บทที่ 1 น้องสาว 1
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
รถตู้คันใหญ่โก้หรูแล่นมาหน้าประตูบ้านวรพิมุข กำธรเจ้าของรถและเจ้าของบ้านก้าวลงมาจากรถเป็นคนแรก ตามด้วยนารถวลัยภรรยาใหม่ คนสุดท้ายที่ลงมาคือหญิงสาววัยสะพรั่งนามว่าอัลลิยาที่เดินลงมาเป็นคนสุดท้าย
หญิงสาววัยยี่สิบสองปีมองบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความตื่นตาตื่นใจ บ้านหลังนี้ใหญ่มากมีเนื้อที่กว่าห้าไร่ ตัวบ้านปลูกกินเนื้อที่กว่าครึ่ง ส่วนอีกครึ่งล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามเป็นระเบียบ
อัลลิยากวาดสายตาไปทั่ว จนกระทั่งมองเห็นบุรุษที่เดินออกมาจากตัวบ้าน หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ ระส่ำจนเธออยากจะเอามือล้วงเข้าไปในร่างกาย เพื่อไปจับหัวใจไม่ให้มันเต้นแรง ความหล่อของเขาโดดเด่นมาก อาจจะพูดได้ว่าหล่อกว่าพระเอกบางคนที่กำลังโด่งดังในขณะนี้เสียอีก เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายบึกบึน เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่แม้จะเป็นเพียงเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาเลยเมื่ออยู่บนร่างกายของชายตรงหน้า
กล้าตะวันเองก็เช่นกัน สาวน้อยที่อยู่ในสายตาของเขา เธอสวยใสกว่าในรูปมาก ผิวพรรณของเธอขาวนวลเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล น่าลูบไล้ ใบหน้าสวยหวานมันทำให้เขาเคลิ้มเมื่อได้เห็น ดวงตาใสซื่ออ่อนโยนทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงไม่แพ้กัน จะดีไม่น้อยหากผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ลูกสาวของคนที่ทำให้มารดาของเขาต้องจบชีวิตลง ฉะนั้นเธอจะเป็นเพียงอากาศธาตุในสายตาของเขาเท่านั้น แม้ว่าจะสวยจับจิตมากแค่ไหนก็ตาม
“กล้า...พ่อจะแนะนำให้รู้จักกับน้าวลัยกับหนูยา ทั้งสองคนจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้”
กำธรแนะนำให้ลูกชายรู้จักกับนารถวลัยและอัลลิยาอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เมื่อคืนเขาเปิดใจกับลูกชายเรื่องนี้ บอกจุดประสงค์ที่เขาต้องการให้กล้าตะวันฟังทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องที่เขากับนารถวลัยจะจดทะเบียนสมรสกันในวันมะรืนนี้ด้วย
ครั้นบอกเล่าเรื่องให้กล้าตะวันฟังจบ แทนที่เขาจะได้รับคำตอบหรือวาจาใดๆ จากปากของลูกชาย กำธรกลับได้เพียงความเงียบเท่านั้น กำธรจึงถือว่าความเงียบที่กล้าตะวันมีให้คือคำตอบตกลงที่จะให้ทั้งสองเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้
แต่ในความเงียบของกล้าตะวัน คือชนวนระเบิดที่เริ่มจุด
“สวัสดีค่ะ พี่กล้า”
อัลลิยาพนมมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างนอบน้อม รู้สึกประหม่าและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันกับสายตาของกล้าตะวัน แล้วเธอยังสามารถสัมผัสกับรังสีบางอย่างที่อยู่รายล้อมร่างหนานี้ มันเป็นรังสีที่ร้อนวูบวาบ น่ากลัว
กล้าตะวันไม่มีปฏิกิริยาใดๆ โต้ตอบ ไม่ทัก ไม่รับไหว้ เขาเดินผ่านไปราวกับว่าไม่เห็นบุคคลทั้งสอง ทำให้สองแม่ลูกอึ้งเล็กน้อยกับท่าทีเฉยชาของกล้าตะวัน
“กล้า น้องทักไม่ทักน้องตอบสักหน่อยหรือลูก”
กำธรเอ่ยขึ้นก่อนที่ร่างของลูกชายจะเดินเลยผ่านตนไป กล้าตะวันหันมามองหน้าบิดาก่อนจะตอบคำถามที่ทำให้คนฟังถึงกับสะอึก พูดไม่ออก
“ในสายตาของผมตอนนี้ไม่เห็นมีใครยืนอยู่ตรงนี้นอกจากคุณพ่อ และผมก็ไม่มีน้องด้วยแค่นี้ใช่ไหมครับที่คุณพ่อจะพูดกับผม ถ้ามีแค่นี้ผมขอตัวนะครับ” เขาโต้บิดาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะหันไปหาหญิงสาวที่เรียกเขาว่า พี่กล้า “อ้อ...แล้วเธอก็อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ เพราะฉันไม่ใช่พี่ของเธอและไม่มีวันใช่ด้วย”
