บท
ตั้งค่า

การเผชิญหน้า

“พี่พีสบายดีนะคะ”

“ก็อย่างที่เห็นครับ”

เสียงทุ้มต่ำเริ่มสลดลง และเธอก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเพราะเหตุใดอีกฝ่ายถึงได้เป็นเช่นนั้น

“ทำไมพี่พีไม่หาแฟนสักคนละคะ อย่างพี่พีน่าจะหาไม่ยาก อย่าลืมว่าอายุเริ่มจะมากขึ้นแล้ว เดี๋ยวจะมีลูกไม่ทันใช้นะคะ”

ชมพูนุชพยายามพูดให้เป็นเรื่องสนุก ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับคำพูดนั้นเลยแม้แต่นิด

“แล้วชมพูล่ะ…เมื่อไหร่จะมี”

“เอ่อ….”

คราวนี้กลับเป็นตัวเธอเองที่ทำหน้าสลดลง ทั้งๆ ที่อยากจะขำแต่มันตลกไม่ออกแล้วล่ะ และนั่นก็พลอยทำให้พีระวิทย์เองเงียบไปด้วย ทว่าในขณะนั้นก็มีเสียงเข้มดุของใครคนหนึ่งดังแทรกขึ้นขัดจังหวะทั้งสองคน

“อยู่นี่เองหรอกเหรอ”

ร่างสูงของเจ้าตัวก้าวเข้ามาหาภรรยา ครั้งแรกทัชชกรเองรู้สึกประหลาดใจที่เจออีกฝ่ายที่นี่ แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเยาะเย้ยอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินเข้ามาโอบไหล่บางของภรรยาสาวเอาไว้อย่างถือสิทธิ์ เพราะรู้อยู่ว่าเมื่อครั้งอดีตทั้งคู่เคยเป็นคู่รักกัน แต่สุดท้ายแล้วพีระวิทย์ผู้ที่เคยชนะตนเองทุกอย่างทั้งเรื่องเรียนและเรื่องกิจกรรม กลับต้องมาแพ้ตนเพราะตัวเองมีฐานะดีกว่า และบังเอิญเข้าถูกช่องทางก็เลยกำจัดพีระวิทย์ออกไปได้ ถึงแม้ว่าจะเคยแพ้อีกฝ่ายมาตลอดก็ตาม แต่การชนะแค่ครั้งเดียวเมื่อหนึ่งปีก่อน นั่นก็ทำให้เขารู้สึกสะใจอย่างเป็นที่สุด

“ก็นึกว่าใคร…ที่แท้ก็เป็นมึงเองเหรอไอ้พี…เป็นไงบ้างวะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

ทัชชกรเอ่ยทำเป็นทักทายไปอย่างนั้นเอง แต่น้ำเสียงนั้นฟังก็รู้ว่าออกจะหมิ่นๆ และเยาะเย้ยเสียด้วยซ้ำ

“ก็สบายดี” พีระวิทย์ตอบสั้นๆ

“กูก็สบายดี แล้วก็มีความสุขกับชมพูมากเลย...เราน่ะรักกันม๊ากมาก...ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันตลอด ขาดกันไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว”

เขากล่าวพลางดึงรั้งร่างบางของภรรยาสาวเข้ามากอดแน่นขึ้น พร้อมทั้งฝังจมูกโด่งคมลงไปที่แก้มขาวเนียนอย่างชื่นใจ ราวกับประชดคนที่อยู่ข้างๆ เสียอย่างนั้น และมันก็ได้ผล…พีระวิทย์รู้สึกโกรธและไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเธอเป็นภรรยาของทัชชกรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้อีกด้วย ดังนั้นแม้ว่าจะทำใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาจะต้องระงับโทสะนั้นเสียแล้วล่ะ

“ยินดีด้วยที่มีความสุข...งั้นกูคงต้องขอตัวก่อนนะ ไม่อยากจะอยู่ขัดคอ...พี่ไปก่อนนะครับน้องชมพู”

หลังจากพูดจบร่างสูงก็ก้าวจากไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทัชชกรรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะหันมาทำตาดุและเล่นงานคนที่อยู่ข้างๆ แทน

“คิดจะนอกใจผัวหรือยังไง”

