3
“เปล่าค่ะ แค่คิดเรื่องงานน่ะค่ะ”
“กังวลเรื่องงานเหรอครับ”
“นิดหน่อยค่ะ”
“มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกผมได้เลยนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“เมื่อกี้ผมถามว่าคุณชอบกินอะไรน่ะครับ”
“อ้อ... เมกินได้ทุกอย่างค่ะ แล้วแต่คุณไฟเลยค่ะ”
“งั้นผมจะพาคุณไปกินอาหารร้านประจำของผมก็แล้วกันนะครับ” เขาบอกเสียงทุ้ม
“ค่ะ” เธอรับคำ ลอบมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของเขาเพลิน พอเขาหันมาเธอก็ถึงกับตกประหม่า ยกมือขึ้นเกี่ยวผมตัวเองแก้เก้อแล้วผินหน้าออกไปมองนอกรถแทน
“ร้านนี้แหละครับ คุณเคยมากินไหม”
“ร้านนี้เหรอคะ เคยมาค่ะ” เธอเคยมารีวิวอาหารร้านนี้ลงช่องยูทูบของตัวเอง เพราะช่องของเธอมีคนติดตามเป็นจำนวนมาก เจ้าของร้านจึงเชิญเธอมากินอาหารที่นี่เพื่อรีวิว เธอเลยได้กินอาหารฟรีไปอีกหนึ่งมื้อใหญ่ ๆ เมื่อสองอาทิตย์ก่อน
เวลามีร้านอาหารดัง ๆ เชิญเธอไปรีวิวอาหาร เพราะต้องการใช้ช่องยูทูบของเธอเพื่อโปรโมตเนื่องจากมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เธอก็จะพามารดามารับประทานอาหารกับเธอด้วย
“ร้านนี้เป็นร้านประจำของผมเลยนะ”
“อาหารร้านนี้อร่อยมากค่ะ” ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอะไรทะเลสด ๆ แกงป่าและมีอาหารอีสานรสชาติจัดจ้านด้วย เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าอัคคีจะชอบรับประทานอาหารร้านนี้ด้วย
“ผมชอบกินอะไรที่รสชาติจัดจ้านถึงพริกถึงขิงน่ะครับ” เขาหันมามองเธอ ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อได้สบประสานสายตากับเขาแล้วทำให้หัวใจของเธอแทบละลาย
“อ้อ... ค่ะ เมก็ชอบกินอะไรเผ็ด ๆ รสชาติจัดจ้านถึงพริกถึงขิงเหมือนกันค่ะ” เธอตอบรับเขาแต่ไม่กล้ามองหน้า
“อย่างนั้นเหรอครับ งั้นเราก็ชอบกินอะไรเหมือน ๆ กันสิครับ”
“เอ่อ... ค่ะ” ปกติเธอไม่เคยตกประหม่าเช่นนี้มาก่อน และไม่เคยไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้ เธอทำงานที่ต้องอาศัยความมั่นใจ รีวิวสินค้า เป็นพริตตี้ ต้องพูดจาฉะฉาน แต่อัคคีทำให้เธอเสียความมั่นใจในตัวเองไปมาก จนรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองนัก
เมนิลานั่งรับประทานอาหารกับเขาหลังจากพนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าสั่งอาหารเอาไว้แล้ว แต่ถ้าหากเธอจะสั่งอะไรเพิ่มก็สามารถสั่งได้เลย แต่เธอปฏิเสธไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มเพราะเขาสั่งอาหารมาเสียเต็มโต๊ะ เธอกับเขาก็แทบกินกันไม่หมดแล้ว ถ้าสั่งมาอีก น่าจะล้นโต๊ะ
“เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านนะครับ”
“ค่ะ” ทำท่าจะปฏิเสธพอคิดได้ว่าเธอนั่งรถมากับเขา และร้านอาหารร้านนี้ก็อยู่ไกลจากบ้านของเธอมาก การที่จะหารถกลับเองจึงค่อนข้างลำบาก ดังนั้นเธอไม่ควรคิดอะไรโง่ ๆ โดยการปฏิเสธน้ำใจของเขา
เขามาส่งเธอที่หน้าบ้าน ก่อนลงจากรถเขายังพูดให้เธอคิดและตัดสินใจอีกครั้งที่จะมาเป็นนางเอกหนังเรื่องใหม่ของเขา
“เอาไว้เมจะแจ้งกลับไปนะคะ” เมนิลากล่าวลาก่อนจะเดินเข้าบ้าน
วันรุ่งขึ้นเธอก็โทร. ไปแจ้งกับภูมิว่าจะไม่รับเล่นหนังเรื่องนี้เพราะอ่านบทดูแล้ว เธอคิดว่าไม่มีความสามารถที่จะแสดงได้
แม้เธอจะแอบปลื้มอัคคีเพียงใด แต่ให้ไปเล่นหนังโป๊เปลือยอีโรติกแบบนั้นเธอยังไม่กล้าพอ ขนาดรีวิวสินค้าเธอยังเลือกสินค้าที่ไม่เปลืองเนื้อเปลืองตัวเลย
“คุณเมเธอโทร. มาแจ้งว่าไม่รับเล่นหนังของเราครับคุณไฟ”
“เธอโทร. มาปฏิเสธอย่างนั้นเหรอ” อัคคียิ้มออกมา
“ทำไมคุณไฟถึงยิ้มแบบนั้นล่ะครับ เหมือนรู้ว่าเธอจะปฏิเสธ”
“ดูจากท่าทีเมื่อวาน ฉันก็รู้แล้วว่าเธอจะปฏิเสธ”
“อ้าว... แล้วคุณไฟก็ยังติดต่อไปหาคุณเม” ภูมิทำหน้างง
“เพราะฉันแค่อยากหยั่งเชิงหล่อนเท่านั้น เธอปฏิเสธงานนี้ก็ลองเสนองานอื่นไปอีก เผื่อเธอจะสนใจสักงาน”
“คุณไฟเอ่อ... ชอบคุณเมเหรอครับ” ภูมิเอ่ยถามอย่างสงสัย ไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มตอแยกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เพราะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา ไม่ก็ทอดสะพานให้
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
“ก็คุณไฟให้ผมติดต่อคุณเมไป อยากให้เธอรับงานของเราไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง”
“ฉันแค่ชอบในความสามารถของเขาและเขาก็กำลังมีชื่อเสียงอย่างที่นายบอก ฉันชอบคนเก่งนายก็รู้” เหตุผลของเจ้านายทำให้ภูมิต้องเงียบไป แต่ใจเขาก็รู้ว่ามันไม่ใช่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรให้มากความ
เมนิลาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น เป็นวันดี ๆ อีกวันที่เธอสามารถหาเงินได้ด้วยตัวเองจากที่บ้าน โดยไม่ต้องไปไหนไกล ไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อย ไม่ต้องลางาน ไม่ต้องแต่งตัวสวยทุกวัน ชีวิตช่างอิสระเหลือเกิน
โชคดีที่เธอเกิดมามีรูปเป็นทรัพย์ จึงสามารถขายของออนไลน์ ทำงานเกี่ยวกับการใช้หน้าตาแล้วได้เงิน แค่รีวิวสินค้าให้แบรนด์ต่าง ๆ ในแต่ละเดือนเธอก็สามารถเลี้ยงตัวเอง มารดาและน้องสาวได้แล้ว
น้องสาวของเธออายุสิบห้า กำลังเรียนอยู่ม. สามอีกไม่กี่ปีก็จะเรียนจบ ม. หกและขึ้นมหาวิทยาลัย เธอจึงต้องหาเงินเอาไว้ให้ได้เยอะๆ เพื่อที่จะส่งน้องเรียนให้จบ
“แม่ แม่เป็นอะไรจ๊ะ” เมนิลารีบวิ่งเข้าไปช้อนร่างมารดาขึ้นจากพื้น เพราะท่านเป็นลมล้มหมดสติอยู่บนพื้น แถมเลือดยังไหลออกมาเปรอะเปื้อนไปหมด