บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 คู่ปรับ

“อาหารมาแล้วกินข้าวก่อนเดี๋ยวค่อยเม้าท์มอยกัน พรรณหิวมาก” พรพรรณบอกเพื่อนทั้งสองเมื่อพนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟ จากนั้นสามสาวสวยก็กินอาหารกันจนอิ่มแล้วก็พากันขึ้นไปคุยกันต่อที่ห้องทำงานของจัสมิน

“พี่นวลคะขอน้ำส้มสามแก้วค่ะ” จัสมินบอกเลขาสาวที่นั่งอยู่หน้าห้องเมื่อทักทายเพื่อนของเธอแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน

“ปีนี้แกไม่เลี้ยงวันเกิดเหรอมะลิ” พรพรรณแกล้งถามเพื่อนเพราะทุกปีก็จะมีงานแฟชั่นของแบรนด์ J.M และตอนเย็นก็มีงานเลี้ยงวันเกิดของจัสมินมาตลอดตั้งแต่รู้จักกับจัสมินมาก็สิบกว่าปีแล้วและเธอกับกระแตก็เป็นหนึ่งในนางแบบของแบรนด์J.M

“ไม่ล่ะ วันนี้จัสมินจะร่วมทำบุญกับแม่นัตตี้ส่วนญาติๆจัสมินตั้งกล่องไว้ที่บ้านขอเปลี่ยนจากของขวัญเป็นเงินเอามาช่วยน้องๆที่บ้านเด็กกำพร้าดีกว่า” จัสมินบอกเพื่อนรักที่เห็นด้วยกับเธอแต่จัสมินไม่รู้ว่าอาฟเตอร์ปาร์ตี้คืนนี้แม่นัตตี้ของเธอจัดนั้นเพื่อเป็นเซอร์ไพรส์วันเกิดของลูกสาว

“ดีจัง งั้นคราวหน้าวันเกิดพี่เดช พรรณทำแบบจัสมินดีกว่าเพราะจะช่วยเหลือสังคมได้มากดีกว่าของที่ได้มาแต่ไม่ได้ใช้เป็นประโยชน์ พวกแกว่าดีมั้ย” เมียนักการเมืองชื่อดังถามความเห็นเพื่อนสนิท

“ดีสิพรรณ ถ้าแกทำแบบนี้นะรับรองว่าสามีได้คะแนนจากประชาชนอย่างล้นหลามแน่ๆ” กฤติกาเห็นด้วยกับเพื่อนสาวเพราะพวกเธอรู้จักสามีของเพื่อนดีพอสมควรว่าเป็นนักการเมืองน้ำดีที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงจังไม่ใช่เอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัว

“พี่เดชนี่โชคดีนะเนี่ยที่ได้ศรีภรรยามาช่วยเหลือเกื้อกลูหนุนนำในหน้าที่การงาน” จัสมิน ชมเพื่อนสาวที่ยิ้มหน้าบานเมื่อถูกชม

“พรรณเพิ่งได้ยินมะลิพูดถูกใจก็วันนี้แหละ คิกคิกๆๆ” สามสาวก็หัวเราะกันอย่างขำๆ

“เอ่อนี่ มะลิ กระแต พวกแกรู้มั้ยว่าคู่ปรับของพวกเราก็มางานนี้ด้วยน่ะ” พรพรรณถามเพื่อนที่พยักหน้าบอกว่ารู้แล้วว่าไฮโซสาวคนดังก็มาเดินแบบด้วยในวันนี้

“ถ้าไม่บริจาคเยอะก็คงไม่ได้เดินหรอก เพราะแม่ของยัยคุณหนูแนนมาเหมาคอลเลคชั่นนี้กับแม่นัตตี้และขอให้ลูกสาวได้เดินแบบแล้วจะบริจาคอีก แม่นัตตี้เลยยอม” จัสมินบอกเพื่อนแต่เธอไม่สนใจอยู่แล้วเพราะวันนี้จะมีทั้งดารานางแบบเศรษฐี ไฮโซ คนดังทั้งหลายที่อยากอวดเครื่องเพชรเครื่องทองและยอดเงินแข่งขันกันและจะได้ขึ้นหน้าหนึ่งและออกสื่อกัน

“ช่างเถอะ ว่าแต่เราลงไปที่งานกันเลยมั้ยจะได้แต่งหน้ากันก่อน” กฤติกาชวนเพื่อนเพราะนี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้วงานเริ่มตอนสี่โมงเย็น

