บท
ตั้งค่า

บทที่1.จบตอน

เมื่อยี่สิบห้าปีก่อนตอนนั้นเขาอายุเจ็ดขวบแต่เขาจำทุกอย่างได้แม่นยำ วันนั้นรถที่นั่งพวกเขาพ่อแม่ลูกนั่งมาด้วยกันถูกกลุ่มคนร้ายดักซุ่มโจมตี แม่ของเขาเสียสละชีวิตของตนเองรับกระสุนแทนเขากับพ่อในขณะหนีออกจากรถที่พลิกคว่ำ แต่แม่ก็สังหารพวกมันได้หลายคนเพื่อสกัดกั้นและถ่วงเวลาไม่ให้คนร้ายตามเขากับพ่อไปได้ เขาหันกลับไปมองแม่ด้วยความตกใจกลัวและห่วงหาก็เห็นภาพพวกมันถล่มยิงแม่จนร่างระหงงดงามของท่านจมกองเลือด แต่ในที่สุดพ่อก็พาเขาหนีรอดมาได้พวกเขาสองพ่อลูกซมซานโซเซไปในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ของฟาร์มแห่งหนึ่งนอกเมืองบาเลนเซียซึ่งไม่มีใครรู้จักพวกเขา พ่อของเขาถูกยิงบาดเจ็บและเสียเลือดมากด้วยความเป็นเด็กเขาก็ร้องไห้ไปตลอดทางแม้ไม่มีเสียงคร่ำครวญแต่น้ำตาลูกผู้ชายก็ไม่หยุดไหลเสียที ทั้งกลัวว่าตนจะเสียพ่อไปอีกคน จนในที่สุดเขาก็ไปถึงโรงนาแห่งหนึ่งและได้พบกับแม่ของอูโก้ แม่ของอูโก้เป็นคนสวยและแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดตามสไตล์สาวลาตินอเมริกาซึ่งขัดกับสถานที่ที่เธออยู่มาก พอเห็นเขากับพ่อเธอรีบเข้ามาช่วยเหลือโดยไม่ห่วงสภาพของตัวเองและช่วยโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาเป็นใคร เพราะเห็นสภาพของพวกเขาแล้วเธอก็คงพอจะรู้ว่าพวกเขาคงจะหนีการตามล่าของแก๊งไหนสักแก๊ง ซึ่งมันอาจจะทำให้เธอเดือดร้อน แต่ ซาร่า ก็ช่วยเหลือเขากับพ่ออย่างไม่กลัวว่าจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน เขายังจำคำพูดของซาร่าในวันนั้นได้ดี

ฉันเป็นโสเภณีไม่มีค่าพอที่ใครจะใส่ใจอยู่แล้ว จะอยู่หรือตายก็มีค่าเท่ากันแต่อย่างน้อยหากฉันได้ช่วยเธอกับพ่อ ตัวฉันก็คงจะพอมีค่าบ้าง.. นั่นคือคำพูดของเธอซึ่งทำให้ลีโอนาร์ดซาบซึ้งและเข้าใจคำว่า คุณค่าของคนจากซาร่านี่เอง...

แม้จะรู้ว่าตนเองเข้ามาพัวพันกับเรื่องที่อาจจะนำพาความเดือดร้อนมาให้แต่ซาร่าก็ช่วยเหลือพวกเขาจนพ่อของเขาหายดี พ่อกับซาร่าเผลอมีความสัมพันธ์กันประสาน้ำมันกับไฟและความเศร้าโศกที่สูญเสียหญิงอันเป็นที่รัก แต่แม่ของอูโก้ไม่ได้เรียกร้องอะไรถึงแม้จะรู้ว่าพ่อของเขาเป็นใครและร่ำรวยมากแค่ไหน เธอเจียมตัวแล้วอยู่ห่างๆ พวกเขา แม้พ่อจะพยายามพาเธอเข้ามาในบ้านและยกย่องออกหน้าออกตาก็ตามแต่ซาร่าก็ยืนยันที่จะใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดาๆ แม่ของอูโก้เลิกอาชีพหญิงบริการนับตั้งแต่มีความสัมพันธ์กับพ่อของเขา ขอใช้ชีวิตอย่างสงบที่โรงนานั้นพร้อมทั้งตั้งท้องอูโก้ นอกจากแม่ของเขาแล้วลีโอนาร์ดรู้ว่าพ่อรักแม่ของอูโก้มาก ซึ่งเขาก็ไม่เคยขัดขวางเพราะซาร่ามีพระคุณกับเขาและพ่อ ที่สำคัญเธอเป็นคนดีไม่เคยหลงใหลในทรัพย์สมบัติของพ่อ