ชมพูนุชเบี่ยงตัวออกจากผู้เป็นสามีด้วยความไม่ชอบใจนัก ตั้งแต่แต่งงานมาชมพูนุชเองไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน เธอมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้รักเธอเลยแม้แต่น้อยนิด ที่เขาแต่งงานกับเธอไม่ใช่เพราะแค่อยากจะช่วยครอบครัวเธอในช่วงที่การเงินย่ำแย่ แต่จริงๆ แล้วคงเพราะต้องการแก้แค้นที่ถูกพีระวิทย์หยามหน้าเท่านั้นเอง เวลาอยู่ด้วยกันเขาไม่เคยทำตัวเป็นสามีที่ดี ทุกครั้งที่พูดคุยกัน เธอและเขาจะต้องทะเลาะกันพร้อมกับการด่าว่าอย่างเสียๆ หายๆ ตลอด แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำร้ายเธอ แต่รอยเขียวช้ำตามร่างกายเพียงแค่การบีบของเขาในตอนที่เขาโมโห ทำให้ร่องรอยนั้นปรากฏเหมือนว่าเธอโดนทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง แต่ชมพูนุชเองไม่ได้นำเรื่องนี้มาเล่าให้กับมารดาและพี่ชายของเธอฟัง เพราะกลัวว่าทุกคนจะไม่สบายใจเอาได้ ดังนั้นจึงต้องทนอยู่เช่นนี้ เพราะไหนๆ เธอก็เป็นเมียของผู้ชายใจหินเช่นเขาแล้ว

“ท่าทางคงจะดีใจจนเนื้อเต้นเลยสินะ ที่ได้เจอผัวเก่า”

ทัชชกรยังคงหาเรื่องไม่เลิก ทั้งที่ตัวเธอเองก็เงียบไปแล้ว

“…..”

“ดูเหมือนอยากจะวิ่งเข้าไปกอดกันเสียด้วยมั้ง ถ้าเดาไม่ผิด” เขายังคงเอ่ยค่อนขอดเธออยู่แบบนั้น

“ฉันยังมีสติอยู่ค่ะ และยังจำได้ว่าตัวเองมีสามีแล้ว คงจะไม่คิดทำอะไรที่มันต่ำๆ อย่างที่คุณเข้าใจหรอก”

ประโยคที่หญิงสาวกล่าวนั้นทำให้คนฟังโกรธจนควันออกหูขึ้นมาทันทีเช่นกัน มือหนารีบคว้าต้นแขนบางบีบไว้อย่างแรงขณะที่เธอกำลังจะก้าวจากไป แต่ก็ต้องถอยกลับมาอย่างรวดเร็วเพราะแรงกระชากของคนที่ขึ้นชื่อว่าสามี

“ทำไม!…ฉันแค่พูดความจริงเธอรับไม่ได้งั้นสิ!”

มือแกร่งจงใจที่จะบีบต้นแขนเธอให้แน่นขึ้น ชมพูนุชรู้สึกชาไปหมด เธอรู้สึกเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด แต่ก็ต้องพยายามฝืนทนเอาไว้อย่างที่สุด

“ถ้าหากวันนี้ฉันไม่มาด้วย ป่านนี้คงจะนัดแนะกันไปที่อื่น หรือไม่ก็พากันเข้าม่านรูดไปแล้วสินะ...อย่าให้ฉันรู้ก็แล้วกัน ไม่งั้นฉันเอาตายทั้งคู่แน่!!”

พอขู่เสร็จเขาก็ผลักร่างบางเซไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะสาวเท้าจากไปอีกทางหนึ่ง ปล่อยให้ชมพูนุชยืนอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง เธอยกมือขึ้นลูบบริเวณที่โดนบีบ และป้ายน้ำตาที่รินไหลลงมาอาบแก้มออกอย่างลวกๆ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินตามเขาไป แต่เธอไม่รู้หรอกว่าเหตุการณ์ต่างๆ นั้นพีระวิทย์ที่แอบฟังอย่างเสียมารยาทได้รู้ได้เห็นทุกอย่างเช่นกัน เขาอดที่จะสงสารอดีตคนรักไม่ได้ รู้สึกไม่สบายใจเลยที่เธอจะต้องโดนผู้ชายขี้โมโหอย่างทัชชกรทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจเช่นนี้

ณ ผับดังแห่งหนึ่ง…

คืนนี้พีระวิทย์โทรนัดชนกันต์ออกมาดื่ม ความจริงทั้งคู่ก็เจอกันบ่อยอยู่แล้ว แต่คนถูกนัดนี่สิรู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุด เมื่อสถานที่นัดหมายกลายเป็นผับไปได้ เพราะหากมีเรื่องอะไรเพื่อนรักก็จะไปหาที่คอนโดส่วนตัวทุกครั้ง และชนกันต์เองก็ยิ่งทำหน้าฉงนมากยิ่งขึ้น เมื่อมาถึงปุ๊บก็เห็นอีกฝ่ายซดเหล้าเข้าปากราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่าเสียอย่างนั้น ปกติพีระวิทย์เองไม่ใช่คนชอบดื่มชอบกิน นานๆ ครั้งจะจิบแค่เล็กน้อย หรือไม่ก็ไม่กินเลย เห็นอยู่ครั้งหนึ่งที่ดื่มหนักเป็นครั้งแรกก็คืองานแต่งงานของน้องสาวตนเอง และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สอง ดูเหมือนว่าพีระวิทย์จะมานั่งกรอกน้ำสีอำพันเข้ากระเพาะตั้งนานแล้ว เพราะสีหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำขึ้นมากทุกที

“มึงเป็นอะไรไปวะไอ้พี…มีเรื่องกลุ้มใจมากขนาดนั้นเลยเหรอวะ ถึงได้ดื่มหนักขนาดนี้” ชนกันต์เอ่ยขึ้นอย่างห่วงใย ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เคาน์เตอร์บาร์ข้างพีระวิทย์

“อืม… มึงจะเอาอะไรล่ะ สั่งเลยวันนี้กูเลี้ยง…กินให้มันเมาๆ กันไปเลย”

ชนกันต์พยักหน้าแล้วหันไปสั่งบาร์เทนเดอร์ที่รอรับออเดอร์อยู่แล้ว ก่อนจะหันมามองเพื่อนรักอีกรอบอย่างกังวล

“หน้ามึงออกจะเครียดๆ นะ มีเรื่องอะไรเหรอวะ...มีอะไรมึงก็บอกกูได้นะเว้ย ถ้ากูช่วยมึงได้กูก็จะช่วย”

ชนกันต์เอ่ยขึ้น พลางยกมือขึ้นมาตบไหล่กว้างของพีระวิทย์เบาๆ

“แต่เรื่องนี้มึงคงช่วยกูไม่ได้หรอกว่ะ”

คนฟังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนจะถึงบางอ้อ เพราะหากคนอย่างพีระวิทย์พูดอย่างนี้ เขาเองก็พอจะเดาออก

“วันนี้กูเจอชมพูโดยบังเอิญ...”

ว่าแล้วไหมล่ะ ชนกันต์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบพลางนิ่งอยู่สักพักรอให้เพื่อนหนุ่มระบายออกมาเสียก่อน เขาเองก็รู้สึกเห็นใจมากที่คนที่รักน้องสาวตัวเองมีสภาพเช่นนี้ พีระวิทย์รักชมพูนุชไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอแต่งงานไปแล้ว แต่ความรู้สึกนั้นก็ยังคงมีให้น้องสาวตนไม่เสื่อมคลาย

“หากกูเดาไม่ผิด ชมพูเองคงพยายามปกปิดว่าตัวเองมีความสุขดีกับชีวิตการแต่งงาน” พีระวิทย์เอ่ยขึ้นเสียงสั่นดวงตาคมวูบไหวอย่างเห็นได้ชัด

“อืม…อันนี้กูก็พอรู้”

ชนกันต์พยักหน้ายอมรับ เวลาที่น้องสาวตนเองมีปัญหาก็จะโทรคุยกับตนตลอด แต่ไม่ยอมให้บอกผู้เป็นแม่และพีระวิทย์ด้วยเพราะกลัวว่าทุกคนจะเป็นห่วงเอาได้

“มึงรู้ แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกกูบ้างเลยวะ!”

“เพราะน้องกูขอร้องไม่ให้บอกใครน่ะสิ...ยิ่งเวลากูเห็นรอยเป็นจ้ำๆ ตามแขนตามตัวชมพู กูว่าไอ้เสือมันจะต้องตบตีน้องกูแน่ๆ แต่พอถามชมพูเธอก็บอกว่าไอ้เลวนั่นไม่ได้ทำร้ายร่างกาย คิดดูสิวะ จนถึงขนาดนี้แล้วน้องสาวกูก็ยังปกป้องมันอยู่อีก คิดแล้วก็อยากจะไปกระทืบมันให้ถึงบ้านเลยจริงๆ”

พูดแล้วชนกันต์ก็แค้นไม่หายเมื่อนึกถึงหน้าอันกวนโอ๊ยของทัชชกร แต่การจะเข้าถึงตัวผู้ชายอย่างมันก็เป็นไปได้ยากนัก เพราะมันมีลูกน้องติดตามเป็นโขยง แค่จะฝ่าลูกน้องมันไปได้ก็คงจะเอาชีวิตแทบไม่รอดแล้ว ใครๆ ก็รู้กันว่ามันไม่ต่างจากพวกที่เป็นมาเฟีย จะเข้าถึงตัวมันเป็นไปได้ยากนัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel