9 เมื่อนางมารโคจรมาพบ 2
เขาไม่รู้เลยว่าน้ำตาลรู้สึกน้อยใจ เมื่อรู้ว่าผู้หญิงชื่อลีคืออดีตคนรักของเขา มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต กำลังหวนมาหาเขา
เธอเป็นแค่เพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีอะไรสักอย่าง ทุกสิ่งที่หามาได้ พี่ชายมอบให้ทั้งนั้น ทุกวันนี้ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ ไม่อาจยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้เลย
“ผู้ชายก็ต้องเลือกคนดีที่สุดสำหรับเขา เก่ง สวย รวย มีความรู้ดี เป็นที่ยอมรับของสังคม ส่วนเราต่ำต้อยมากเทียบกับผู้หญิงชื่อลีไม่ได้เลย”
ทุกข์ใจอย่างที่สุด หญิงสาวตัดสินใจที่จะถอยออกมา ไม่กล้าที่จะอยู่เคียงข้างกับสุวณิช เพราะกลัวความผิดหวัง
เมื่อเขาชวนไปรับประทานอาหารมื้อเย็นด้วยกัน เธอปฏิเสธทันควันเช่นกัน สุวณิชแปลกใจที่เธอไม่ยอมไปด้วย
“ทำไมล่ะ ร้านนี้น่านั่งมากเลยนะ”
“วันนี้น้ำตาลรู้สึกปวดศีรษะค่ะ อยากพักมากกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ไม่รบกวน แต่ไปส่งที่บ้านได้ไหมล่ะ”
“น้ำตาลกลับเองได้ค่ะ ขอบคุณมาก”
หญิงสาวยกมือไหว้ แล้วเดินออกไปจาบริษัททันที น้ำทองซึ่งแอบดูอยู่ ได้ออกมาจากที่ซ่อน มองเพื่อนด้วยความสงสัย
“มีอะไรวะ ทำไมน้องสาวเราถึงไม่ยอมออกไปดื่มด่ำกับบรรยากาศกลางคืนกับนาย”
“นั่นสิ เราเองก็แปลกใจเหมือนกันแต่ก็บอกว่าไม่ค่อยสบาย นายรีบกลับบ้านไปดูน้องดีกว่า”
“กลับได้ไง มีนัดกับลูกค้า รายนี้สำคัญมาก นายก็รู้นี่นา ยังไงก็เราเอาใจช่วยก็แล้วกันนะ”
เมื่อเพื่อนพูดออกมาอย่างนั้น สุวณิชได้แต่มองด้วยสายตาเศร้า ๆ ผิดหวังที่น้ำตาลไม่ไปด้วย บางทีเธออาจจะไม่สบายจริง หรือไม่อยากคบหากับเขากันแน่
ความรักที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ช่างกัดกร่อนหัวใจให้ว้าวุ่นอย่างที่สุด ไม่อาจอยู่เฉย ๆ อีกต่อไป ออกไปเที่ยวตามลำพัง บางทีการได้อยู่ตัวคนเดียว จะทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่านี้ก็ได้
น้ำตาลเดินไปตามทางเท้าของตลาดกลางคืนแห่งหนึ่ง ความเศร้าในใจ ทำให้เธอแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เผลอปล่อยให้ไหลออกมา แต่ก็แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น พยายามกลืนลงไปจนแห้งเหือด กลัวคนเห็นแล้วจะอายเขา
เธอเดินก้มหน้าโดยไม่ดูว่าข้างหน้ามีอะไร และชนโครมเข้าให้กับใครบางคนที่เดินสวนมาพอดี
“ว้าย ! ขอโทษค่ะ”
เมื่อชนแล้ว หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจ และขอโทษคนที่ชน ขณะเดียวกันเคนจิโร่ตัวเอียงไปเล็กน้อย แต่คว้าแขนสาวสวยร่างบางเอาไว้
เนื้อนิ่ม ๆ หน้าตาตื่น ๆ น่ารักอย่างที่สุด เธอมีความแตกต่างจากสีวลีราวกับอยู่คนละขั้ว
“ไม่เป็นไรครับ ผมช่วย”
ชายหนุ่มจับร่างงามให้ยืนตรง แล้วปล่อยแขน น้ำทองตะลึงต่อรูปร่างหน้าตาของชายหนุ่ม หุ่นดี มีกล้ามเด่นชัด หน้าตาเขาไม่เหมือนคนไทย แต่พูดภาษาไทยชัดเจน
“ขอโทษอีกครั้ง ฉันเดินโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ”
“ฉันขอโทษอีกครั้งค่ะ”
ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะรู้สึกเขินต่อดวงตาคมกริบ มองราวกับจะให้ร่างลุกไหม้ เคนจิโร่จึงเดินตาม เมื่อรู้ว่าสาวน่ารักอาย เขาชอบผู้หญิงแบบนี้ ไร้จริตมารยา ไม่กร้านเหมือนสีวลี อยากที่จะทำความรู้จักให้มากไปกว่านี้
“ผมชื่อเคน เคนจิโร่ ขอโทษที่แนะนำตัวเองก่อน ราวกับคนไร้มารยาท แต่ผมอยากรู้จักคุณ ผมถือคติว่า ถ้าอยากรู้จักใคร หรืออยากทำอะไรที่ไม่ผิด ควรที่จะทำ เพราะชีวิตคนเราสั้น ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง”
“คุณกล้าดีนะคะ งั้นฉันชื่อน้ำตาล”
“หวานมากครับ”
“อะไรนะคะ”
“ทั้งชื่อและหน้าตา ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่พูดออกมาจากใจจริง ขอข้อมูลส่วนตัวด้วยผมอยากรู้จัก นี่ครับของผม”
เขายื่นนามบัตรให้แก่น้ำตาล และลุ้นว่าเธอจะต้องติดต่อมาหา
“อูว์ เป็นเทรนเนอร์ฟิตเนสด้วย”
“ครับ ว่าง ๆ เชิญไปออกกำลังกาย ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะดูแล ผมชอบคนรักษาสุขภาพ ไม่ใช่กินแล้วนอนจนอืดเป็นหมู”
“ปากร้ายเหมือนกันนะคะ เอาเป็นว่า ฉันจะติดต่อไปหาคุณเอง”
ชายหนุ่มมองตามร่างงามที่กำลังจะเดินจากไป มีความรู้สึกว่า เหมือนหัวใจหลุดลอย พึงใจต่อสาวสวยที่ชื่อน้ำตาลมาก ต้องการที่จะสานความสัมพันธ์ไปให้ไกลกว่านี้ หวังแต่เพียงว่าเธอคงจะยินดีที่จะรับไมตรีจากเขาบ้าง
“น้ำตาล เดี๋ยวก่อนครับ”
“มีอะไรคะ”
สาวสวยทำหน้าฉงน แปลกใจที่เขายังคงตามติด และเรียกชื่อเธอ แม้รู้ว่าเขาต้องการที่จะสร้างสัมพันธ์ให้เพิ่มยิ่งขึ้น แต่เธอก็ยังกั๊กเอาไว้ ในฐานะเป็นผู้หญิง และเป็นครั้งแรกที่บอกชื่อตัวเองกับผู้ชาย