2/3
“ฉันรู้นะว่าเธอกำลังนินทาฉันในใจ” หัสดินเดินเข้าไปหา
ดาริน เขาฉุดให้เธอยืนเผชิญหน้ากัน ซึ่งทำให้ดารินที่มีท่าทีจะเป็นลมอยู่แล้วล้มลงกองกับพื้น หัสดินรับร่างของหญิงสาวไว้ทันไม่ให้ร่วงลงพื้นได้พอดิบพอดี
ในขณะที่เขาคิดหาวิธีทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวนั้นก็ไม่ทันได้สังเกตถึงบางสิ่งที่เคลื่อนเข้ามาใกล้กับใบหน้าของเขา ก่อนที่จะเคลื่อนที่จมูกเขา
“โอ้กก” กลิ่นเหม็นของขี้ม้าที่ติดอยู่ตรงปลายจมูกทำให้หัสดินอาเจียนเหมือนคนแพ้ท้อง
“คิกๆ” ดารินแกล้งเป็นลม เธอหัวเราะชอบใจที่เอาคืนเขาได้
“เธอตายศพไม่สวยแน่ดาริน”
หัสดินถอดเสื้อยีนส์ออก ใช้มันเช็ดขี้ม้าออกจากหน้า ดวงตาแดงก่ำจ้องมองหญิงสาวอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“ฉันอุตส่าห์ดีกับเธอ แต่เธอกลับไม่ชอบ งั้นต่อไปนี้อย่าว่าฉันโหดก็แล้วกัน”
เสียงตะคอกดังน่ากลัวทำให้ดารินที่ยืนหัวเราะต้องหุบยิ้ม เธอกลัวเขามากในเวลานี้
“ฉันไม่ใช่วัวควายที่จะยอมให้คุณใช้งานเหมือนทาสนะ” ดวงตากลมโตไหวหวั่นมองร่างกายกำยำที่ใส่เพียงแค่เสื้อยืดสีขาว ทุกย่างก้าวของเขาที่เดินมาหาเธอช่างน่าเกรงขามเหลือเกิน
“หึ! ผู้หญิงฆาตกรอย่างเธอ ฉันไม่เอาเธอเข้าตารางก็บุญหัวเธอแล้ว เธอน่าจะขอบคุณฉันนะที่ไม่เอาเรื่องเธอ” หัสดินเดินย่างสามขุมไปตามรอยเท้าของหญิงสาวที่เดินถอยหลัง ดวงตาของเขาเหมือนตาปีศาจแดงโรจน์จ้องมองร่างบาง ถ้ามองนานๆ ร่างน้อยนั้นอาจถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
“คุณพูดเรื่องอะไร ฉันทำอะไรผิด คุณถึงจะเอาฉันเข้าคุก” ดารินถามเสียงสั่น กลัวเขามากในเวลานี้ เธอเหมือนอยู่ในห้องขังคับแคบที่เขายืนใช้ร่างกายใหญ่โตกักขังเธอไว้
“ผู้ร้ายปากแข็ง ฆ่าคนบริสุทธ์โดยไม่มีโอกาสได้ร้องขอชีวิต น้องสาวของฉันถูกเธอขับรถชน” หัสดินคำรามเสียงเหี้ยม เขากัดฟันจนสันกรามปูด
"น้องสาวคุณ" ดารินย่นคอหนี กลัวจนตัวสั่นระริก เมื่อเห็นมือของมัจจุราชจะขย้ำคอของเธอ
"ใช่ น้องสาวฉัน กุลธิดา เธอขับรถชนตายพร้อมพี่ชายเธอไงล่ะ!" มือที่กางจะบีบลำคอระหงนั้นเปลี่ยนเป็นกำปั้นชกฝาไม้เฉียดข้างแก้มเธอไปนิดเดียว
“กรี๊ด! ฉันเปล่านะคะ คุณกำลังเข้าใจฉันผิด ฉันไม่ได้เป็นคนทำให้ใครตาย” ดารินร้องไห้ไม่มีเสียง มีเพียงน้ำตาไหลออกจากดวงตากลมโตทั้งสองข้าง
“นี่เธอยังกล้าปฏิเสธความผิดเธอเองเหรอ ดาริน” หัสดินยิ่งโมโห เขาจับบ่าเธอเขย่าอย่างแรงจนเธอหัวสั่นหัวคลอนแล้วผลักล้มลง
“พี่ชายฉันเป็นคนขับ ไม่ใช่ฉัน” ดารินนิ่วหน้า เจ็บร้าวไปทั้งสะโพก มือก็ลูบแขนที่ถลอกมีเลือดซึมออกมาเพราะฝีมือเขา
“หัวใจเธอทำด้วยอะไรถึงกล้าโยนความผิดให้พี่ชายตัวเองเพื่อเอาตัวรอด ฉันละสงสารพี่ชายเธอจริงๆ ที่มีน้องแบบเธอ” หัสดินยังไม่หยุดคิดทำร้ายเธอ เขาเดินเข้าไปหา