หลังจากนั้นไม่นานพ่อก็วางมือทุกอย่างให้เขาเป็นคนดูแลเมื่อเขาเรียนจบมหาวิทยาลัย พ่อไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับซาร่า พวกท่านมีความสุขตามประสาและให้อูโก้เข้ามาอยู่กับเขาที่คฤหาสน์หลังงามโดยไม่เคยคิดปิดบังฐานะของอูโก้ว่าเป็นใคร แต่อูโก้ขอให้เขาบอกกับทุกคนว่าเขาเป็นเพียงเด็กยากจนคนหนึ่งซึ่งพ่อของเขาอุปการะไว้เท่านั้น แต่ก็นั่นล่ะอูโก้กับแม่นิสัยเหมือนกันไม่มีผิด อูโก้กับแม่ไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ จากเขากับพ่อเลย หากไม่ได้ลงมือทำด้วยตัวเองอูโก้จะไม่เรียกร้องอะไรเกินความจำเป็นนอกจากเรื่องเรียนและเรื่องงาน...

“ผมบอกแล้วว่าไม่อยากได้อะไรแบบนี้ ภาระพวกนี้มันเยอะเกินไปไม่เหมาะกับผมหรอกผมอยากเป็นชาวสวนชาวไร่เหมือนพ่อกับแม่มากกว่า”

“แต่ก็มีทั้งสวนทั้งไร่ จะหลบไปใช้ชีวิตสงบๆ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากไม่ได้แก้แค้นให้แม่ฉันก็ยังวางมือจากสิ่งที่ถืออยู่ไม่ได้แม้พวกที่เหลือมันจะถูกฉันจัดการไปแล้ว แต่นายใหญ่ของมันยังอยู่ฉันมั่นใจ..”

“ผมเข้าใจ แต่เราก็ยังไม่รู้เลยว่าคนที่ฆ่าแม่คุณมันเป็นคนของใครกันแน่ เราอาจจะถูกยืมมือฆ่าคน”

“นั่นล่ะคือสิ่งที่ฉันคิดจึงไม่ลงมือเสียทีไงล่ะ ความแค้นของฉันมันอัดแน่นมานานฉันจะสะสางมันให้สิ้นซาก”

“ผมสงสัยนายเอริค”

“ทำไมนายคิดว่าเป็นเขา”

“หรือว่าคุณลีโอไม่สงสัย”

“ก็สงสัย.. แต่ยังไม่มีหลักฐาน วันที่แม่ถูกพวกมันถล่มยิงจนจมกองเลือดฉันยังจำได้ติดตาและยังฝันร้ายมาจนทุกวันนี้.. คนที่ลงมือถูกฆ่าปิดปากไปหมดแล้ว ฉันเลยไม่รู้จะสืบค้นตรงไหนก็ได้แต่เฝ้ามองคนรอบๆ ตัวพ่อ เพราะคิดว่ามันต้องมีคนในเป็นหนอนแน่ๆ ไม่อย่างนั้นมันจะรู้ได้ยังไงว่าเราจะไปไหนกันจึงได้ตามไปถูกและวันนั้นสัญญาณโทรศัพท์ก็ถูกตัด เบรกรถมีปัญหา..”

ลีโอนาร์ดกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อูโก้จึงเดินไปตบไหล่พี่ชายต่างแม่เบาๆ

“อย่าห่วงไปเลย ไม่นานเราจะแก้แค้นให้สำเร็จ”

“ขอบใจนะอูโก้ แต่จะให้ดีเรียกฉันว่าพี่ชายจะทำให้รู้สึกดีกว่า อย่างน้อยๆ ฉันก็ไม่รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว”

“เอาไว้ถึงวันที่ผมทำอะไรให้คุณสำเร็จเสียก่อนเถอะ ผมจึงจะพูดคำนั้น” อูโก้พูดยิ้มๆ

“ผมมีข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจจะให้ดูด้วย..” แล้วอูโก้ก็วกเข้าเรื่องที่ตนสงสัยอีกครั้ง..

