๕ คบเพราะรับผิดชอบ (๒)
“ไปหาพี่ฌาร์ม”
“มันเพิ่งมาส่งเมื่อกี้ไม่ใช่หรือไง”
“จะไปนอนห้องพี่ฌาร์มต่างหาก พรุ่งนี้มีงานเช้าบ้านเราขับรถไกล” ข้ออ้างฟังไม่ขึ้นสักนิด แต่ก็รู้กันดีว่าไม่อาจห้ามปรามได้ สิ่งที่ต้นเดือนทำคือตะโกนเตือนน้องสาวให้ระมัดระวัง อ้อยเข้าปากช้างขนาดนี้ใครจะคายทิ้ง
“เฮ้ยๆๆ ป้องกันด้วยนะโว้ย” ปริณดาโตแล้วจึงไม่อยากสอนให้รักนวลสงวนตัว สิ่งที่กังวลคือการมีอีกหนึ่งชีวิตก่อเกิดต่างหาก
“รู้แล้วน่า!” ตะโกนกลับค่อยเดินไปยังโรงรถ
ขับพาหนะที่จอดไว้หลายสัปดาห์ออกไปข้างนอก เธอไม่อยากห่างกับเขาแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ต้องการคิดทบทวนเรื่องใดทั้งสิ้น
สิ่งที่ควรทำตอนนี้คืออยู่กับฌาร์มให้ได้มากที่สุด...
ขับรถมาจอดใต้คอนโดมิเนียมตรงช่องวีไอพีของเพนส์เฮ้าส์ห้องเขา คิดว่าจะเห็นรถยนต์คันหรูของคนรักแต่กลับว่างเปล่า ทั้งที่เพิ่งไปส่งเธอกลับบ้าน เขาจะออกไปไหนอีก เธอไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรออกหาเจ้าของห้อง รอสัญญาณไม่นานปลายสายก็รับทันที
“ฮัลโหล พี่ฌาร์มออกไปไหนคะ ปลายมาหาที่ห้องไม่เจอ” เปิดประตูรถแล้วเข้ามารอด้านใน หูแนบกับโทรศัพท์ฟังสิ่งที่เขาพูดตลอดเวลา
‘พี่มีงานด่วน...น่าจะกลับดึก’ พอรู้อย่างนั้นจึงคิดจะเปลี่ยนเส้นทางเป็นบริษัทแลนด์ฟู๊ด แต่โดนรั้งเอาไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวปลายไปหา..”
‘ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้วล่ะ ปลายเข้าไปรอในห้องก็ได้ พี่จะให้นิติมาเปิดห้องให้เอง’ หล่อนนิ่งไปสักพักกำลังคิดว่าควรรอที่ห้องหรือขับรถไปหาเขาดี แต่ไม่อยากเป็นคนเรื่องมากในสายตาของฌาร์มจึงจำยอมรับปาก เดินเข้ามาด้านในคอนโดมิเนียมพร้อมกำชับเขาเสียงอ่อน
“ปลายรอนะ” พอได้อยู่ด้วยก็ยิ่งโหยหามากกว่าเดิม
ทางนิติคอนโดได้รับโทรศัพท์จากผู้เช่าเพนส์เฮ้าส์จึงพาหล่อนขึ้นไปด้านบน หญิงสาวใช้โอกาสนี้คิดว่าควรทำอะไรคั่นเวลาระหว่างรอคนรัก
“ตกแต่งห้องสวยๆ เนื่องในโอกาส...โอกาสอะไรดีนะ อือ ครบรอบหนึ่งเดือนที่เราเป็นแฟนกัน! เลิศ!” ปรบมือกับความคิดเข้าท่าของตัวเอง ทุกวันมีความหมายกับหล่อนเสมอจึงไม่อยากปล่อยผ่าน เมื่อเริ่มแล้วก็ต้องลงมือด้วยการสั่งของตกแต่งจากดิลิเวอรี่
ส่วนตนก็เข้าครัวเพื่อลองทำอาหารตามยูทูป ลองทำเมนูแสนง่ายดายอย่างไข่เจียวก็รู้สึกว่าจืดชืดและอมน้ำมันมากเกินไป
“ไม่อร่อยเลย...โทรสั่งดีกว่า” เลือกล้างจานและกระทะพร้อมทำความสะอาดห้องครัว สั่งอาหารจากร้านค้าสองถึงสามอย่างเพื่อฉลอง ตอนอยู่บ้านกับคุณพัชราภาเห็นว่าร่างสูงกินไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ส่วนมากจะเขี่ยข้าวเหมือนไม่อยากอาหาร
โดยหญิงสาวไม่รู้เลยว่า...วันนี้คือวันครบรอบแต่งงานของฌาร์มและภรรยาเก่า
ห้องที่เคยโล่งกลับถูกตกแต่งด้วยสายรุ้ง โต๊ะอาหารมีเชิงเทียนและอาหารจัดใส่จานวางไว้เป็นระเบียบ ใบหน้าหวานยิ้มกริ่มกับผลงานของตัวเอง ไม่ลืมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำแล้วค่อยเดินมานั่งเล่นที่ห้องรับแขก
เลือกจะเปิดดูช่องยูทูปของตัวเอง ไม่ได้ลงคลิปนานแล้วเพราะยุ่งกับงาน เวลาว่างก็ทุ่มเทให้ร่างสูงทั้งหมดจนไม่ได้ไปเที่ยวไหน มีแฟนคลับคอมเม้นเรียกร้องคลิปต่อไปเยอะมาก ทั้งที่คลิปล่าสุดคือเมื่อสามเดือนที่แล้ว
หญิงสาวเปลี่ยนไปดูซีรี่ส์ที่ตัวเองชอบเพื่อฆ่าเวลา เปลือกตาเริ่มหนัก ศีรษะโงนเงนจนสุดท้ายก็แพ้ความง่วงที่โจมตี เผลอหลับไปตอนที่นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนพอดี
เสียงลิฟต์ส่วนตัวเปิดพร้อมกับเจ้าของห้องที่เดินเข้ามาด้านใน แค่เห็นการตกแต่งห้องที่เปลี่ยนไปก็พรูลมหายใจหนัก ดวงตาคมฉายแววเหนื่อยล้าอยากล้มตัวลงนอน แต่ก็ตัดสินใจเดินไปหาแฟนสาวที่นอนหลับสนิทอยู่บนโซฟา
เหลียวมองโต๊ะอาหารที่ถูกจัดอย่างสวยงาม รู้สึกผิดที่ปล่อยหล่อนเอาไว้คนเดียวแบบนี้ จึงเลือกวางของทุกอย่างลงบนพื้น ช้อนร่างแบบบางขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวเพื่อพาเธอเข้าไปในห้องนอน
“อื้อ...พี่ฌาร์มเพิ่งกลับเหรอ” รู้สึกตัวตอนที่แผ่นหลังแตะเตียงกว้าง ค่อยลืมตาตื่นเพื่อมองดวงหน้าคม
“พี่ขอโทษที่กลับช้า โทรมาหลายรอบแต่ปลายไม่รับสาย นึกว่ากลับบ้านไปแล้วซะอีก” ลูบศีรษะมนโดยที่เธอซุกใบหน้าด้านข้างกับมือของเขาเพื่อหาความอบอุ่น จับมือหนาไว้อย่างนั้นไม่ยอมปล่อยพลางหลับตาพริ้มมีความสุข
“ปลายปิดเสียงโทรศัพท์ อีกอย่างก็หลับสนิทไม่รู้เรื่องเลย พี่กินข้าวมาหรือยัง หิวไหม...ปลายซื้อข้าวมาไว้แต่ตอนนี้น่าจะเย็นชืดหมดแล้ว ไม่เป็นไรเดี๋ยวอุ่นให้เอง” ถึงตาจะหลับแต่ก็ยังถามไถ่เขา อาการบอกว่าง่วงจนไม่อยากลืมตาแต่เธอก็พร้อมจะไปเตรียมทุกอย่างหากฌาร์มต้องการ
“ไม่ต้องหรอก นอนเถอะ อาบน้ำเสร็จพี่ก็จะเข้านอนเหมือนกัน” เขาเห็นว่าเธอเปลี่ยนเป็นชุดนอนที่เอามาทิ้งไว้ห้องตนหลายตัวค่อยถอนมือออกอย่างระมัดระวัง เสียงหวานค่อยแผ่วลงพร้อมกับร่างแบบบางซึ่งจมในห้วงนิทรา
“ค่ะ รีบมานะ”
เขามองเธอหลับค่อยเดินเข้ามาในห้องน้ำ ยกมือขึ้นลูบใบหน้าด้วยความเหนื่อยล้า ไม่รู้ว่าที่ทำอยู่ผิดหรือถูกกันแน่
“เฮ้อ...” การมีหล่อนอยู่ในชีวิตก็ไม่ได้แย่ เพียงแค่บางครั้งเขาก็รู้สึกว่ากำลังฝืนทำในบางสิ่ง
อย่างเช่นวันนี้ที่เลือกไปดื่มเหล้าย้อมใจให้วันครบรอบแต่งงานของตนกับรักแรก คิดจะลบญาดาออกไปจากหัวใจเพื่อเริ่มต้นรักกับปริณดาอย่างจริงจัง
ซึ่งมันควรจะเป็นแบบนั้นนานแล้ว...