“ใช่...ฉันมันเป็นน้องที่ไม่เอาไหน ฉันทำให้พี่ตัวเองและน้องสาวของคุณตาย พอใจหรือยังคะ” พูดแก้ตัวไปเขาคงไม่เชื่อ เธอจึงตัดสินใจรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้
“ผู้หญิงจิตใจชั่ว” เสือร้ายแสยะยิ้มเมื่อเห็นเหยื่อคลานหนีเหมือนหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
“ใช่! ฉันมันชั่วเป็นฆาตกรฆ่าน้องคุณ จับฉันเข้าคุกเลยสิ”
ดารินแหงนหน้ามองหน้าของเขา ในเวลานี้หัสดินได้แปลงร่างเป็นปีศาจ ใบหน้าของเขาเหี้ยมเกรียม เดินย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ ดารินหวาดกลัวจนตัวสั่น เขยิบก้นถอยหลังหนีไปตามพื้นดิน
“ฝันไปเถอะ ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต ฉันจะเป็นยมทูตเด็ดชีวิตเธอ ฉันจะทำให้เธอตายอย่างทรมาน” เขาเค้นเสียงออกมาเมื่อใบหน้านองเลือดของน้องสาวลอยมาให้ได้เห็น
“รู้ไหม พ่อแม่ฉันตายไปตั้งแต่สมัยฉันยังเป็นวัยรุ่น ฉันต้องแบกภาระธุรกิจทุกอย่างที่พ่อแม่ฉันสร้าง ฉันคอยดูแลยน้องสาวเพียงคนเดียวของฉันตั้งแต่ยัยกุลยังเด็ก เฝ้าทะนุถนอมยิ่งกว่าไข่ในหิน ยัยกุลกำลังจะได้เรียนมหา’ลัย คณะแพทย์ศาสตร์อย่างที่เขาฝัน แต่เพราะเธอคนเดียวที่ขับรถประมาท พรากเขาไปจากฉัน พรากอนาคตที่สวยงามของยัยกุลไป เธอมันฆาตกร จิตใจโหดเหี้ยม เธอมันฆาตกร!” เสียงเขาตะโกนใส่หน้า
สีหน้าแววตาของเขาเจ็บปวด ทำให้ดารินรู้สึกเสียใจที่พี่ชายเธอเป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องสูญเสียน้องสาวเพียงคนเดียวไปโดยไม่มีวันกลับมา
“ฉะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องเป็นแบบนั้น ฉันขอโทษ” ดารินพูดเบาๆ รู้สึกเสียใจไม่ต่างจากเขา เมื่อนึกถึงอุบัติเหตุในครั้งนั้น เพราะเธอเองก็สูญเสียพี่ชายเพียงคนเดียวไปเช่นกัน
“เก็บคำขอโทษของเธอเอาไว้เถอะ ถ้าเธอทำให้ยัยกุลฟื้นมาได้ ฉันถึงจะรับ”
เสียงของเขาเย็นเยือก จนดารินหนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก เธอจะยอมรับผิดและชดใช้ให้เขาเอง คงเป็นสิ่งเดียวที่เธอสามารถตอบแทนพระคุณพี่ชาย เพราะหากพี่ชายเธอยังมีชีวิตอยู่คงไม่พ้นถูกเขายิงตายแน่
‘พี่ติคะ อย่าห่วงนะคะ น้องจะชดใช้ให้เขาแทนพี่เองค่ะ’ ดารินพูดในใจ
“คุณอยากให้ฉันทำอะไรคะ ฉันอยากชดใช้หนี้ชีวิต” ดารินถามเสียงสั่นระริก
“เธอต้องทำงานตามคำสั่งฉันทุกอย่าง แม้แต่ร่างกายเน่าๆ ของเธอก็ต้องนำมาบริการฉัน ไม่ว่าตอนไหน จะเช้า สาย บ่าย เย็น ดึกก็ตาม หากฉันต้องการปลดปล่อยเมื่อไหร่ เธอต้องมาทันที ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด” หัสดินยิ้มสะใจเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางหวาดหวั่นของเธอ
