บทที่ 11 สัมผัสผืนทะเลทราย
“มันก็ต้องมีกันบ้างใช่มั้ยครับ ถ้าไร้เสน่ห์มารยาก็ดูจืดชืด ผมขอตัวขึ้นรถก่อนนะครับ” หนุ่มร่างใหญ่ผิวคล้ำเชิดหน้าใส่นางแบบสาว หากมีผมยาวสักนิด คุณชายจ๋าคงสะบัดปลายผมใส่ไปแล้ว
“ชิ อีนังกระเทยยักษ์ ฉันไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับแก พรุ่งนี้ฉันต้องรีบบินกลับไปทำงานต่อ ไม่อย่างนั้น ฉันจะลองโปรยเสน่ห์แข่งกับนางแบบของแกดูซิ ว่าใครจะเหนือกว่ากัน” นางแบบสาวสะบัดหน้าแล้วก้าวราวกับเดินอยู่บนแคทวอคไปที่รถมินิบัสที่เปิดประตูรอหล่อนอยู่
มูนรูฟผายมือไปที่รถสปอร์ตส่วนตัวของเขาที่จอดต่อจากรถมินิบัส เขาบอกฟูลาซว่าจะเป็นคนนำเที่ยวด้วยตัวเองแต่ขอใช้รถส่วนตัวเพราะมีแผนให้แคทลีนนั่งไปกับเขาด้วย การกระทำของเขาเป็นที่อิจฉาของนางแบบอีกหลายประเทศโดยเฉพาะมิชาเอลที่เพิ่งปะทะคารมกับโจอิสัน
ฟูลาซไม่ปล่อยให้มูนรูฟนำเที่ยวเพียงคนเดียว เขานั่งไปกับรถมินิบัสเพื่อให้เกียรตินางแบบอีกหลายสิบชีวิต ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้ว่าน้องชายสนใจแคทลีนแต่จะจริงจังหรือไม่นั้นเขาไม่อาจคาดเดาได้แต่ที่เขาไม่สบายใจนักเพราะมูนรูฟมีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้วหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อีก 2 เดือนข้างหน้าจะมีพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการ
โมอาร์ปรึกษากับอาลี อัมมุสตาฟา เพื่อนสนิทของเขา ปรึกษาเรื่องงานแต่งงานของมูนรูฟกับอีวี่ ลูกสาวของอาลีโดยไม่ให้มูนรูฟรู้แต่ฟูลาซนั่งร่วมการสนทนานั้นด้วย หากเป็นเช่นนั้นแล้ว แคทลีนจะกลายเป็นเพียงคู่นอนเล่น ๆ ของมูนรูฟแต่ถ้าน้องชายของเขาจริงจังกับนางแบบสาวล่ะ พิธีหมั้นกับงานแต่งงานมิต้องล้มเลิกหรอกหรือ ฟูลาซได้แต่ถอนใจเฮือก เขาคงต้องเตือนมูนรูฟแต่น้องชายจะเชื่อฟังเขาหรือเปล่านี่แหละคือปัญหา
รถสปอร์ตสีดำของมูนรูฟแล่นออกนอกเส้นทางที่รถมินิบัสนำไป มูนรูฟต้องการอยู่เพียงลำพังกับแคทลีนจึงไม่ไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ เขาพานางแบบสาวในฝันไปที่ทะเลทรายซึ่งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองเกือบร้อยกิโลเมตร แคทลีนตื่นตากับภูเขาทะเลทราย มูนรูฟบอกกับหล่อนว่า
“มีพายุทะเลทรายบ่อยแต่มาไม่ถึงที่นี่ จะเกิดกลางทะเลทรายมากกว่า ที่คุณเห็นเป็นภูเขาลูกย่อม ๆ นี่ ช่วยกันพายุได้ดีครับ”
“ฉันเคยเห็นแต่ในทีวี ในหนังแต่ไม่เคยเห็นของจริง เพิ่งเห็นวันนี้เองค่ะ”
“ไปสัมผัสดูหน่อยมั้ยครับ”
“ค่ะ” หล่อนไม่รอให้เขาส่งมือมาจูงมือหล่อนให้ก้าวไปเหยียบพื้นทะเลทราย หล่อนวิ่งถลาราวกับเด็กน้อยที่เห็นสิ่งของถูกใจอยู่ตรงหน้า ลมพัดแรงสะบัดเส้นผมสีน้ำตาลของหล่อนปลิวไสว อากาศในยามนี้คลายความหนาวเหน็บลงไปครึ่งหนึ่ง หล่อนถอดเสื้อโค้ชขนแกะสีขาวออกแล้วโยนขึ้นกลางอากาศ สายลมหอบเสื้อตัวหนาปลิวไปปะทะใบหน้ามูนรูฟ เขารับไว้แล้วดึงออกจากใบหน้า กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเสื้อทำให้เขาชะงักครู่หนึ่งจึงยกเสื้อขึ้นแตะจมูก
เพียงแค่กลิ่นจากเสื้อก็ทำให้เขาหลงใหลนางแบบสาวเพิ่มมากเป็นทวีคูณทีเดียว เขายืนมองหล่อนเริงร่ากับผืนทรายกว้างใหญ่สุดลูกตาแล้วอมยิ้ม หากเขาไม่ใช่มูนรูฟ ลูกชายมหาเศรษฐีโมอาร์ เขาจะมีโอกาสเช่นนี้หรือเปล่า เขายิ้มมากขึ้นเมื่อก้าวยาว ๆ ตามหล่อนไปสัมผัสผืนทะเลทรายเบื้องหน้า
กว่ารถมินิบัสคันหรูจะพากลุ่มของนางแบบและผู้จัดการส่วนตัวมาถึงทะเลทราย มูนรูฟก็พาแคทลีนไปจากที่นั่นแล้ว เขาพาหล่อนย้อนกลับมาที่ฟาร์มเลี้ยงแกะ พาไปดูวิธีการตัดขนแกะและนำขนเหล่านั้นผ่านการฆ่าเชื้อและนำส่งโรงงานทอเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตให้เป็นเส้นใยเพื่อทอออกมาเป็นเนื้อผ้าที่พร้อมจะตัด เขาไม่ได้พาหล่อนไปดูวิธีการเหล่านั้นเพราะเวลาของหล่อนน้อยเกินไป
แคทลีนนั่งนิ่งเงียบขณะรถพาหล่อนกลับเข้าในตัวเมืองอีกครั้งแต่คนขับรถกิตติมศักดิ์ไม่ได้พาหล่อนกลับบ้าน เขาพาหล่อนชมเมืองเล็ก ๆ ของเขาและพาแวะทานอาหารเลิศรสที่เขาเคยมาทาน จากนั้นพาหล่อนช้อปปิ้งซึ่งหล่อนเพียงแค่เดินดูเท่านั้นไม่เลือกซื้อของถูกใจสักชิ้น เขามองหน้าหล่อนแล้วขมวดคิ้ว
“คุณไม่ชอบหรือ ทำไมไม่ซื้อของสักชิ้น” เขาถามเมื่อหล่อนเดินผ่านร้านอัญมณีที่หล่อนหยุดยืนมองอยู่เพียงด้านนอกร้าน
“ชอบหลายชิ้นค่ะแต่ยังไม่ซื้อวันนี้ ใกล้ ๆ วันจะกลับฉันถึงจะซื้อค่ะ คุณพามาอีกครั้งได้มั้ย”