ช่วงพักเที่ยงเป็นอันรู้กันว่าแฟนของท่านรองประธานจะมารับประทานอาหารด้วย เลขานุการจึงผายมือเชิญหล่อนเข้าไปในห้องทันที อาหารเต็มสองมือพอดีกับที่ฌาร์มเสร็จจากการเซ็นเอกสารใบสุดท้ายจึงลุกมาช่วยหล่อนถือของ
คำแรกที่ทักทายคือการเรียกชื่อของคนรักเสียงดังพร้อมเข้ามาออดอ้อนอย่างเคยชิน เงยหน้าเพื่อสบดวงตาคมพลางกระพริบตาปริบเพื่อให้เขายอมตกปากรับคำ
“พี่ฌาร์ม! วันนี้หม่าม้าชวนไปกินข้าวเย็นที่บ้านค่ะ ว่างหรือเปล่า” ตั้งแต่คบกันมามีไม่กี่ครั้งที่ไปรับประทานอาหารบ้านต้นตระการ
การที่คุณรุ่งรดาเอ่ยปากชวน มีหรือที่เขาจะปฏิเสธได้ จำต้องตกปากรับคำทันที
“ว่าง”
หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วจับมือหนามายังโซนรับแขก หยิบอาหารออกจากถุงแล้ววางเรียงไว้บนโต๊ะ หล่อนเป็นคนกินเก่งทั้งยังชอบกินหลายอย่างจึงซื้อมาเยอะหน่อย มีของชอบฌาร์มและของชอบตนเองอย่างล่ะครึ่ง
“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม วันนี้ปลายจะลงครัวทำให้กินเอง” เริ่มลงมือรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมกับถามถึงเมนูที่เขาอยากกินเป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้ปักใจชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง
อีกทั้งฝีมือการทำอาหารของปริณดาทุกคนต่างทราบเป็นอย่างดีว่าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง...
“ถ้าปลายลงครัวพี่คงไม่ได้กินหรอก” หยอกเย้าคนข้างกาย จนเธอต้องรีบแก้ไขให้ตัวเองดูดีขึ้นมาบ้างในสายตาเขา
“ง่า ดูถูกฝีมือ ขอบอกว่าตอนนี้ปลายพัฒนาแล้วนะ ไปเรียนทำอาหารมาได้สองสามอย่าง เป็นคนมีเสน่ห์ปลายจวักนะจะบอกให้” อวดอ้างทั้งที่ไม่ได้ทำอาหารเก่งสักนิด แค่ทอดไข่เจียวเมื่อวันก่อนยังกินไม่ได้จนต้องทิ้ง
ร่างสูงส่ายศีรษะระอาปนเอ็นดู เขาเลือกตักอาหารเข้าปากพร้อมกับพูดในสิ่งที่ตนเองคิด แต่เหมือนจี้ใจดำคนฟังเข้าเต็มๆ
“ทำไม่ได้ก็อย่าฝืนเลย” มือบางที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากกลับชะงัก ค่อยผินหน้าไปมองเขาว่าประโยคนั้นพูดถึงอาหารหรืออย่างอื่นกันแน่
เขาต้องการบอกอะไรเธอ...
“เดี๋ยวพี่ทำให้กินดีกว่า” เมื่อเห็นว่าหล่อนเงียบจึงรีบพูดต่อไม่ให้เกิดบรรยากาศชวนอึดอัด หญิงสาวจึงแย้มยิ้มพยักหน้า ความอยากอาหารเริ่มหมด จนต้องแสร้งหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์ทั้งที่ไม่มีข้อความเข้า
“โอเคค่ะ...ไว้เจอกันตอนเย็นนะพี่ฌาร์ม เอมไลน์มาบอกว่ามีงานด่วน ปลายกลับก่อนดีกว่า” ฝืนยิ้มให้เขาพลางวางช้อนส้อม หยิบกระเป๋ามาสะพายพร้อมโบกมือลาคนรัก โดยที่ฌาร์มไม่ได้สงสัยสักนิด เลือกจะยิ้มกลับ
“ครับ”
เพียงแค่เปิดประตูออกจากห้อง รอยยิ้มหวานก็พลันเปลี่ยนเป็นเรียบสนิท ถ้าฝืนอยู่ต่อเกรงว่าอาจจะร้องไห้ต่อหน้าร่างสูงจึงเลือกเดินออกมาเองดีกว่า จัดการกับความรู้สึกเพื่อจะได้เดินหน้าต่อกับความสัมพันธ์ของเรา
สักวันมันต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน...
‘ทำไม่ได้ก็อย่าฝืน หมายถึงเรื่องอาหารหรือความสัมพันธ์ของเรา’ คิดในใจแล้วรีบสะบัดศีรษะไล่ความฟุ้งซ่านทิ้ง
อย่างไรตอนนี้เขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ ถึงไม่รัก...อยู่ด้วยกันไปนานๆ ก็รักเองนั่นแหละ