บทที่ 10 ผู้จัดการส่วนตัว
นางแบบสาวถอนใจเฮือกขณะก้าวพ้นอ่างอาบน้ำอย่างเสียดาย หล่อนอยากนอนแช่อยู่อย่างนั้นแต่เสียงเรียกของโจอิสันทำให้หล่อนต้องรีบดึงผ้าขนหนูพันรอบตัวแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
“เร่งอะไรกันนักหนาเจ๊ ข้าศึกบุกรึไง” หล่อนประชดแล้วเดินไปที่ผนังห้องกดปุ่มสีทองผนังที่ดูเรียบก็แยกออกจากกัน เสื้อผ้าแขวนไว้บนราวสีเงินเต็มช่องในผนังห้องเลื่อนเปิด โจอิสันชอบตู้เสื้อผ้าแบบนี้เพราะมองด้านนอกเมื่อผนังเลื่อนปิดแล้วก็มองไม่เห็นความแตกต่างของผนังว่าด้านในจะกลายเป็นตู้เสื้อผ้าได้อย่างไร
“เร่งสิยะ หล่อนใช้ห้องน้ำนานเกินไป ทำตัวเป็นเจ้าหญิงหลงใหลอ่างทิพย์ไปได้”
โจอิสันเหน็บแนมกลับมาแล้วเชิดหน้าเดินเข้าห้องน้ำ เลื่อนประตูจกปิด รูดผ้าม่านด้านในปิดอีกที แคทลีนค้อนไม่จริงจังนัก หล่อนเลือกเสื้อผ้าที่จะสวมไปท่องเมืองฮัสบาซิสกับชายหนุ่มรูปงามและร่ำรวยที่สุดในประเทศ หล่อนยิ้มขำ ๆ ตัวเอง ที่ทำตัวเหมือนเด็กสาวนัดเดทครั้งแรก นัดครั้งนี้สร้างความรู้สึกต่างจากครั้งก่อนที่หล่อนนัดชายหนุ่มทานอาหารแต่ไม่เคยประทับใจกับใครสักคนและไม่รู้สึกตื่นเต้นเช่นครั้งนี้
โจอิสันใช้เวลาอาบน้ำเพียงไม่กี่นาทีก็เดินชดช้อยออกมาจากห้องน้ำ เขามองนางแบบในสังกัดด้วยสายตาอิจฉา แคทลีนเลิกคิ้วสูงแล้วยกมือสองข้างแบ
“ทำไมยะ ฉันสวยเริ่ดใช่รึเปล่าถึงมองตาแทบถลนออกนอกเบ้าอย่างนั้น ไม่ต้องอิจฉาฉันเลยนะเจ๊ รีบแต่งตัวเหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบนาทีจะได้เวลานัดแล้วนะ”
“ก็ใครใช้ให้หล่อนครอบครองห้องน้ำนานอย่างนั้นล่ะยะ ทีอย่างนี้จะมาเร่งรึไง ฉันไม่เร่ง หล่อนอยากออกไปโชว์ความสวยก็ออกไปก่อน”
เขาสะบัดหน้าเดินไปที่ผนังทำทุกอย่างเหมือนที่แคทลีนทำ หญิงสาวยืนมองแล้วยิ้มขำ ๆ เวลาโจอิสันงอนน่ามองไปอีกแบบ เหตุผลมากมายที่หล่อนไม่โกรธโจอิสันจริงจังและมีเหตุผลอีกหลายอย่างที่หล่อนรักโจอิสัน ไม่ใช่ความห่วงใยที่เขามีต่อหล่อน ไม่ใช่ความเป็นผู้จัดการหางานให้หล่อนและไม่ใช่ที่เขายอมให้หล่อนกรี๊ดใส่เวลาโมโหแต่โจอิสันมีบางอย่างที่ผู้จัดการบางคนหรือเพื่อนบางคนไม่มี
“เจ๊โจ ทำไมค้อนสวยอย่างนี้ล่ะ ฉันทำตามไม่สำเร็จสักครั้ง แนะนำได้มั้ย บางทีฉันจะเอาไปทำกับชายหนุ่มที่นัดฉันวันนี้” หล่อนแกล้งชมให้โจอิสันหายโกรธ
“ไม่มีทางย่ะ ของใครก็ของมัน เรื่องแบบนี้สอนกันไม่ได้ ขอบอก”
เจ๊โจหันมาตอบแล้วหันไปปิดผนัง เขาถอดเสื้อผ้าต่อหน้าหญิงสาวโดยไม่มีความรู้สึกเขินอาย ก่อนจะสวมชุดใหม่ซึ่งแคทลีนก็ชินกับความเป็นชายเพียงรูปร่างของผู้จัดการปากร้ายคนนี้แล้ว
“เจ๊ ไม่แต่งหน้าหน่อยหรือ วันนี้คุณฟูลาซน่าจะไปเที่ยวด้วยนะ”
“ฉันไม่เหมือนหล่อนนี่ยะ พระเจ้าประทานความสวยให้หล่อนแต่งเพียงนิดเดียวก็เริ่ดแล้ว แต่ฉันเมคอัพหน้านิดก็ดีนะช่วยฉันหน่อยสิยะ เร็ว ๆ”
แคทลีนหัวเราะแล้วเดินเข้ามาช่วยทาลิปสติกที่ปากหนาให้มีสีชมพูอ่อน ปัดหน้าให้ดูเรียบเนียนแต่ไม่น่าเกลียดสำหรับคนผิวคล้ำอย่างเขา
“สวยแล้วเจ๊ ได้เวลานัดพอดี” หล่อนเปิดกระเป๋าถือหย่อนตลับแป้ง ลิปสติกและอีกหลายชิ้นลงเก็บ รูดซิปปิด คว้าหูกระเป๋ายื่นให้ผู้จัดการส่วนตัว
“ป่านนี่คุณมูนรูฟรอแล้วเจ๊ เร็ว ๆ” หญิงสาวเดินไปที่ประตูโดยไม่หิ้วกระเป๋าถือใบเล็กติดมือเช่นทุกครั้ง กระเป๋าถือใบเขื่องของโจอิสันเป็นกระเป๋ารวมของหล่อนไปแล้ว กระเป๋าสตางค์ เครื่องสำอางของหล่อนกับของผู้จัดการใช้รวมกันและของใช้จุกจิกจำเป็นก็อยู่ในนั้นด้วย
มูนรูฟรออยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน แขกคนอื่น ๆ เดินลงจากบ้านไปรอที่รถแล้ว นางแบบสาวคนเดิมที่ควงมูนรูฟออกไปเต้นรำ ชำเลืองมองแคทลีนด้วยสายตาที่ไม่พอใจเท่าไรนักแต่หล่อนไม่กล้าเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม โจอิสันเห็นสายตาของหล่อนก็พอจะรู้ว่าหล่อนชอบมูนรูฟมากเพียงใดแต่ลูกชายคนรองของโมอาร์สนใจแคทลีน โจอิสันยิ้มหยันที่มุมปาก
เมื่อลงสนามแล้วโจอิสันก็ต้องเชียร์นางแบบของตนไม่ว่าจะมีผลการแข่งขันออกมาเป็นเช่นไรก็ต้องเชียร์แบบสุดใจกันทีเดียว การเที่ยวชมเมืองวันนี้โจอิสันต้องใช้ริมฝีปากหนาทำงานเพื่อนางแบบปากจัดของเขาแล้วละ
“คุณมิชาเอลครับ มองอะไรหรือครับ อ๋อ.สนใจนางแบบของผมหรือครับ แม่คนนี้น่ะเสน่ห์แรง ไปเดินโชว์ที่ไหนเจ้าของงานต้องเทคแคร์สุดฤทธิ์เลยครับ”
“อ๋อเหรอ งานนี้ก็คงหว่านเสน่ห์สุดฤทธิ์เหมือนกันใช่มั้ยคะ” นางแบบต่างเมืองเหลือบมองมูนรูฟที่กำลังยิ้มกับแคทลีน โจอิสันมองตามแล้วยิ้มยั่ว