บทที่ 3
ลานสเก็ตน้ำแข็งซึ่งใหญ่ที่สุดใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งถูกสร้างอยู่บนพื้นที่ห้าไร่เศษใจกลางเมืองหลวงอันศิวิไลซ์ ที่มีชื่อว่า The World Of Ice Skate (เดอะเวิลด์ ออฟ ไอซ์ สเก็ต) คือสถานที่จัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปีพุทธศักราช 2544
บริเวณโดยรอบลานสเก็ตน้ำแข็งเต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย ที่เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อค้าขายสินค้าหลากหลายรายการ มีทั้งร้านอาหารหรูหรา ทั้งร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับชั้นนำมากมาย เรียกได้ว่านอกจากจะมาเล่นสเก็ตน้ำแข็งอันเป็นกีฬาโปรดของใครหลายๆ คนแล้ว ผู้ที่เดินทางมายังลานสเก็ตน้ำแข็งแห่งนี้ยังสามารถช้อบปิ้งเลือกซื้อสินค้าติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งอื่นให้เสียเวล่ำเวลาอีกหลายทอด
แต่สำหรับวันนี้พื้นที่ซึ่งเคยเป็นบริเวณขายสินค้า ถูกปรับแต่งให้เป็นลานจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของลานสเก็ตแห่งนี้ บรรยากาศในการจัดงานวันเด็กเป็นไปแบบล้ำสมัย มีการจำลองท้องฟ้า จำลองยานอวกาศและจำลองเครื่องบินรบแบบต่างๆ มาให้เด็กน้อยที่มาเที่ยวชมงานในวันนี้ได้ชื่นชมกัน
และนอกจากนั้น ผู้เป็นเจ้าของลานสเก็ตแห่งนี้ และเป็นเจ้าของสโมสร เดอะเวิลด์ ออฟ ไอซ์ สเก็ตได้เปิดลานสเก็ตให้เด็กๆ ได้เข้ามาเล่น เข้ามาสัมผัสกีฬาประเภทนี้ด้วย
และในวันนี้นักกีฬาสเก็ตระดับชาติชื่อดังหลายคน รวมทั้งนักกีฬาต่างชาติในสังกัดที่สร้างชื่อเสียงให้กับสโมสร อีกหลายสิบคนได้รับคำสั่งจากผู้เป็นเจ้านายให้เข้ามาดูแลเด็กๆ และพาเด็กๆ จากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเข้าไปเล่นกีฬาในลานสเก็ตตามความต้องการของเด็กน้อยเหล่านี้
ทันทีที่รถบัสทั้งสี่คันเคลื่อนตัวมาถึงบริเวณสโมสรแห่งนี้ เด็กน้อยทั้งชายและหญิงจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าต่างก็โผเข้ามาเกาะหน้าต่างรถ เพื่อมองความอลังการหรูหราใหญ่โตของสถานที่จัดงานวันเด็กที่พวกตนได้รับเชิญให้มาเที่ยวในวันนี้
“โอ้โห! ทำไมมันใหญ่โตจังเลย”
เด็กชายคนหนึ่งซึ่งเกิดมาเพิ่งเคยเห็นความสวยงามอลังการของสถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก อุทานออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ และเพื่อนคนอื่นๆ ก็มีอาการไม่ต่างจากเด็กชายคนนี้รวมทั้งกาญต์พิชชาด้วย เด็กหญิงเลือดผสมรีบโผเข้ามาเกาะหน้าต่างรถ ดวงตากลมโตดำขลับจ้องมองโดมหลังใหญ่ด้วยความตื่นเต้นอยากให้รถบัสจอดเทียบท่าในลานจอดรถเร็วๆ เพื่อตนเองและเพื่อนๆ น้องๆ จะได้ลงไปสัมผัสกับสถานที่แห่งนี้โดยเร็วไว
“แม่ทิพย์คะ พวกเราจะมาเที่ยววันเด็กที่นี่ใช่ไหมคะ”
ราวกับไม่มั่นใจในสิ่งที่ตนเองกำลังนึกคิดอยู่ในขณะนี้ กาญต์พิชชาจึงหันไปเอ่ยถามแม่ทิพย์เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองและเด็กน้อยอีกหลายๆ คน ซึ่งกำลังเงี่ยหูตั้งใจฟังคำตอบจากแม่ทิพย์ ด้วยตอนนี้เด็กๆ หลายคนเริ่มไม่มั่นใจเฉกเช่นกับกาญต์พิชชาว่าพวกตนจะได้มาเที่ยวในสถานที่แห่งนี้จริงหรือเปล่า เพราะผู้เป็นเจ้าของโดมหลังใหญ่โตซึ่งถูกสร้างอย่างหรูหรารายล้อมไปด้วยร้านรวงหรูหรามีระดับเหมาะสำหรับบรรดาไฮโซคนดังในสังคมชั้นสูงทั้งหลาย ไม่น่าจะให้การต้อนรับเด็กน้อยตาดำๆ ใส่เสื้อผ้ากลางเก่ากลางใหม่มอซอเหมือนพวกเธอทั้งหลาย
แม่ทิพย์คลี่ยิ้มอบอุ่นให้กับเด็กๆ เมื่ออ่านสายตาของเด็กน้อยเหล่านี้ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ และเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับเด็กๆ ทุกคน นางจึงเอ่ยตอบเสียงดังให้บรรดาลูกๆ ทั้งหลายได้ร้องเฮดังลั่นรถ
“วันนี้แม่ทิพย์จะพาเด็กๆ มาเที่ยวที่นี่ทั้งวันค่ะ”
เอ่ยตอบไปแล้วแม่ทิพย์ต้องหัวเราะออกเบาๆ พร้อมกับยกมือทั้งสองปิดใบหูตัวเอง เมื่อเด็กๆ ทุกคนต่างก็แข่งกันตะโกนออกมาด้วยความดีใจอย่างเหลือล้น พอคนขับรถบัสเคลื่อนรถมาจอดภายในลาดจอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กๆ ก็ทำท่าจะกรูลงจากรถไม่ต่างจากปูหนีลงจากกระด้ง หากไม่ถูกแม่ทิพย์ขึงตาห้ามปรามไว้เสียก่อน
“เด็กๆ ค่อยๆ ลงทีละคน อย่าแย่งกันลงจากรถนะคะ”
เมื่อถูกแม่ทิพย์ห้ามปรามเสียงเข้ม เด็กน้อยทุกคนจึงจำต้องระงับความตื่นเต้นไว้ แล้วพากันเดินลงจากรถอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่กระนั้นก็ยังคงไว้ซึ่งความรวดเร็วเฉกเช่นตอนขึ้นรถเพื่อเดินทางมายังสโมสรแห่งนี้
“เด็กๆ ที่ลงจากรถแล้วให้มาเข้าแถวตรงบริเวณนี้ให้เป็นระเบียบร้อยร้อยนะคะ”
ครูพี่เลี้ยงตะโกนบอกเด็กๆ บางคนซึ่งพอลงจากรถได้แล้ว ก็ทำท่าจะกระโจนเข้าไปภายในบริเวณจัดงานวันเด็กโดยไม่รอเพื่อนๆ หรือน้องๆ คนอื่นที่กำลังทยอยลงจากรถบัสทั้งสี่คัน
“เดี๋ยวเข้าแถวรอตรงนี้ก่อนนะคะ เราจะทำความเคารพและเอ่ยขอบคุณท่านผู้ใหญ่ใจดีเป็นอันดับแรก และฟังท่านให้โอวาทในวันเด็กก่อน จากนั้นเราจึงจะเข้าไปในงานได้นะคะเด็กๆ”
แม่ทิพย์บอกกำหนดการอย่างคร่าวๆ ซึ่งไม่มีพิธีรีตองให้มากความสักเท่าไรให้เด็กๆ รับทราบ นอกจากบรรดาเด็กๆ ทั้งหลายจะตื่นเต้นที่จะได้พบกับท่านผู้ใหญ่ใจดีแล้ว ตัวแม่ทิพย์เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน นางอยากพบหน้ากับท่านผู้ใหญ่ใจดี เพื่อยกมือไหว้กล่าวคำขอบคุณกับเขาสักครั้ง ที่ได้ช่วยทำให้ความฝันของเด็กกำพร้าเหล่านี้เป็นจริงสักที เด็กๆ ทุกคนอยากออกมาเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามานานแล้ว และในวันนี้ความฝันของพวกเขาและพวกเธอก็เป็นจริงขึ้นมาจากการให้ความเมตตาของท่านผู้ใหญ่ใจดีท่านนี้
และในการนี้เด็กน้อยในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีฝีมือในด้านการวาดภาพ ได้วาดภาพทิวทัศน์โดยรอบของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งนางได้นำไปเข้ากรอบเป็นอย่างดีมามอบให้กับท่านผู้ใหญ่ใจดี เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกจากเด็กๆ ทุกคนด้วย
“แม่ทิพย์คะ เมื่อไรพวกเราจะได้เข้าไปในงานวันเด็กสักทีล่ะคะ”
เด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งดูท่าว่าจะอดรนทนรอไม่ไหวอยากเข้าไปในงานวันเด็กเต็มที ได้เขย่าแขนแม่ทิพย์พร้อมกับเอ่ยถามออกมาหลังจากรู้สึกว่าตนเองยืนรอท่านผู้ใหญ่ใจดีเป็นเวลานานแล้ว
แม่ทิพย์ยิ้มบางๆ ให้กับเด็กน้อยทุกคน ซึ่งทำตาละห้อยจ้องมองเข้าไปในบริเวณจัดงานวันเด็กด้วยความอยากเข้าไปเที่ยวชมงานวันเด็กอย่างเต็มที่แล้ว จากนั้นก็เอ่ยปลอบให้บรรดาลูกๆ ทุกคนทนรออีกนิดหนึ่ง
“รออีกสักครู่นะคะ แม่ทิพย์คิดว่าอีกสักครู่ท่านผู้ใหญ่ใจดี ที่เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ก็คงลงมาพบพวกเราแล้วค่ะ”
แม่ทิพย์พูดไม่ทันขาดคำ เด็กๆ ทุกคนรวมทั้งแม่ทิพย์และครูพี่เลี้ยงทุกคนก็เห็นคณะทีมผู้บริหารของสโมสรเดอะเวิลด์ ออฟ ไอซ์ สเก็ต รวมทั้งนักกีฬาทั้งชายและหญิงอีกหลายคน เดินตรงมายังบริเวณที่แม่ทิพย์และเด็กๆ จากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลังยืนรอรับพวกเขาอยู่