไม่ทำให้ฉันเมาหรอก และที่ทำอยู่นี่สติของฉันครบถ้วนทุกอย่าง” กล้าตะวันพูดถูก สติของเขายังครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีอาการเมาอย่างที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย“ถ้าคุณกล้ารู้ตัว ปล่อยยานะคะ ยาจะขึ้นไปนอนแล้ว”เธอพูดเสียงสั่น ตอนนี้เธอเริ่มหวาดกลัวเขาเป็นเท่าตัว เมื่อได้ยินคำพูดของเขา คนขาดสติมักทำอะไรที่ไม่รู้ตัว คนเราไม่อาจถือโทษโกรธได้ แต่นี่เขาทำเพราะความตั้งใจ ความน่ากลัวจึงโอบล้อมอยู่รอบกายเธอ สัญชาตญาณของอัลลิยาบอกว่า ตนเองกำลังได้รับอันตราย“ปล่อยเหรอ ปล่อยแน่แต่หลังจากนี้” มนต์สะกดที่มีอานุภาพมากล้น สะกดให้อัลลิยายืนนิ่ง ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือและขาทั้งสองข้างของเธอสั่น หัวใจดวงน้อยนั่นเล่า เต้นแรงและดังโครมครามมากที่สุดที่เธอเคยรู้สึกได้ เมื่อริมฝีปากหยักสวยได้รูปของกล้าตะวันประกบทับเรียวปากบางอย่างจาบจ้วง เอาแต่ใจ
บทนำ
มือแข็งแรงของบุรุษรูปงามขยำกระดาษในมือเป็นกลมก้อน ก่อนจะปามันทิ้งไปลงบนพื้นอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากที่อ่านประวัติของนารถวลัยว่าที่ภรรยาใหม่ของกำธรผู้เป็นบิดา และเป็นว่าที่แม่เลี้ยงของตนเอง ความเกลียดชังที่มีต่อนารถวลัยไม่ได้ลดหย่อนลงเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหนึ่งปีหลังจากที่มารดาของเขาเสียชีวิต มันกลับทวีคูณมากขึ้นทุกวัน
วันนั้นเขายังจำได้ดี บิดาของเขามีความสุขอยู่กับนารถวลัยในต่างประเทศ ปล่อยให้มารดาต้องจบชีวิตลงตามลำพังอย่างเดียวดาย ไร้บิดาอยู่เคียงข้างอย่างที่สมควรจะเป็น และยิ่งความจริงที่เขารับรู้มาจากมารตรีผู้เป็นป้าว่า พ่อบังเกิดเกล้าได้คบหากับนารถวลัยอย่างเปิดเผยในขณะที่มารศรีมารดาของเขาเจ็บหนัก และอาการป่วยทรุดลงเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีอาการตรอมใจที่สามีมีหญิงอื่นไม่มาดูดำดูดีคู่ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น ส่งผลให้ความเกลียดชังที่มีต่อนารถวลัยเพิ่มพูน อัดแน่นอยู่ในจิตใจของเขาจนอยากจะลบเลือน แล้วความรู้สึกนั้นก็เผื่อแผ่มายังอัลลิยา ลูกสาวของนางอีกด้วย
“เธอกับลูกจะต้องเจ็บปวดกว่าแม่ของฉัน...เจ็บอย่างที่ไม่เคยเจ็บมาก่อน”
กล้าตะวัน วรพิมุข ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปี เจ้าของดวงตาสีนิลเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างร้ายเหลือ เคราที่ขึ้นบางเบาช่วยทำให้ใบหน้าของเขาโดดเด่นมากยิ่งขึ้น จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูปหยักสวย เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนประกายทอง ส่วนสูงที่เกินมาตรฐานชายไทย ทำให้เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ ได้อย่างไม่ยาก
น้ำเสียงของชายสง่างามเต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นที่ฝังรากลึกในจิตใจ มีทางเดียวที่จะทำให้รากแห่งความแค้นหลุดออกไปคือเห็นต้นเหตุของความรู้สึกที่ได้รับเจ็บปวดอย่างทรมานทั้งกายและใจ แล้ววิธีการชำระแค้นของเขาก็ไม่เหมือนใคร รับรองได้ว่า สองแม่ลูกจะต้องเจ็บและจำไปจนวันตาย