“เดี๋ยวพรรณขอบอกข่าวดีก่อนได้มั้ยล่ะ” พรพรรณเรียกเพื่อนไว้ก่อนที่สองสาวจะลุกขึ้น

“ข่าวดีอะไรยะคุณนาย” กระแตถามเพื่อนที่ทำท่ากระมิดกระเมี้ยนหน้าแดงเขินอายเพื่อน

“ก็ตอนนี้พวกแกจะมีหลานแล้วน่ะสิ”

“เฮ้ย, จริงเหรอพรรณ ดีใจด้วยนะแก” จัสมินพูดเสียงดังและแสดงความดีใจกับเพื่อนรักที่จะมีลูกเป็นโซ่คล้องใจกับสามี

“จริงดิแก”

“ตายแล้วน้ำยาพี่เดชสำแดงฤทธิ์แล้ว ดีใจด้วยนะยะว่าที่คุณแม่” กฤติกาล้อเพื่อนและดีใจกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่

“หลานของจัสมินกี่เดือนแล้วพรรณ”

“สามเดือนกว่าแล้วจ้ะ” พรพรรณตอบเพื่อนแล้วลูบท้องของเธอที่ยังแบนราบอยู่เหมือนเดิมเพิ่มเติมคืออวบอิ่มผ่องใสมากขึ้น

“มิน่าล่ะ กระแตว่าแกอ้วนขึ้นน่ะ” กฤติกากับจัสมินสังเกตุเห็นเพื่อนอวบขึ้นตั้งแต่เจอกันแล้วถึงได้ทักแต่ที่ไหนได้เพื่อนรักท้องนั่นเอง

“พรรณยังไม่ได้บอกใครเลยนะ มีแกสองคนนี่แหละที่รู้ก่อนใครเพื่อน” พรพรรณบอกเพื่อนรักเพราะเธอกับสามีถือเคล็ดว่ารอให้พ้นสามเดือนไปก่อนแล้วค่อยบอกทุกคนและอาทิตย์หน้าเธอก็นัดครอบครัวของสามีและของเธอมากินเลี้ยงกันแล้วจะบอกทุกคน

“ขอบใจจ้ะ/ ขอบใจจ้ะคุณแม่” สองสาวแสดงความดีใจกับเพื่อนอย่างจริงใจ

“แล้วพี่เดชปล่อยแกมาได้ยังไงเนี่ย ฮ้ะ ยัยพรรณ” จัสมินถามเพื่อนที่สามียอมปล่อยให้มาคนเดียว

“คนเดียวที่ไหนล่ะ ลูกน้องของพี่เดชนั่งอยู่ที่ล็อบบี้โน่น ถ้าพรรณไม่ขู่ไว้คงมานั่งเฝ้าหน้าห้องนี่เลยละมั้ง” พรพรรณพูดถึงลูกน้องและสามีของเธอที่เป็นห่วงเกินเหตุ

“แล้วไป จัสมินนึกว่าพี่เดชปล่อยแกมาคนเดียว จะได้ไปจัดการสักหน่อย” จัสมินพูดจบสองสาวก็ยิ้มขำเพราะนึกถึงวีรกรรมของเพื่อนรักดีว่าบทจะดีก็ดีใจหายบทจะร้ายเธอก็สุดๆและสามีของพรพรรณก็เคยเจอมาแล้ว

จากนั้นทั้งสามก็พากันเดินลงไปดูงานที่ห้องแกรนด์บอลรูมใหญ่ที่กำลังจัดแต่งกันเกือบเสร็จแล้วเหลือแค่เก็บกวาดทำความสะอาดเท่านั้นแล้วเดินไปที่ห้องบอลรูมเล็กที่มีประตูเชื่อมหากันและได้จัดโต้ะแต่งตัวและห้องเปลี่ยนชุดของนางแบบทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้โดยส่วนมาจะมาช่วยเดินเพื่อทำบุญกันมากกว่า

“เจเจ้มาช่วยแม่นัตตี้หน่อยสิลูก” นัตตี้เห็นหลานสาวคนสวยเดินเช้ามาในห้องก็เรียกตัวให้ไปช่วยเลือกชุดให้นางแบบที่จะใส่เดินในเย็นนี้ว่าชุดไหนเหมาะกับนางแบบ

