บ่วงรักแห่งซาตาน
บทย่อ
ลูกคือโซ่ทองคล้องใจของการใช้ชีวิตคู่ระหว่างหญิงชาย แม้ว่ามีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น แต่ลูกก็คือบ่วงที่ทำให้เขาและเธอไม่อาจแยกจากกัน
1 พี่ณิชสามีทิพย์แห่งมโนภาพ
“เกือบสองปีสองวันแล้วที่เรารู้จักกัน ทำให้ฉันรู้สึกดี ๆ ต่อคุณ พี่ณิช”
น้ำตาลเขียนไดอะรีบันทึกเกี่ยวกับความรู้สึกของตนเองในแต่ละวันลงไปในไดอะรีปกผ้าไหมสีชมพูหวาน เธอจำได้ว่า ตั้งแต่รู้จักกับสุวณิช ซึ่งเป็นเพื่อนของน้ำทอง ผู้เป็นพี่ชายของเธอ ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเขาเพิ่มมากขึ้น
ทุกครั้งที่ได้สบตากับสุวณิช หรือ เธอเรียกสั้นๆ ว่าพี่ณิช หัวใจเหมือนว่าหวั่นไหว คล้าย ๆ จะหลุดออกมาจากอก
เนื้อตัวร้อนวูบวาบ รับรู้ถึงเลือดในกายวิ่งพล่าน เพราะมีความเสน่หาในตัวเขาอย่างแรงกล้า เธอเก็บเอาเอาไปวาดวิมานแสนหวาน ร่วมเสน่หาในยามค่ำคืน โดยเธอถูกเขากอดจูบลูบไล้ไปทั่วทั้งเรือนร่าง
ริมฝีปากรูปกระจับร้อน ๆ ที่บดขยี้ลงบนปากของเธอนั้นเร่าร้อนเสียจนเธอซาบซ่าน และวูบไหวหวั่นเมื่อเขาคลึงนิ้วแล้วเกาะกุมอยู่บนหน้าอกอูมที่ปราศจากเสื้อผ้า
ความร้อนรุ่มเพิ่มดีกรีแรงกล้ามากยิ่งขึ้น เมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากลงมาซุกไซ้ที่คอขาวผ่อง ปากค่อย ๆ ดูด แล้วจรดลิ้นไล้เบา ๆ
ลิ้นเขานั้นช่างร้ายกาจ ทำให้เธอสะดุ้ง และเกร็งตัว เมื่อเขาตวัดไล้ไปมาอยู่ที่ยอดหน้าอกที่ตูมเต่งจนชูชัน
หน้าอกข้างหนึ่งถูกมือคลำแล้วเคล้น ส่วนหน้าอกอีกครั้งเป็นที่จับจองของริมฝีปากและลิ้นที่ละเลงอย่างชำนาญการ
เพียงเท่านี้หญิงสาวที่ไม่ประสีประสาเรื่องเพศตรงข้ามก็ถึงกับเกร็งตัวแล้วร้องครวญครางอย่างมีความสุข
“อา พี่ณิชขา น้ำตาลมีความสุขที่สุด”
เธอเผลอร้องครางกับเกมรักแบบมโนกลางอากาศ และสร้างวิมานแห่งความสุขต่อไปอีกว่า เขาขยับตัวขึ้นมาทาบทับแล้วเอาสำคัญเข้าไปในร่างกายของเธอ เพื่อหล่อหลอมเป็นคนเดียวกัน
น้ำตาลหายใจหอบแรงกับความสุขที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง เธอหลับตาพริ้มกับความสุขแบบวาดฝัน โดยสุวณิชเป็นผู้บรรจงเสพสุขตามความคิดของเธอ
น้ำตาลต้องการแบบไหนเธอก็มโนโลกีย์ขึ้นมา ตั้งแต่เริ่มต้นจวบจนจบ ซึ่งก็สร้างความสุขแก่เธอจนหายใจหอบถี่ ไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เธอเอาสุวณิชเป็นสามีทิพย์
สำหรับน้ำตาลแล้วรู้ว่าผู้ชายคนนี้ ทำให้เธอหวั่นไหวมากที่สุด จนแทบไม่กล้าที่จะสบตาด้วย เมื่อเห็นสุวณิชมาที่บ้าน เธอจะเลี่ยงหลบไปอยู่ในครัว
กระทั่ง....
เขาเป็นฝ่ายมาหา และชวนพูดคุยด้วยความสนิทสนม และเขาพยายามที่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ โดยทำเหมือนเป็นความบังเอิญ แต่สัญชาตญาณความเป็นหญิง บอกให้รู้ว่า เขาจงใจ
เมื่อรู้ดังนั้นก็อดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ ว่าเขาสนใจเธอแล้ว
จากวันนั้นเป็นต้นมา น้ำตาลจึงซื้อไดอะรีหรือสมุดบันทึก เพื่อเขียนความรู้สึกต่าง ๆ ที่มีต่อสุวณิช
“ไอ้ณิชเป็นคนใช้ได้เชียวล่ะ”
น้ำทองเอ่ยขึ้น หลังจากสุวณิชขอตัวกลับ เมื่อคุยเรื่องโปรเจกต์งานชิ้นใหม่ที่ทั้งสองร่วมหุ้นกันทำ โดยทั้งคู่รับออกแบบสร้างบ้านให้กับลูกค้า และมีทีมงานตกแต่งภายใน ภายนอก ซึ่งน้ำตาลเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เธอเรียนจบคณะบัญชี จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แล้วมาช่วยงานของพี่ชาย จึงทำให้เธอกับสุวณิชมีความสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น
ในสายตาคนภายนอก คงคิดว่าสุวณิชเอ็นดูเธอเหมือนน้องคนหนึ่ง ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่ หญิงสาวรู้ดีว่า เขาคิดกับเธอมากกว่านั้น แต่ผู้หญิงเรียบร้อยอย่างเธอจะกล้าไปร้องแรกแหกกระเชอ บอกว่าผู้ชายคนนี้มีท่าทีกับตัวเองหรือ
ถ้าทำอย่างนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอายอย่างยิ่ง
“พี่ณิชไม่มีแฟนหรือคะ พี่น้ำทอง”
หญิงสาวเลียบเคียงถามพี่ชาย และทำท่าเหมือนไม่อยากรู้ แกล้งพูดไปอย่างนั้นเอง ทั้งที่ต้องการที่จะรู้ใจแทบขาด
“ตั้งแต่เห็นเขามาทำงานกับพี่ น้ำตาลเห็นเจ้านี่มีแฟนหรือเปล่าล่ะ”
“ไม่มีผู้หญิงเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าพี่ณิชยังไม่มีแฟน”
“เคยมี แต่ว่าผู้หญิงเลิกไปแล้วล่ะ เพราะผู้หญิงต้องการความก้าวหน้า ไปเรียนต่อเมืองนอกเพื่อกลับมารับตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น ตอนนี้รู้สึกว่าเป็นผู้จัดการภาคแล้ว”
“ผู้หญิงก็เหนือกว่าพี่ณิชสิคะ “
“ใช่ เพราะอย่างนี้ไง ณิชถึงตั้งใจทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำ ไม่สนใจผู้หญิงคนไหน เพื่อสร้างฐานะตัวเอง นี่ก็ได้งานใหญ่มาอีกชิ้นหนึ่ง ถ้าสำเร็จจะได้เงินสิบกว่าล้านเชียวนะ”