กล้าตะวันพูดจบก็เดินตรงไปยังโรงรถทันที ไม่สนใจว่าคำพูดของตนจะทำร้ายจิตใจใครบ้าง เขาถือว่าเวลานี้กำธรทำร้ายจิตใจตนอย่างหนัก ฉะนั้นชายหนุ่มจึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจใครเช่นกัน
อัลลิยาถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่ากล้าตะวันจะเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา แล้วน้ำเสียงที่ได้ยินก็แสดงถึงความไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน จนเธอคิดว่า การอยู่บ้านหลังนี้คงไม่ง่ายตามที่คาดคิดไว้
“อดทนหน่อยนะวลัย กล้าเป็นคนหัวแข็งและรักแม่มาก คงทำใจไม่ได้ที่จะมีใครมาแทนแม่ของตัวเอง”
กำธรพูดปลอบโยนภรรยา นารถวลัยรู้อยู่แล้วว่ากล้าตะวันต้องไม่พอใจที่นางมาอยู่บ้านหลังนี้ แม้จะเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว แต่เมื่อมาเจอกับเหตุการณ์จริงๆ มันไม่ง่ายอย่างที่นางคิดเลย ยิ่งท่าทางเย็นชาของลูกเลี้ยงคนนี้แล้ว ทำให้นางรู้ว่าต่อไปนี้หัวใจของนางต้องท่องคำว่าอดทนไว้ตลอดเวลา
“ค่ะ วลัยเข้าใจค่ะ”
นารถวลัยตอบเสียงค่อนข้างเบา กำธรยิ้มให้กับนางก่อนจะกุมมือภรรยา พาเดินเข้าไปภายในบ้าน โดยมีสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้นของกล้าตะวันจ้องมองสองแม่ลูกผ่านกระจกรถยนต์ติดฟิล์มกรองแสงสีดำอย่างกินเลือดกินเนื้อ
เจ้าของบ้านนำพาสมาชิกใหม่เข้ามาภายในบ้านที่ตกแต่งอย่างสมฐานะ ดูโอ่อ่า กว้างขวางและมีรสนิยม อัลลิยามองดูความสวยงามอย่างตื่นตาตื่นใจตามประสาคนไม่เคยเห็นจะพูดว่าเธอไม่ตื่นเต้นก็คงไม่ได้ และไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้พำนักในบ้านใหญ่โตด้วย ในขณะที่สายตากวาดมอง เท้าเล็กก็ก้าวเดินตามร่างของพ่อเลี้ยงและมารดาขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน
“ยาอยู่ห้องนี้นะลูก ห้องนี้อยู่ติดกับห้องของกล้า”
กำธรเอ่ยบอกเมื่อพาลูกเลี้ยงมาส่งที่ห้องส่วนตัวที่ตระเตรียมไว้ให้ หญิงสาวยิ้มร่าเดินเข้าไปภายในห้องที่ตกแต่งด้วยโทนสีชมพูสดใส เตียงขนาดห้าฟุตตั้งเด่นอยู่กลางห้อง เครื่องอำนวยความสะดวกมีอย่างครบครัน ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องนอนของเธอที่บ้านหลังเก่าหลายเท่านัก
“สวยน่าอยู่มากๆ เลยค่ะคุณลุง ขอบคุณคุณลุงมากนะคะที่จัดห้องให้ยาซะสวยเชียวค่ะ” อัลลิยาหันมาไหว้ขอบคุณพ่อเลี้ยงด้วยรอยยิ้ม “แต่เอ...คุณลุงคะประตูบานนี้เป็นประตูอะไรคะ”
เสียงหวานใสเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นบานประตูบานหนึ่งอยู่ตรงฝาผนังห้องนอน
“เดิมทีห้องนี้เคยเป็นห้องพี่เลี้ยงของกล้าตอนกล้ายังเด็ก เพื่อความสะดวกในการเลี้ยงดูกล้าลุงก็เลยทำประตูเชื่อมน่ะ พี่เลี้ยงเด็กจะได้ไม่ต้องเดินอ้อมไปอ้อมมาให้เสียเวลา แต่หนูยาสบายใจได้นะไม่มีใครเปิดประตูห้องนี้ได้นอกจากหนู เพราะมันถูกล็อกจากห้องนี้”
กำธรตอบคำถามที่ลูกเลี้ยงต้องการรู้
“ยาขอบคุณคุณลุงอีกครั้งนะคะสำหรับทุกอย่าง”
“เป็นหน้าที่ของลุงที่จะต้องทำให้ลูกสาวของคนที่ลุงรักมีความสุข” กำธรตอบด้วยเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีเมตตา “ลุงว่า ยาพักผ่อนเถอะลูก พรุ่งนี้เจอกันตอนเช้านะ”
“ค่ะคุณลุง” เมื่อกำธรและมารดาเดินออกไปจากห้อง อัลลิยาลงมือนำเสื้อผ้าในกระเป๋าจัดเข้าตู้เป็นอันดับแรก แล้วเสร็จจึงอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนลายน่ารักและผักผ่อนในเวลาต่อมา