“ค่ะแม่นัตตี้ แกสองคนไปแต่งหน้ารอก่อนนะ จัสมินไปช่วยแม่นัตตี้แป้บหนึ่งเดี๋ยวมาจ้ะ”

“มีอะไรให้กระแตช่วยมั้ยมะลิ” กฤติกาถามเพื่อนเพราะเห็นในห้องเดินสวนกันให้วุ่นวายทั้งนางแบบทั้งช่างแต่งหน้าทำผมและทีมงานที่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองกันอย่างรีบเร่ง

“ไม่เป็นไรจ้ะ แกอยู่เป็นเพื่อนคุณนายพรรณนะกระแต” สาวสวยบอกเพื่อนแล้วเดินไปหาแม่นัตตี้ที่ตอนนี้อายุห้าสิบกว่าแล้วยังสวยบทที่เหมือนเดิม

“แล้วนี่ชุดของใครคะแม่นัตตี้” จัสมินจัดชุดไปแล้วถามไปด้วยจะได้ติดชื่อไว้นางแบบจะได้หาง่าย

“ชุดนี้ของหนูแนนลูกสาวคุณผ่องนภาน่ะจ้ะ” นัตตี้บอกหลานสาวที่เขียนชื่อลงกระดาษห้อยไม้แขวนชุดสวยบนราวตามที่นัตตี้บอก

“อ่อ ยัยแนนเพื่อนร่วมหาลัยจัสมินเองค่ะแม่นัตตี้ แล้วเขาบริจาคเท่าไหร่คะ” สาวสวยบอกแม่ทูนหัวและถามถึงยอดบริจาคที่แม่ของตรีเนตรต้องจ่ายเพื่อให้ลูกสาวได้เดินเฉิดฉายบนแคทวอล์คของแบรนด์ J.M.

“สองแสนจ้ะ แม่นัตตี้ไม่ได้เรียกร้องหรือบังคับนะลูก แต่เขาเสนอมาเองแล้วแม่นัตตี้ก็เห็นแก่เด็กที่บ้านกำพร้าก็เลยรับไว้จ้ะ” นัตตี้รู้ดีว่าเศรษฐีใหม่ไฮโซทั้งหลายอยากออกสื่อเพื่อให้คนรู้จักและจะใช้เงินเป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าถึงสังคม

“อืม ใจถึงไม่ใช่เล่นเลยนะคะ แต่ดีแล้วค่ะเราจะได้ยอดบริจาคเยอะๆจะได้ไปแบ่งให้น้องๆหลายบ้านได้ค่ะ” จัสมินก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะบริจาคมากหรือน้อยแค่ทุกคนอยากทำบุญช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสไม่ว่าจะเต็มใจหรือจำใจก็ถือว่ามีน้ำใจแล้ว

“เฮ้อเสร็จสักที ยัยเหมียวดูแลชุดพวกนี้ให้ดีนะอย่าให้ผิดพลาดล่ะ ป่ะเจเจ้เราไปดูชุดของหนูกันดีกว่าลูก ชุดนี้ป้าขวัญเป็นคนออกแบบเองเลยนะลูก” นัตตี้ตรวจดูชุดทั้งหมดเสร็จก็สั่งลูกน้องสาวร่างอวบระยะสุดท้ายของเธอและชวนหลานสาวไปในห้องที่กั้นไว้เป็นห้องส่วนตัวของเธอ

“จัสมินกำลังจะถามแม่นัตตี้พอดีค่ะ” จัสมินพูดแล้วเดินตามนัตตี้เข้าไปในห้องที่กันไว้เธอก็เห็นชุดราตรีเกาะอกสีทองสั้นและชุดสีขาวมันวาวเนื้อนิ่มตัวยาวแขวนอยู่บนราว

“สวยจังเลยค่ะ” จัสมินเดินไปจับชุดสีขาวแล้วคลี่ดูมันเปิดไหล่เข้ารูปจับจีบตรงเอวแล้วปล่อบชายลงระพื้นสวยงามถูกใจเธอมาก

“เจเจ้เดินสองชุดนะลูก”

“ค่ะแม่นัตตี้ งั้นจัสมินไปดูเพื่อนก่อนนะคะว่าแต่งหน้ากันเสร็จหรือยังก็ไม่รู้ค่ะ”

