บท
ตั้งค่า

บทที่ 10

“คุณพงษ์ ผมก็อยากจะสวัสดีคุณตอบนะ ถ้างานที่สั่งเอาไว้มันคืบหน้ากว่านี้สักหน่อย นี่ถ้าผมไม่มาเอง ทุกอย่างมันจะออกมาอย่างที่ผมต้องการทันเวลาหรือเปล่า!”

ปราชญ์กระแทกแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะประชุมอย่างแรง เขานั่งรอนานเกือบครึ่งชั่วโมง ผู้จัดการที่ควรจะอยู่ในโรงแรมถึงได้ปรากฏอยู่ตัวตรงหน้า ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเอาเวลางานไปทำธุระส่วนตัว

“โธ่ ทันสิครับคุณปราชญ์ นี่ยังเหลือเวลาอีกตั้งสัปดาห์นะครับ”

“หึ! ทำงานทัน แต่จะออกมาดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าห้ามมีอะไรผิดพลาด พวกคุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบคำว่าพลาด ในเมื่อเหลือเวลาอีกเจ็ดวันก็ตามนั้น แต่อย่าให้รู้นะว่ามีการเบิกค่าแรงเกินความจำเป็นเพราะต้องเร่งงานทีหลัง”

“ไม่มีแน่นอนครับคุณปราชญ์ ตอนนี้เหลือแค่เก็บรายละเอียด โรงแรมก็พร้อมที่จะเปิดให้บริการแล้วครับ” ผู้จัดการกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ และพอถูกไล่ไปให้พ้นหน้าก็รีบเดินออกจากห้องประชุมทันที

“น่ารำคาญที่สุด ผมเกลียดจริงๆ พวกที่ชอบผิดนัด คุณรู้ไหมรินทร์ คนไทยเราขึ้นชื่อเรื่องนี้ที่สุดเลยนะ อาศัยว่ารู้จักกัน ขอให้ช่วยกันบ้าง อะลุ่มอล่วยบ้าง คนเราถ้ารักษาคำพูดไม่ได้ตั้งแต่แรก แล้วจะทำสัญญากันทำไม อยากถูกปรับค่าเสียหายเล่นอย่างงั้นเหรอ” ปราชญ์บ่นพึมพำอีกมากมาย โดยไม่ลืมย้ำว่านี่คือสาเหตุสำคัญที่เขาชอบคุยงานกับชาวต่างชาติมากกว่า ทั้งยังเปรียบเทียบด้วยว่าการถูกบิดาส่งมาทำงานที่ไทย เพื่อขยับขยายกิจการเพิ่มเติมนั้นไม่ต่างจากการถูกทำโทษ

เขาบ่นไปเรื่อยๆ ตลอดการเดินทางไปยังที่รีสอร์ตหรูที่เลขานุการจองเอาไว้ ลืมไปเลยว่าครอบครัวของรสรินทร์ก็เป็นหนึ่งในพวกที่ไม่ทำตามคำพูด แต่กว่าจะนึกได้ก็พ่นประโยคไม่น่าฟังออกไปเยอะแล้ว

“รินทร์ คือผมไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพ่อคุณแม่ของรินทร์ก็เป็นอย่างที่คุณว่าจริงๆ” รสรินทร์ยิ้มเฝื่อนก่อนเอ่ยขอบคุณพนักงานที่ตรงเข้ามาอำนวยความสะดวกและดูแลเรื่องกระเป๋า เธอพอทราบแล้วว่าปราชญ์ชอบทำอะไรเรียบง่าย ไม่จุกจิกกับเรื่องเล็กน้อย เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงาน

เธอรับเครื่องดื่มสีสวยและผ้าเย็นระหว่างรอเช็กอิน เขาเองก็เช่นกัน ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่เธอไม่เข้าใจ รีสอร์ตที่เขาเลือกพักหรูหราอย่างมาก ค่าห้องแค่สองคืนก็เท่ากับเงินเดือนใหม่ที่เธอได้รับแล้ว

“ทำไมคุณปราชญ์ถึงเลือกพักที่นี่ล่ะคะ” เธอกับเขาพักห้องเดียวกัน แน่นอนว่าต้องเป็นเตียงเดียวกัน

“เพราะมันเป็นครั้งแรกของคุณ…” ปราชญ์กระซิบริมใบหูเล็ก สอดแขนกอดสาวสวยจากด้านหลัง รั้งตัวเธอมากอดไว้แน่น และกดจูบลงบนแก้มนิ่มเบาๆ

“คุณไม่จำเป็นต้องดีกับรินทร์ขนาดนี้ รินทร์ก็แค่แฟนชั่วคราว ไม่ได้มีความสำคัญอะไร”

“แต่ผมอยากให้คุณมีความสุขเวลาที่อยู่กับผม ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนชั่วคราวหรือตัวจริง ตอนนี้คุณอยู่กับผม และจากนี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้า เราสองคนจะอยู่บนเตียงเดียวกัน มีความสุขด้วยกัน”

“แต่คุณบอกว่าจะอยู่ที่ภูเก็ตแค่สามวันไม่ใช่เหรอคะ”

“ทีแรกก็ตั้งใจไว้แบบนั้น แต่เมื่อวานพอคุณกลับไปแล้ว ผมถึงรู้ตัวว่าสามวันคงไม่พอ รินทร์ คุณสวยน่ากินมาก แค่เห็นหน้าผมก็อยากชิมคุณแบบเมื่อวานแล้ว”

“คุณปราชญ์ เราเพิ่งมาถึง ใจคอคุณจะไม่พักผ่อนหน่อยเหรอคะ”

“คุณเหนื่อย?”

“ค่ะ เมื่อคืนรินทร์ตื่นเต้น นอนไม่ค่อยหลับ”

“งั้นคุณพักผ่อนก่อนนะ อยากกินอะไรก็สั่งได้ตามสบาย ผมจะออกไปทำธุระนิดหน่อย แล้วเราค่อยไปดินเนอร์ด้วยกัน” เขาหอมแก้มเธอเบาๆ อีกครั้ง ก่อนผละตัวออกห่างอย่างอ้อยอิ่ง สายตาบอกชัดว่าอยากจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว

ไม่สิ… เขาอยากเข้าไปในตัวเธอ ทว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน

ปราชญ์ปฏิเสธเมื่อผู้ช่วยคนสวยเสนอตัวว่าจะไปทำธุระให้ เขากำชับว่าให้เธอนอนพัก เพราะคืนนี้ยังอีกยาวไกลและเขาจะไม่ทำแค่หยอกเย้าภายนอกแน่ๆ

ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าไม่ได้หมกมุ่นตอนที่เลือกชุดชั้นในสีหวานและบิกินีตัวเล็ก รีสอร์ตอยู่ไม่ห่างจากชายหาดก็จริง แต่ร่องรอยแห่งความปรารถนาที่เขาฝากเอาไว้เมื่อวาน รวมทั้งที่กำลังจะทำเพิ่มในคืนนี้ คงทำให้รสรินทร์ต้องสวมเสื้อผ้ามิดชิดไปอีกหลายวัน เรื่องจะสวมชุดเผยผิวกายไปเดินเล่นรับลมทะเลนั้นลืมไปได้เลย

หลังจากเลือกซื้อของส่วนตัวเกือบชั่วโมง เขาก็ตรงไปยังร้านขายยาเพื่อถามหาอุปกรณ์ป้องกันกล่องใหญ่บรรจุสิบสองชิ้นจำนวนสองกล่อง ทำเอาพนักงานถึงกับลอบยิ้มออกมาหน่อยๆ และพอเขาบอกไปว่ามาฮันนีมูน เธอจึงแนะนำเจลหล่อลื่นมาด้วยอีกอย่าง ไม่แน่ใจว่าเพราะเห็นไซซ์ถุงยางหรือว่าเป็นเหตุผลอื่น

“น่าจะพออยู่นะ”

ชายหนุ่มกระซิบพร้อมกับคำนวณในใจอย่างคร่าวๆ แต่สุดท้ายก็รีบเดินดุ่มกลับเข้าไปในร้านขายยา ขอซื้อถุงยางอนามัยอีกกล่องเพื่อป้องกันความผิดพลาด

ในกรณีนี้เหลือย่อมดีกว่าขาดอยู่แล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel