ตอนที่ 1 เด็กสาวผู้คลั่งรัก (2)
“เธอเข้าไปทำอะไรในนั้น” ไตรทศถามเสียงเข้ม เมื่อตนเองเดินขึ้นมากลับพบว่าเขมิกาเปิดประตูออกจากห้องนอนของคนเป็นพ่อ
“ขวัญเอายาก่อนนอนไปให้คุณลุงค่ะ” เด็กสาวตอบเสียงแผ่วพลางก้มหน้า แต่ก็มีเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของไตรทศเป็นระยะๆ
“ทำไมต้องเอาไปให้” ไตรทศถามอย่างจับผิด เพราะพ่อของเขาไม่ได้ป่วยหรือไร้เรี่ยวแรง กะอีแค่ยาทำไมต้องให้คนอื่นเอาให้กิน
“ท่านลืมไว้ข้างล่างค่ะ พอดีคุณลุงเพิ่งไปรับยามาใหม่ ก็เลยยังไม่ได้เอาขึ้นไปไว้บนห้อง” เขมิกาอธิบายยาวเหยียดอย่างกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ แต่ถึงอย่างนั้นจากสีหน้าที่แสดงออกมา มันทำให้เธอก็คิดว่ายังไงเขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี
“กลับห้องเธอไปได้แล้ว” ไตรทศไล่ เพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับอีกฝ่ายให้มากความ พูดถามอะไร น้อยมากที่จะยอมรับ ปฏิเสธตลอด
ทว่าหญิงสาวกับยืนนิ่งคล้ายจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด “มีอะไรอีก”
“อะเอ่อ...คือขวัญมีการบ้านคณิตศาสตร์หลายข้อเลยที่ยังทำไม่ได้” เด็กสาวกลั้นใจบอกทั้งที่กลัวแสนกลัว ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ถามนายทศพลท่านก็บอกให้มาขอความช่วยเหลือจากไตรทศดู เพราะเรื่องเรียนชายหนุ่มถือว่าเก่งเอามากๆ
“ถามเพื่อนเธอสิ” ชายหนุ่มบอกปัดแทบจะทันที
“ถามแล้วค่ะ แต่ไม่มีใครทำได้เลย” เด็กสาวตอบเสียงแผ่ว
“อินเทอร์เน็ตไง มือถือใช้ให้เป็นประโยชน์สิ เสิร์ชหาเอาก็ได้ อยากรู้อะไรมีหมดนั่นแหละ”
“แต่มันก็ไม่เข้าใจเหมือนมีคนอธิบายนี่คะ” เขมิกาแย้ง และไม่ทันที่ไตรทศจะย้อนคืน เสียงจากคนข้างในห้องก็ดังขึ้น
แน่นอนเพราะตอนนี้เขาและเธอยืนเถียงกันอยู่หน้าห้องของคนเป็นพ่อ
“ไตร! ”
เพียงแค่นี้ เจ้าของชื่อก็รู้แล้วว่าจะต้องทำตามที่หญิงสาวตรงหน้าร้องขอ แม้จะไม่เต็มใจ แต่ถ้าคนเป็นพ่อรู้เมื่อไหร่ว่าเขาไม่ทำตามละก็ โดนบ่นยาวสามวันแปดวันไม่จบ
ดูแลน้องหน่อย...
ใจดีกับน้องหน่อย...
น้องเป็นเด็กกำพร้านะ ไม่สงสารน้องเลยหรือไง...
ประโยคเหล่านี้ต้องมีไม่น้อยกว่าสามรอบในการบ่นแต่ละครั้ง นอกจากจะไม่ทำให้เขารู้สึกว่าเด็กสาวน่าสงสารแล้วยังพานไม่ชอบใจไปด้วย และเมื่อโตขึ้นมาเห็นพฤติกรรมที่ชอบเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดคนเป็นพ่อจนเกินไปของเขมิกา บอกได้คำเดียวว่า
รังเกียจ...
“ไปรอที่ห้องละกัน” ชายหนุ่มบอกแค่นั้นก็เดินผละออกไปที่ห้องของตัวเอง
“ค่ะ” เขมิการับคำเสียงแผ่ว เงยหน้าขึ้นแอบปรายตามองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปพลางอมยิ้มอย่างดีใจ ไม่คิดว่าเขาจะยอมสอน ถึงแม้มันจะเพราะนายทศพลก็เถอะ “ต้องไปเตรียมตัว” เด็กสาวบอกตัวเองก่อนจะรีบวิ่งปรู๊ดเข้าห้องปิดประตู จากนั้นก็รีบเปิดตู้เสื้อผ้า ตอนแรกว่าจะเปลี่ยนเป็นชุดไปรเวท แต่มันไม่ใช่เวลายังไงก็ดูไม่เนียน ดังนั้นชุดที่พอจะเปลี่ยนได้คือเปลี่ยนชุดนอน ต้องเป็นชุดที่คิดว่าใส่แล้วสวยและปัง