“จ้ะ ไปเถอะเจเจ้ก็แต่งหน้ารอเลยนะลูก เดี๋ยวป้าขวัญก็มาถึงแล้ว แม่นัตตี้จะไปตรวจดูรันเวย์สักหน่อยว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า” สองสาวต่างวัยก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง

จัสมินเดินไปหาเพื่อนรักทั้งสองที่กำลังถูกช่างแต่งหน้าช่างทำผมรุมล้อมอยู่และทักทายนางแบบที่คุ้นเคยกันเดินแบบด้วยกันบ่อยๆจนเกือบจะถึงโต้ะที่เพื่อนทั้งสองนั่งอยู่

“ว่าไงจัสมิน สบายดีเหรอ” เสียงแหลมดังขึ้นเมื่อเธอเดินผ่านคู่ปรับเก่าที่ช่างกำลังแต่งหน้าให้

“อ้าวนึกว่าใคร สบายดีอยู่แล้วล่ะ เธอก็มาเดินด้วยเหรอหนูแนน”

“ใช่ ก็แม่หนูแนนบริจาคเยอะเขาก็เลยเชิญมาร่วมเดินน่ะแล้วเธอล่ะเดินเหมือนกันเหรอ” ตรีเนตรมองจัสมินแล้วถามกลับเพราะรู้ว่าคู่แข่งรู้จักสนิทสนมกับเจ้าของแบรนด์

“ใช่ ฉันขอตัวนะ” จัสมินพูดจบก็เดินไปหาเพื่อนรักทั้งสองที่แต่งหน้ากันเกือบเสร็จแล้วเมื่อลับหลังจัสมินไปแล้วตรีเนตรก็นินทาสาวสวยทันที

“ยัยหนูแนน ว่ายังไงบ้างจัสมิน” กระแตถามเพื่อนที่เดินมานั่งข้างเธอ

“ก็ไม่ว่าอะไรแค่ถามเรื่องเดินแบบเฉยๆน่ะ”

“ไม่กล้ามีหรอกมั้ง เห็นว่าตอนนี้กำลังคั่วอยู่กับลูกชายนักธุรกิจชื่อดังอยู่นี่ ไม่แน่นะคืนนี้เราอาจจะได้เห็นกัน เพราะชีคงจะต้องพามาอวดแน่นอน” พรพรรณบอกเพื่อนเพราะกำลังตรีเนตรเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ จากนั้นสามสาวก็นั่งคุยกันทั่วไปโดยมีช่างมือหนึ่งของนัตตี้กำลังแต่งหน้าให้หลานสาวเจ้านายที่สนิทสนมคุ้นเคยกันดีอย่าสุดฝีมือ

"กริ้งงงๆๆ.."

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่หยุดแต่ไม่มีผลกับชายหญิงสองคนที่กำลังนัวเนียกันอย่างถึงพริกถึงขิงไม่ยอมผละออกจากกันกลับเร่งเร้าแรงพิศวาสให้เร่าร้อนยิ่งขึ้นจนจบเกมแล้วเกมเล่าอย่างไม่ยอมกัน

ร่างอวบขาวโพลนคร่อมทับร่างสูงของหนุ่มเจ้าสำอางพรมจูบทั่วแผงอกกำยำแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของชายหนุ่มที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ไล้ปลายลิ้นเลียวนเล็กรอบตุ่มไตสีน้ำตาลยั่วเย้าจนร่างหนาเกร็งเครียดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนางเอกสาวยังมีแรงเล่นรักกับเขาอีกแล้วชายหนุ่มจะยอมได้ยังไงล่ะ

“หืม เมื่อไหร่คุณจะกินผมล่ะฟ้า” เขาเอ่ยปากถามสาวสวยที่กำลังสำรวจเนื้อตัวของเขาอย่างใจเย็นแต่มือใหญ่กลับกดทึ้งศีรษะของสาวสวยให้ครอบครองยอดอกแข็งของเขา

“คุณรุตใจร้อนจัง จุ๊บ จ๊วบบ” สาวสวยอ้าปากอมยอดที่แข็งเป็นไตดูดดึงดุนดันปลายลิ้นพลิกพริ้วอย่างช่ำชองอีกข้างก็ใช้ปลายนิ้วขยี้อย่างเมามันส์แล้วเงยหน้าสบสายตาร้อนแรงของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel