บท
ตั้งค่า

๗ ไม่ยินดีให้เธอเริ่มใหม่ (๑)

ไม่ยินดีให้เธอเริ่มใหม่

สมองของเขาขาวโพลน ไม่คิดว่าจะถูกปริณดาบอกเลิก ตลอดระยะเวลาที่คบกันหล่อนกระตือรือร้นและบอกรักเขาตลอด แม้กระทั่งไม่กี่วินาทีก่อนหน้า แววตาของหญิงสาวก็ยังคงมีแต่ความรัก จนฌาร์มต้องหาเหตุผลให้ตัวเองว่าทำไม

หรือหล่อนกำลังอ่อนไหวในช่วงเป็นประจำเดือน

ประมวลผลด้วยความร้อนรน แต่ท่าทีที่แสดงออกกลับนิ่งเฉยจนร่างบางยิ้มสมเพชตัวเอง แม้แต่ตอนนี้หล่อนยังมีความหวังว่าเขาจะรั้ง...

“เพราะ เพราะพี่ไม่ยอมบอกรักปลายเหรอ” เธอยิ้มขมขื่น ส่ายศีรษะทันทีพร้อมเฉลยทุกอย่างให้อีกฝ่ายทราบ

พยายามมาตลอดที่จะรั้งเขาไว้ อยากให้หัวใจของฌาร์มมีตนสักที แค่เศษเสี้ยวของหัวใจก็ได้ ทว่าเขาฝังใจกับรักครั้งเก่ามากเกินไป

มากจนไม่มีพื้นที่ให้เธอแทรกเข้าไปได้เลย...

“เปล่าค่ะ เพราะพี่ไม่ได้รักปลายต่างหาก” ส่ายศีรษะ ข่มอารมณ์ก่อนจะตอบตามความจริง

กลืนก้อนสะอื้นแล้วข่มใจไม่ให้พูดตะกุกตะกัก กำมือที่วางไว้หน้าตักแน่นเมื่อเขาไม่ปฏิเสธ ชายหนุ่มทำเพียงจ้องหน้าหล่อโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำ ปริณดารีบเช็ดน้ำตาอีกครั้งเมื่อมันไหลไม่หยุดอย่างน่าโมโห

อยากเข้มแข็งมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนแอจนระงับความอ่อนไหวไม่ได้

“ปลายไม่อยากให้พี่ต้องนอนในรถหลายชั่วโมง โหมงานหนักเพื่อเป็นข้ออ้างไม่ต้องมาอยู่กับปลาย ทนอึดอัดใจทุกครั้งตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ปลายไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว...” รู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว เมื่อมันไหลลงมาไม่หยุดจนสะอื้นตัวโยน

หญิงสาวหยิบกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตา ภาพวันที่เขานอนในรถยังชัดเจนในใจ ไม่อยากรั้งคนที่ไม่รักเอาไว้อีกแล้ว

แม้ว่าเธอจะรักเขามากแค่ไหนก็ตาม

“แต่ว่าพี่...” ฌาร์มพยายามอธิบาย

การคบหาครั้งนี้แม้เกิดจากความรับผิดชอบแต่พอได้อยู่ด้วยกัน เรียนรู้นิสัยใจคอ มีบางอย่างในตัวหล่อนที่เขาไม่ชอบ ซึ่งมันก็เป็นปกติสามารถปรับแก้ได้ กลับกลายเป็นว่าเริ่มชินที่มีปริณดาอยู่ข้างกายไปซะแล้ว

เขาไม่แน่ใจว่ามันคือรักหรือเปล่า...

ความรู้สึกไม่เหมือนเดิมกับครั้งแรกที่พบหล่อน มันกำลังจะพัฒนาแต่กลับถูกหญิงสาวตัดรอน

“ปลายเข้าใจว่าพี่ทำทุกอย่างเพื่อรับผิดชอบกับเรื่องคืนนั้น แต่ปลายไม่ต้องการจริงๆ ค่ะ พี่กลับไปใช้ชีวิตของตัวเองเถอะนะ ปลายก็จะกลับไปเป็นปลายคนเดิมเหมือนกัน ช่วงแรกมันอาจจะเจ็บหน่อย แต่อยู่ไปก็ชินเอง พี่ฌาร์มไม่ต้องห่วงนะ”

บอกเขาทั้งน้ำตาโดยที่ไม่รู้ว่าหัวใจที่ผุพังจะถูกซ่อมจนกลับมาเป็นปกติได้เมื่อไหร่ เขาคือรักแรกของเธอ คนในความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือน ต่อให้ห่างกันไปนานแค่ไหน กลับมาเจออีกครั้งก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม

มองดวงหน้าคมให้เต็มตาอีกครั้ง เลือกจะรวบรวมความกล้าทั้งหมดของตัวเอง เดินไปจากชีวิตของฌาร์ม ไม่ว่าจะเจอเขาที่ไหนก็คงพยายามเลี่ยงเพื่อรักษาแผลใจ

“ปลายจะบอกคนอื่นเองว่าเราเลิกกันเพราะหมดรักแล้ว” ร่างสูงนิ่งเงียบไม่ยอมเอ่ย หล่อนคงไม่รู้ว่าเขากำลังตีกับตัวเองหนักแค่ไหน มือหนากำแน่นชั่งใจว่าควรรั้งหญิงสาวไว้ดีหรือเปล่า ทั้งที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกตอนนี้

รักปริณดาหรือยัง ...

“ขอ ขอให้พี่โชคดี เจอคนที่พี่รักอย่างจริงใจเร็วๆ นะคะ” อวยพรทั้งที่เจ็บเจียนตาย เธอลุกยืนเต็มความสูง หล่อนอยู่ในชุดราตรีสีเลือดหมูเปลือยไหลเปิดแผ่นหลัง ผมยาวดัดลอนปล่อยสยายกลางแผ่นหลัง แต่งตัวสวยเพื่อมาบอกลาคนตรงหน้าในวันนี้

“ปลายจะไม่กินอะไรก่อนเหรอ” รีบถามเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินออกไป

“ไม่ค่ะ...ปลายไปก่อนนะ” ยิ้มให้เขาครั้งสุดท้าย แล้วรีบปาดน้ำตาออกอย่างรวดเร็วเมื่อมันยังคงไหลไม่หยุด กำลังจะหันหลังเดินลงไปข้างล่าง แขนเรียวกลับถูกคว้าเอาไว้ เหมือนชายหนุ่มกำลังกลั่นแกล้งเธอ

“พี่ไปส่ง” เขาขันอาสา ในขณะที่เธอไม่ต้องการ

ถ้าเปลี่ยนเป็นคำว่าอย่าไป...มันคงดีกว่านี้

“ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวปลายกลับเองสะดวกกว่า ขอตัวนะคะ” ปลดมือหนาออกแล้วรีบเดินไปยังลิฟต์เพื่อลงไปข้างล่างให้เร็วที่สุด พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้สุดความสามารถแต่ก็ทำไม่ได้สักที

สุดท้ายก็ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม จนคนที่อยู่ในลิฟต์ค่อยเหลือบมองแล้วรีบหันกลับทันที ถึงจะสงสารหญิงสาวแสนสวยคนนี้ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

เมื่อประตูกล่องโดยสารเปิด หล่อนรีบก้าวเท้าให้เร็วที่สุดเพื่อออกไปข้างนอก รู้ดีว่าคงขับรถไม่ได้จึงเลือกนั่งแท็กซี่

“น้องปลาย...” เธอมองแทบไม่เห็นทางข้างหน้า แต่ถูกรั้งไว้ด้วยเสียงที่คุ้นเคย พอเหลียวไปมองก็พบชายหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ในชุดไปรเวท ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอกันที่นี่

“พี่ปราบ” หล่อนทักเขาแล้วรีบเช็ดน้ำตา ฝืนยิ้มให้คนตรงหน้าจนดูพยายามมากเกินไป

กองปราบเดินกึ่งวิ่งมาหาหล่อนด้วยรอยยิ้ม เขานัดเพื่อนมาพูดคุยสังสรรค์ที่รูฟท็อปบาร์ แต่ดูเหมือนตอนนี้คงจะไม่ได้ขึ้นไปแล้ว เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งคราบน้ำตา จนต้องถามด้วยความเป็นห่วง

ลืมเรื่องที่จะทักชมว่าหล่อนสวยกว่าทุกวันทันที

“เป็นอะไรครับ ร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ ขอตัวนะคะ” รีบส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเดินหนี ดวงตาคมยังมองตามด้วยความเป็นห่วง พอเห็นว่าหล่อนจะเรียกแท็กซี่จึงรีบวิ่งมาคว้าแขนเรียวเอาไว้ เอ่ยอาสาด้วยความเต็มใจ

“ไม่ได้เอารถมาเหรอ...ให้พี่ไปส่งนะ พี่กำลังจะกลับบ้านพอดี ยังไงก็ทางเดียวกัน” เลือกโกหกคำโตเพื่อจะได้ไปส่งปริณดา หากให้หล่อนกลับเองก็เป็นห่วง อย่างน้อยกลับด้วยกันเธอก็ปลอดภัย

“รบกวนด้วยนะคะ” คนตัวเล็กนิ่งคิดไปสักพัก จ้องมองเขาอย่างใคร่ครวญ เจอกันไม่กี่ครั้งไม่รู้จะเชื่อได้หรือเปล่า

ทว่าสุดท้ายก็ตอบรับเมื่อมองเห็นฌาร์มที่กำลังเดินตรงมาทางนี้ หล่อนรีบคว้าแขนเขาเหมือนเป็นการบังคับให้พาเดินไปที่รถ คนไม่รู้เรื่องยิ้มกริ่มมีความสุข สงสัยต้องแอบส่งข้อความไปบอกเพื่อนซะแล้วว่าคงถึงช้า

เพราะต้องไปส่งสาวในดวงใจกลับบ้าน...

รองประธานบริษัทแลนด์ฟู๊ดยืนนิ่งอยู่หน้าโรงแรม มองเห็นแฟนสาวที่กลายเป็นเพียงอดีตขึ้นรถไปกับชายอื่น เผลอกำหมัดโดยไม่รู้ตัว อยากตามไปแต่เท้าก็หนักเหลือเกินจนทำได้เพียงมองตามท้ายรถที่แล่นไปไกล

“เฮ้อ...”

ขนาดเขายังไม่รู้ว่ารักหรือเปล่า แล้วจะไปขอร้องให้หล่อนอยู่ข้างกายได้อย่างไร

บางทีให้เวลาตัวเองเพื่อเรียนรู้หัวใจก็ดีเหมือนกัน...

ผ่านไปเพียงหนึ่งวัน ห้องทำงานของรองประธานบริษัทแลนด์ฟู๊ดก็มีคนมาเยือน ต้นเดือนที่ร้อยวันพันปีจะมาหาเขาสักครั้งนั่นเอง ดวงหน้าคมเรียบเฉย มองแขกที่มาไม่บอกกล่าวนั่งลงฝั่งตรงข้าม

กลับมาโสดอีกครั้งทั้งที่เพิ่งมีแฟนได้สองเดือน เสื้อผ้าของหล่อนยังอยู่ในตู้ของเขา พอจะหยิบเอาไปเก็บก็ตัดใจแล้วเลือกแขวนไว้ที่เดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตนเองจึงทำเช่นนั้น เพียงแค่รู้สึกไม่อยากให้มันโล่ง

นั่งไตร่ตรองกับตัวเองทั้งคืนว่าจะเอาอย่างไรกับความสัมพันธ์ของเรา มั่นใจว่าเธอยังรักตนแต่ที่ไม่แน่ใจคือความรู้สึกของตัวเองต่างหาก

ถ้ากลับมาคบกันอีกครั้ง...มันจะลงเอยที่การเลิกราไหม

บางครั้งสิ่งที่เขาต้องการคือเวลา เพื่อทบทวนให้ดีว่าหัวใจดวงนี้ยังคงมีรักเก่า หรือลบญาดาออกไปจนหมด รอต้อนรับคนใหม่

“ได้ข่าวว่านายเลิกกับน้องสาวฉันแล้วเหรอ” คำถามแรกทำให้เขาชะงัก แต่ก็ต้องตอบตามความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“อือ ปลายเป็นคนขอเลิก” พอได้ฟังอย่างนั้นถึงกับผงะ

ปริณดาที่หลงรักฌาร์มมาตลอด ลมหายใจเข้าออกมีแต่เพื่อนของเขาน่ะหรือจะเป็นฝ่ายบอกเลิก มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน

เมื่อคืนกลับถึงบ้านก็รีบขึ้นห้องไม่พูดจากับใคร ตอนรับประทานอาหารเช้าด้วยกันถึงยอมบอกว่าเลิกกับแฟนแล้ว เล่นเอาคุณรุ่งรดาเกือบเต้นเป็นเจ้าเข้าถามถึงเหตุผล พอได้คำตอบว่าหมดรักก็ยิ่งสร้างความสงสัยให้ต้นเดือนจนต้องถ่อมาถามเพื่อนถึงบริษัท

“ยัยปลายเนี่ยนะบอกเลิกนาย”

“เขาบอกว่าฉันไม่ได้รักเขา” คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก็ได้แต่กุมขมับ เขาปล่อยให้เธอพูดอยู่คนเดียวโดยไม่อธิบายอะไรสักอย่าง

จนทำให้หญิงสาวเข้าใจไปว่าไม่รัก...

“แล้วนายตอบว่ายังไง” ต้นเดือนมองหน้าคนตรงข้ามแล้วลุ้นกับคำตอบ คบกันมาหลายปีรู้นิสัยคนคิดเยอะดีว่าคงไม่เอ่ยปากบอกอะไร จนเรื่องราวบานปลาย

“ไม่ได้ตอบอะไร” ไม่ต่างจากที่คิดเอาไว้เท่าไหร่

ลูกชายคนโตบ้านต้นตระการถึงกับถอนหายใจด้วยความระอาปนสมเพช มองแววตาของฌาร์มก็ไม่ได้มีความสุขกับการเลิกรา ดูเหมือนจะอยู่ในห้วงอารมณ์เศร้าโศกด้วยซ้ำ เป็นถึงขนาดนี้ยังมาบอกว่าไม่ชอบปริณดาอีก

ถ้าไม่ติดที่สนิทกับอีกฝ่ายจนรู้นิสัยใจคอ คงได้วางมวยกันสักหมัดแล้ว กล้าทำน้องสาวของตนร้องไห้สองรอบ...

“เฮ้อ ทำไมนายไม่บอกว่าชอบไปล่ะ ความรู้สึกกำลังพัฒนาก็บอกไปสิ จะเก็บเงียบไว้ทำไม” มีเพียงต้นเดือนที่พอจะเดาความรู้สึกของฌาร์มได้ ยิ่งขัดใจที่อีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไรแล้วปล่อยให้เรื่องราวเลยเถิดถึงขั้นนี้

พวกเขาคุยกันริมสระน้ำวันที่อีกฝ่ายไปรับประทานอาหารบ้านตน คล้ายว่าทุกอย่างกำลังไปได้สวย แม้พยายามจะรักแต่ก็รักโดยไม่รู้ตัว ทว่าเจ้าตัวกลับไม่แน่ใจในความรู้สึกซะอย่างนั้น

“ฉันยังไม่แน่ใจความรู้สึกของตัวเอง”

“ขอเวลาหน่อยไม่ได้เหรอ” บอกตามสิ่งที่ตนเองคิด อย่างน้อยก็อยากทบทวนให้มั่นใจแล้วค่อยลุยเดินหน้าอีกครั้ง

เชื่อว่าปริณดาคงยังไม่มีใครหรอก...

“เวลาน่ะขอได้ แต่คนที่จะไปขอโอกาสไม่รู้ว่าเขาจะรอหรือเปล่า...” คราวนี้ท่านรองฯ ถึงกับขมวดคิ้วมุ่น นิ่งฟังสิ่งที่ต้นเดือนต้องการจะเอ่ย เผลอกำหมัดโดยไม่รู้ตัวแล้วคิดถึงผู้ชายที่มารับหล่อนออกจากโรงแรม

“ไอ้หนุ่มข้างบ้านพอรู้ว่ายัยปลายโสดก็เดินหน้าจีบเต็มที่เลย ว่างเมื่อไหร่ไปรับไปส่ง ชวนไปเที่ยวอีกต่างหาก ขอบอกเลยนะเพื่อนว่านายต้องรีบค้นหัวใจตัวเองแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นน้องฉันอาจไม่รอนาย”

ที่แท้ก็เป็นเพื่อนข้างบ้านนี่เอง...

เธอเพิ่งรู้ว่าการเลิกกันสามเดือนของเราก็ไม่ได้ทำให้หัวใจแตกสลายจนตาย ปริณดายังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไปทำงานและกลับบ้านมานอน ไม่ค่อยออกไปสังสรรค์หรือเที่ยวกับเพื่อนเท่าไหร่ คลิปที่ว่าจะลงก็ปล่อยช่องร้างไว้อย่างนั้น

มุมานะทำงานจนแทบไม่มีเวลาให้ตัวเอง เพื่อลบภาพชายคนหนึ่งออกไปจากหัวใจ

สัปดาห์แรกหล่อนคิดว่าเขาอาจจะหาข้ออ้างมาบ้านต้นตระการ แต่พอผ่านไปสองสัปดาห์ยังคงไร้วี่แววของฌาร์มจึงเลือกตัดใจ ตัดขาดทุกอย่างไม่ว่าจะลบเบอร์ บล็อกไลน์ ลบเพื่อนในเฟซบุ๊ก ไม่อยากเห็นกระทั่งใบหน้าคม

เธอไม่ได้เกลียด...ถึงจะพยายามเกลียดเขามากแค่ไหนก็ตาม

แค่ไม่ต้องการให้หวนกลับไปคิดถึง

“น้องปลาย” เลือกจะเดินมาหน้าบ้านแล้วใช้รถสาธารณะเพื่อไปทำงาน ทว่ากลับมีหนุ่มข้างบ้านขับราชรถมาเกย

เขาเปิดประตูลงมาแล้วยิ้มกว้างให้เธอ กองปราบเป็นอีกคนที่ดีกับหล่อนเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งยังไม่ปิดบังความรู้สึก พยายามจะเข้ามาในชีวิตทั้งที่พอจะมองออกว่าหญิงสาวมีคนในใจ

แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้...

“สวัสดีค่ะพี่ปราบ” ยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม

สามเดือนที่ไร้เงาของฌาร์ม ก็มีหนุ่มนักบินอย่างกองปราบ ลิขิตสกุลอยู่ข้างกายตลอด เข้ามาในช่วงที่หล่อนเพิ่งเลิกกับคนรักพอดิบพอดี อัธยาศัยดีเข้ากับคนในบ้านต้นตระการได้ โดยเฉพาะคุณรุ่งรดาที่เอ็นดูหนุ่มข้างบ้านเป็นอย่างมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel