แต่งแต้มให้สวยงาม(1)
ตอนที่ 3
แต่งแต้มให้สวยงาม
“ลุกขึ้นมาเปิดประตูทำไม ผมก็มีกุญแจ”
ภูวิศกลับมาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืนเขานึกว่ากานพลูไม่สบายจะนอนหลับแล้วแต่ความจริงเธอกำลังนั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขก
“หลับไปแล้วค่ะแต่ลุกมาเข้าห้องน้ำเห็นว่าคุณยังไม่กลับและนอนไม่ค่อยหลับก็เลยมานั่งรอเล่นโทรศัพท์ไปด้วยเพลินๆค่ะ”
กานพลูโกหกความจริงแล้วเธอนั่งรอเขาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำหลังจากที่คนงานเอาข้าวต้มมาให้ หน้าต่างของบ้านหลังนี้ที่เปิดไปแล้วเห็นบ้านหลังเก่าที่เคยอยู่กับยายมันทำให้รู้สึกเหงาเหงาจนเธอไม่อยากจะอยู่คนเดียว
“พรุ่งนี้ผมจะพาคุณเข้ากรุงเทพฯจะพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและผมจะอยู่เคลียร์งานที่นั่นสักพัก”
“ฉันไปกรุงเทพฯกับคุณได้ด้วยหรือคะ”
หญิงสาวถามด้วยความสงสัยเพราะเขาเคยบอกกับเธอแล้วว่าเธอจะมีตัวตนอยู่ที่ไร่แห่งนี้เท่านั้นแล้วตั้งแต่กานพลูเข้ามาอยู่ที่ไร่เธอยังไม่เคยไปกรุงเทพฯเลยตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็เรียนเพียงแค่มหาวิทยาลัยที่อยู่ในตัวจังหวัดเท่านั้น
“ผมจะเช่าโรงแรมให้คุณอยู่และคงไม่ได้มาหานับจากวันที่พาไปหาหมอ เสร็จธุระที่กรุงเทพฯเมื่อไหร่ผมถึงจะมารับ เราจะกลับมาที่ไร่พร้อมกัน”
กานพลูจากที่ก็รู้อยู่แล้วว่าบทบาทของเธอคืออะไรแต่ทำไมเวลานี้กลับรู้สึกเหมือนเธอกำลังเป็นโจรผู้ร้ายที่ต้องหลบๆซ่อนๆ ความจริงเขาพาเธอมากรุงเทพด้วยในฐานะคนใช้ก็ได้ทำไมเขาถึงไม่ยอมให้เธอมีตัวตน
“ไปนอนได้แล้วเดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จจะตามเข้าไปนอน”
กานพลูดูจากสภาพใบหน้าและดวงตาที่เหี่ยวย่นของเขา เธอคิดว่าอย่างไรเสียคืนนี้ชายหนุ่มคงไม่ทำเหมือนเมื่อคืนที่ผ่านมาแต่ความจริงแล้วมันกลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเขายังคงกลืนกินดอมดมร่างกายของเธออย่างหนำใจเหมือนกับว่าหิวไม่ได้กินอาหารชนิดนี้มานานแสนนาน
“ร่างกายของคุณทั้งคู่พร้อมต่อการมีลูกนะครับ วันนี้หมอที่หมอให้ไปเป็นวันไข่ตก ขอให้สมหวังมีลูกสมดังใจแต่ถ้ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้กลับมาพบหมออีกครั้งนะครับ”
คุณหมอโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ การวางแผนครอบครัวยืนยันว่าทั้งคู่ยังคงใช้วิธีธรรมชาติได้
“โรงแรมที่คุณไปอยู่อาหารเช้าก็ลงมากินที่ด้านล่างเป็นแบบบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันและเย็นก็ให้คุณโทรมาสั่งที่เคาน์เตอร์ผมจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองอยู่คนเดียวก็อย่าฟุ้งซ่านอย่ามัวแต่คิดถึงละอองทำตัวเองให้เข้มแข็ง เสร็จธุระผมจะมารับคุณกลับไร่”
ชีวิตในกรุงเทพฯของสาวน้อยบ้านนอกที่เต็มที่ก็แค่เคยขับรถผ่านเวลาที่โรงเรียนพามาทัศนศึกษามันทำให้กานพลูรู้สึกเหงามากกว่าตอนอยู่ที่ไร่เสียอีก ม่านหน้าต่างถูกเปิดออกเธอมองภาพรถที่วิ่งกันอยู่เต็มท้องถนนมองตึกที่สูงเสียดฟ้ามองผู้คนที่กำลังรีบเดินด้วยความรู้สึกว่าโลกใบนี้มันช่างวุ่นวายไม่เหมือนกับไร่ที่เธอจากมา
เวลาแต่ละนาทีมันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า ภูวิศทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ เขาไม่ได้ติดต่อหรือย้อนกลับมาหาเธออีกเลยจนถึงวันนี้วันที่ต้องเดินทางกลับที่ไร่เขาโทรศัพท์มาบอกเธอล่วงหน้าแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อให้เตรียมตัว