“เฟื่องฉันมีเรื่องจะบอกว่ะ” อารียาเดินหน้ายุ่งมาหาเพื่อนรักที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูปอย่างสนุกสนานกับเอเลน่า

“มีอะไรเหรอแก”

“ป๊าบอกว่าม้าไม่สบายตอนนี้ส่งโรงพยาบาลแล้วรอดูอาการอยู่ ฉันคงต้องกลับก่อน”

“ถ้างั้นฉันกลับด้วย”

“ไม่ต้องหรอกแก แกตั้งใจจะมาแล้ว อีกอย่างม้าก็ยังไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนป๊า พี่โมกข์เองก็เพิ่งไปทัวร์ที่ดูไบ ฉันคงต้องกลับไปก่อน ถ้ามีอะไรร้ายแรงฉันจะโทร. บอกแกละกัน”

“เอาอย่างนั้นเหรอ” เฟื่องลดาเองก็เป็นห่วงม้าของเพื่อนรักอยู่เช่นกัน

“อื้ม.. แกอุตส่าห์เก็บเงินเพื่อมาที่นี่ อีกอย่างแกก็จ่ายเงินไปหลายบาทแล้วก็ควรอยู่เที่ยวให้คุ้ม อย่าให้ปัญหาของฉันทำให้แกหมดสนุก” อารียาบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเมื่อเห็นหน้าเศร้าๆ ของเพื่อน

“ไม่เป็นไรน่าแก มันไม่ได้ร้ายแรงหรอก ม้าแค่ไม่สบายโรคประจำตัว เพียงแต่ตอนนี้ป๊ากับม้าอยู่กันแค่สองคน ฉันไม่ไว้ใจคนอื่น ลูกจ้างพวกนั้นก็ให้เขาดูแลงานที่บ้านไป เกรงใจเขาหากจะต้องมาทำงานเพิ่มเป็นสองเท่า”

อารียาบอกเหตุผล อารียาเป็นคนมีน้ำใจกับคนอื่นเสมอขนาดลูกจ้างในบ้านก็ยังกลัวว่าพวกเขาจะทำงานหนัก เฟื่องลดาก็เพิ่งเคยเจอคนแบบนี้และคิดว่ามีไม่กี่คนหรอกที่คิดแบบอารียา

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจแก”

“เอเลน่าจะดูแลอย่างดี อย่าห่วงเลย”

“ฉันดูแลตัวเองได้ เพราะจะเกาะเอเลน่าแจเลยทีเดียวฮ่าๆ”

เฟื่องลดาพูดให้เพื่อนได้ยิ้มหัวบ้าง อารียาหัวเราะเบาๆ และเชื่อว่าเฟื่องลดาเอาตัวรอดได้ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยห่วง

“ฉันห่วงหนุ่มๆ แถวนี้มากกว่าจะห่วงแกเสียอีก”

“ย่ะ แล้วนี่จะไปตอนไหน เดี๋ยวบ่ายๆ ก็จะไปเลยฉันให้พี่โมกข์จองตั๋วให้แล้ว กลับไปเก็บของที่โรงแรมก่อน”

“ถ้าอย่างนั้นฉันไปช่วยแกดีกว่า เที่ยวต่อไม่สนุกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” แล้วทั้งสามสาวก็กลับไปโรงแรมและไปส่งอารียาที่สนามบิน

เฟื่องลดากลับมาที่โรงแรมและพักผ่อนตามปกติแม้จะเหงาๆ ที่ไม่มีเพื่อนรักอยู่ด้วยแต่เอเลน่าก็สัญญาว่าจะมานอนกับเธอที่โรงแรมเฟื่องลดาจึงคลายความกังวลไปได้บ้าง วันรุ่งขึ้นสองสาวก็ออกไปเที่ยวตามโปรแกรมที่วางไว้ ซึ่งวันนี้เอเลน่าพาเธอไปเที่ยวบาเซโรน่า..

“ว้าว.. ที่นี่สวยจังเลยเอเลน่า เหมือนดินแดนในเทพนิยายเลย”

เฟื่องลดาอุทานอย่างตื่นเต้นหมุนกายไปรอบๆ สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของยุโรปโบราณและสถาปัตยกรรมอันงดงามมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง บ้านเรือนและผู้คนก็ยิ้มแย้มแจ่มใสสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ใครหลายๆ คนหลงใหลเมืองงดงามแห่งนี้

“ใช่ค่ะ ที่นี่เป็นเมืองที่สวยงามและนักท่องเที่ยวจะพลาดที่นี่ไม่ได้ แวนด้าไปชอปปิงมั้ยคะ แถวนี้มีร้านของฝากเยอะแยะเลยนะคะ”

“ไปเลยค่ะ แล้วก็ช่วยเตือนสติเฟื่องด้วยนะคะว่าอย่าช้อปเพลิน ฮ่าๆ”

หญิงสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินชมเมืองและชอปปิงอย่างสนุกสนาน และไม่ลืมที่จะเก็บข้อมูลต่างๆ ไปด้วย ตามประสาคนช่างจดช่างจำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel