๗ ไม่ยินดีให้เธอเริ่มใหม่ (๒)
หมายมาดอยากได้เป็นลูกเขยซะด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าเขาเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง
“กำลังจะไปทำงานเหรอครับ ให้พี่ไปส่งนะ” ไม่ใช่แค่วันนี้วันเดียว แต่เกือบทุกครั้งที่เขาว่างมักจะไปส่งหล่อนถึงหน้าบริษัทเสมอ หรือตอนเย็นก็รอรับกลับบ้าน ยิ่งทำให้เธอเกรงใจมากกว่าเดิม เพราะความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่ายเป็นเพียงพี่น้องเท่านั้น
และดูท่าว่ามันจะไม่พัฒนาไปมากกว่านี้
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวปลายไปเองดีกว่า ให้พี่ไปส่งทุกวันก็เกรงใจ อีกอย่างกลัวติดเป็นนิสัยด้วย” บอกอย่างเกรงใจแต่เขาก็ยังคะยั้นคะยอ อุตส่าห์ว่างไม่ได้บินจึงอยากบริการเพื่อเรียกคะแนนให้ตัวเอง
พอจะดูออกว่าหล่อนยังไม่ลืมคนรักเก่า แต่เขาสามารถรอได้ จนกว่าจะถึงวันที่เราใจตรงกัน
“พี่ยินดี...ให้พี่ไปส่งนะ” จังหวะที่คิดจะบอกปัด กลับมีรถยนต์ที่คุ้นตาแล่นมาจอดหน้าบ้านพอดี หัวใจดวงน้อยกระตุกจำเลขทะเบียนได้ขึ้นใจ เธอจึงเลือกเบี่ยงหน้าหลบทันทีเมื่อได้สบดวงตาคมที่จ้องมองอย่างเอาเรื่อง
ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาทำไมแต่เช้า ทั้งที่หายหน้าหายตาไปเกือบสามเดือน ไม่เคยโผล่มาให้เห็นเลยสักครั้ง!
“จะไปทำงานเหรอ” หล่อนแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าเขากำลังพูดด้วย ร่างบางค่อยผินหน้ามองเพื่อนของพี่ชายที่เป็นแฟนเก่า โกรธตัวเองที่ดันหวั่นไหวกับคนที่ไม่มีใจให้กัน เพียงแค่เห็นใบหน้าคมก็อยากโผเข้ากอด แต่ต้องกำหมัดแน่นข่มอารมณ์เอาไว้
“พี่ฌาร์ม...” ละเมอเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา
กองปราบมองคนตรงข้ามนิ่ง รับรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล พาลให้นึกไม่ชอบคนตรงหน้าไปด้วย แววตาคมที่ฌาร์มจ้องมา และอาการของปริณดาที่เปลี่ยนไป
เขาไม่ชอบสักนิด...
“มาหาพี่ต้นเหรอคะ” เหตุผลเดียวที่คิดออกคือเขามาหาพี่ชายตน ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะมาหาเธอได้หรอก
คิดอย่างขมขื่นแล้วฝืนยิ้มให้คนตรงหน้า ถึงจะโหยหาแค่ไหนก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว...
“ใช่” เลือกตามน้ำทั้งที่อยากบอกว่าไม่ ร่างสูงถึงกับก่นด่าตัวเองในใจ ไม่รู้ทำไมถึงไม่กล้าบอกเธอตามตรง ในวันที่มั่นใจว่าคิดอย่างไรกับหล่อน
“พี่ต้นอยู่ในบ้านค่ะ...รบกวนพี่ปราบไปส่งปลายหน่อยนะคะ” พูดกับฌาร์มจบก็หันมาค้อมศีรษะให้กองปราบ แล้วเดินไปเปิดประตูรถตำแหน่งเบาะหน้าข้างคนขับ สร้างความดีใจให้แก่หนุ่มข้างบ้านเป็นอย่างมากจนต้องยิ้มแฉ่ง
“ครับ!” รีบเดินอ้อมไปอีกฝั่งแล้วเคลื่อนรถออกจากหน้าบ้านต้นตระการ โดยมีสายตาคมมองตามด้วยความไม่ชอบใจ
แต่ทำได้เพียงกำหมัดแน่น
ค่อยเดินกลับไปที่รถยนต์แล้วขับเข้าไปในรั้วบ้านหลังใหญ่ อารมณ์ขุ่นมัวจนแสดงออกทางแววตา แม่บ้านที่ออกมาต้อนรับไม่กล้าจะสบดวงตาคมด้วยซ้ำ
ช่วงเช้าที่แม้กระทั่งลูกชายคนโตของบ้านต้นตระการเพิ่งลงมาจากด้านบน กลับพบเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่โซฟาห้องรับแขก มาโดยไม่บอกกล่าวสักคำ เล่นเอาถึงกับตกใจ ต้องเดินเข้ามาทักทายแล้วพาดเสื้อสูทไว้ที่พนักโซฟา
“มาหาฉันแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่า”
“แค่ผ่านแถวนี้เลยแวะมาหา ไม่ได้หรือไง ต้องมีธุระด้วยเหรอถึงจะมาได้” ตวัดสายตามอง รู้สึกถึงความร้อนระอุไปทั่วร่างกาย พยายามจะหายใจเข้าออกระงับโทสะ แต่พอคิดว่าปริณดาเลือกผู้ชายคนอื่นแทนที่จะเป็นเขาก็ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม
“ไปกินรังแตนมาจากไหน มาๆๆ กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิ พ่อกับหม่าม้าไปต่างจังหวัดอีกสองสามวันกว่าจะกลับ กินข้าวคนเดียวแล้วมันเหงา” ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นฌาร์มโกรธ แต่ครั้งนี้แสดงออกชัดเจนจนนึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
ทว่าต้นเดือนฉลาดพอจะไม่ถามตอนนี้ เพราะรู้ดีว่าอย่างไรเพื่อนก็คงไม่ตอบ จึงรีบจูงกึ่งลากคนตัวสูงกว่าไปที่ห้องรับประทานอาหาร ซึ่งมีแม่บ้านจัดโต๊ะไว้คอยท่าลูกชายคนโตของบ้าน ส่วนลูกสาวห่อไปกินที่ทำงานเรียบร้อย
“นี่ปลายไปทำงานแล้วเหรอ” เลื่อนเก้าอี้แล้วเห็นแม่บ้านจัดอาหารสำหรับสองที่ คือตนกับฌาร์มที่จำต้องเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม
“ไปแล้ว” ตอบเสียงห้วน
“รู้ได้ไง...รถยังจอดอยู่ที่โรงรถอยู่เลย” ชะโงกหน้าไปดูที่โรงจอดรถ ยังเห็นพาหนะของน้องสาวจอดอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไปไหน
“ไปกับคนที่ชื่อปราบ” แค่ได้ยินชื่ออีกฝ่ายออกจากปากจิ้มลิ้มก็ร้อนรุ่มในทรวง ไม่มีความอยากอาหาร ทำเพียงมองข้าวต้มกุ้งด้วยสายตาว่างเปล่า
“อ้อ แฟนใหม่” ต้นเดือนแอบยิ้มเมื่อมองอาการของเพื่อนสนิท รีบตักข้าวต้มรับประทานเพื่อกลบเกลื่อนรอยยิ้มของตัวเอง แล้วสุมไฟให้คนไม่ยอมรับความจริงร้อนรุ่ม เผื่อจะยอมเดินหน้าทำอะไรบ้าง หลังจากปล่อยผ่านเรื่องทุกอย่างมาสามเดือน
“แฟน!” คราวนี้คนที่นิ่งรีบเงยหน้ามองอีกฝ่าย ดวงตาคมฉายแววเอาเรื่องเต็มที่ จนต้องรีบอธิบายก่อนตนจะโดนชุดใหญ่
“โทษๆ ไม่ใช่แฟนสิ ต้องเรียกว่าเข้ามาจีบ แล้วดูท่าจะไปได้ดีด้วยนะ ทุกวันนี้มาฝากตัวกับพ่อกับม้าจนท่านรักเอ็นดู ฉันเองยังอดชื่นชมไม่ได้เลย บ้านเขาก็มีที่หลายร้อยไร่ ส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศ แต่เขาทำงานเป็นนักบินเลยไม่สะดวกอยู่ต่างจังหวัด”
ยิ่งฟังก็ยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิม มือหนาคว้าน้ำมาดื่มจนหมดแก้วเพื่อดับความร้อนในทรวง ดวงหน้าบึ้งตึงกับปากหยักที่เรียบตรง บ่งบอกถึงความไม่ชอบใจ จ้องต้นเดือนนิ่งเหมือนเป็นการบอกให้หยุดพูดสักที
“ฉันไม่ได้อยากรู้”
เจ้าของบ้านยิ้มขำกับท่าทีหึงหวงของฌาร์ม นานทีปีหนจะได้เห็นสักครั้งต้องแกล้งให้เข็ด หลังจากปล่อยน้องสาวของเขารอมาตลอดหลายเดือน ตอนนี้คงรู้ซึ้งแล้วว่าปริณดาไม่ใช่ของตาย ยังมีชายต่อแถวรอจีบอีกเพียบ
“ก็แค่บอกไว้เฉยๆ จะทำอะไรก็รีบทำซะ” ตักอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับแนะนำด้วยความหวังดีกับคนที่ไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง
ไม่รู้จะรอฤกษ์ทำไม เดี๋ยวก็มีคนคาบไปกินก่อนหรอก
“สามเดือนแล้วนะ...ยังไม่รู้ใจตัวเองอีกเหรอ” เมื่อเห็นว่าฌาร์มยังเงียบ จึงเลือกเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
รองประธานบริษัทแลนด์ฟู๊ดนิ่งทันที...
สามเดือนที่ผ่านมาใช่ว่าเขาจะไม่อยากเข้าหา แต่เพราะงานที่รัดตัว ทั้งยังโปรเจคอีกมากมายจนต้องพุ่งความสนใจไปที่งาน เพิ่งมีเวลาว่างได้ลองทบทวน แล้วพบว่าตนคิดถึงปริณดามากเพียงใด ตอนที่เผลอละเมอเรียกหญิงสาวทั้งที่อยู่ตัวคนเดียว
นอนคลุมโปงห่มผ้าอยู่บนเตียงกว้าง คว้าหมอนข้างมากอดเอาไว้แล้วบอกคนที่เคยนอนกกกอดกันยามค่ำคืน โดยลืมไปว่าหล่อนไม่ได้อยู่ที่นี่
“ปลาย พี่หนาวเพิ่มแอร์หน่อย” ดวงตาคมยังคงปิดสนิท พึมพำบอกกับความว่างเปล่า ก่อนจะรู้ตัวแล้วลืมตาตื่น มองพื้นที่ว่างข้างเตียง ค่อยก้มดูหมอนข้างใบนิ่ม...
ไม่ใช่ปริณดา
ร่างสูงถอนหายใจแล้วพลิกกายหันหลังให้ความว่างเปล่า คว้ารีโมทมากดเพิ่มอุณหภูมิแล้วกล่อมตัวเองให้หลับ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังไม่สามารถเข้าสู่ห้วงนิทราได้ จึงเลือกลุกมาดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้ตัวเองหลับสักที
‘ชุดนอนของปลาย’ เปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดที่จะใส่ไปทำงาน กลับเจอชุดนอนของหญิงสาวแขวนอยู่ที่เดิม ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่าคิดถึงหล่อนมากแค่ไหน มือหนาเอื้อมไปลูบผ้าลื่น แล้วรีบผละออกพลางปิดตู้เสียงดังเหมือนต้องการเตือนตัวเองไม่ให้คิดถึง
หักห้ามใจ...ทั้งที่ตอนนี้เริ่มมีหล่อนเข้ามาวนเวียนในหัวใจแทนที่ภรรยาเก่า
“อยากกินแซนวิชไส้อะไร...” ยามเช้าที่เร่งรีบแต่เขาเลือกเข้าครัวมาทำแซนวิช เผลอพูดกับอากาศอีกครั้งเมื่อคิดว่าหญิงสาวนั่งมองอยู่หลังเคาร์เตอร์ ทว่าพบเพียงความว่างเปล่าเช่นเดิมจนหมดอารมณ์จะทำอาหาร
เลือกเดินออกจากห้องนอนของตัวเองทันที ความทรงจำของเราเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่เขาคิดว่าตัวเองไม่ค่อยได้ใช้เวลากับหล่อนเยอะ
แต่พอลองมาคิดดูแล้ว...เหมือนจะมีแค่ปริณดาที่พยายามเข้าหาและขอใช้เวลาร่วมกัน
เป็นเธอตลอดที่เริ่มก่อน
“ไก่หนึ่งชุดกับเบียร์สองกระป๋องนะคะ” ขับรถผ่านร้านที่เธอเคยแข่งดื่มแอลกอฮอล์จนได้รางวัลเป็นไก่หนึ่งกล่องและเงินรางวัลหนึ่งพันบาท ไม่รู้อะไรดลใจให้เลี้ยวไปจอดหน้าร้าน แล้วเดินเข้าไปสั่งของกินหน้าตาเฉย
พนักงานทวนเมนูอีกครั้งตอนที่ดวงตาคมเหม่อมองออกไปหน้าร้าน คิดถึงรอยยิ้มหวานยามที่เธอแข่งชนะ ปริณดาแทบจะกระโดดจนตัวลอย จนเขาเผลอยิ้มไปด้วย
“ครับ” พยักหน้าแล้วจ่ายเงินทันที
ความคิดถึงกำลังทำงานอย่างหนัก และเขาเชื่อว่ามันคือความผูกพันถึงจะอยู่ด้วยกันเพียงแค่สองเดือน รักของหล่อนค่อยซึมลึกเข้ามาในใจของเขา
บ่วงนั้นค่อยรัดแน่น จนในที่สุดฌาร์มก็รู้หัวใจตัวเองสักที...ว่ารักเธอมากแค่ไหน
“ฉันไปทำงานนะ” เลือกจะลุกยืนเต็มความสูง ไม่ยอมแตะอาหารตรงหน้า ทำเพียงดื่มน้ำเปล่าจนหมดแก้ว
“ไม่กินข้าวด้วยกันหรือไง อ้าว...ไม่มีธุระแล้วจะมาหาทำไมวะ” ตะโกนไล่หลังคนที่เดินออกไปโดยไม่อธิบายอะไรสักอย่าง ต้นเดือนถึงกับเกาศีรษะพลางพึมพำกับตัวเองเสียงเบา
ถูกจี้ใจดำเข้าหน่อยทำเป็นฟังไม่ได้...
สมน้ำหน้า!