บทที่ 2
ร่างสูงใหญ่หล่อเหลาด้วยชุดสูทสากลสีดำสนิท ก้าวขายาวแข็งแรงเข้ามาในห้างฯ พร้อมกับเลขาหนุ่มคู่ใจ หนุ่มต่างชาติทั้งสองเรียกร้องความสนใจจากสาวๆ ที่กำลังเดินช้อบปิ้งได้มากพอสมควร โดยเฉพาะหนุ่มลูกครึ่งที่ดูโดดเด่นกว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
โดมินิท เอิร์สคามอน หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน รูปร่างสูงใหญ่บึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้าม โครงหน้าสมบูรณ์แบบราวกับบุรุษเพศกรีกโรมันโบราณ ใบหน้าคมเข้ม สันกรามมีรอยแนวเคราขึ้นเขียวๆ ดูแข็งกระด้าง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเป็นสีสด ซึ่งเจ้าตัวชอบเม้มไว้เวลามีเรื่องไม่พอใจ ผมสีน้ำตาลอ่อนหยักศกเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยเป็นสีน้ำเงินเข้มคมกริบสงบนิ่งดุจน้ำทะเลปราศจากคลื่นรบกวน เรือนกายสูงใหญ่ผึ่งผายสมบูรณ์กำยำอยู่ในชุดสูทสากลสีดำเนื้อดีราคาแพง
โดมินิทคือทายาทเศรษฐีของตระกูลเอิร์สคามอนและเป็นเจ้าของธุรกิจเอิร์สคามอนกรุ๊ป บริษัทจำหน่ายและส่งออกอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา มีกิจการในเครือมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ห้างสรรพ
สินค้า ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจน้ำมัน โดยสาขาใหญ่ของเอิร์สคามอนกรุ๊ปอยู่ในประเทศอเมริกา
ชายหนุ่มเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ฉลาดเป็นกรด โดมินิทลงมือทำธุรกิจประเภทไหนไม่เคยพลาด แม้แต่ธุรกิจที่ใกล้จะล้มละลาย ถ้าได้โดมินิทเข้าไปเทคโอเวอร์เมื่อไร ธุรกิจเหล่านั้นกลับฟื้นตัวมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนต้นไม้ที่เหี่ยวเฉารอวันตาย แต่พอมาเจอน้ำเจอปุ๋ยเข้า ก็ทำให้มันรอดกลับมาเจริญเติบโตได้เหมือนเดิม
โดมินิทยังครองตัวเป็นโสด ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน ตลอดเวลาที่ผ่านมามีทั้งดารา นางแบบ หรือแม้แต่สาวไฮโซทั้งหลายพยายามแทรกเข้ามาในชีวิตของเขา บรรดาคุณแม่ไฮโซก็พยายามเสนอลูก เสนอหลานของตัวเองให้เขาพิจารณาไม่เว้นแต่ละวัน
เพราะนอกจากจะมีใบหน้าหล่อเหลา คมคาย รูปร่างสมบูรณ์กำยำกระชากใจสาวๆ แล้ว เขาเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลเอิร์สคามอน ที่รับมรดกตกทอดเป็นร้อยๆ ล้านจากทั้งฝ่ายบิดาและมรดกฝ่ายมารดา ซึ่งมรดกที่ชายหนุ่มได้รับมีมากมายจนเขาไม่จำเป็นต้องทำงานเลยก็ได้ เฉพาะดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินฝากในธนาคาร รวมกับเงินปันผลจากธุรกิจต่างๆ ที่มีอยู่ในเครือเอิร์สคามอนกรุ๊ป ก็มีมากมายเหลือเฟือ เรียกได้ว่ามีมากจนใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด
เพราะเหตุนี้จึงทำให้บรรดาสาวเล็กสาวใหญ่จ้องจับเขาให้ได้ แต่โดมินิทก็ไม่เคยสนใจใครเป็นพิเศษ เขาให้ความสนใจพวกเธอเหล่านั้นแบบผิวเผิน ชายหนุ่มไม่คิดจริงจังหรือคบกับใครเกินสองอาทิตย์ เพราะผู้หญิงคนเดียวที่เขาคิดจะสร้างครอบครัวด้วยได้หนีหายไปจากเขานานแล้ว ถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังครองตัวเป็นโสดอยู่ อาศัยความเจ้าเล่ห์ของเลขาคู่ใจเป็นคนคอยกันสาวๆ ออกไปจากชีวิตของเขา
ในทุกๆ ปี โดมินิทจะได้รับคัดเลือกให้เป็นนักธุรกิจดีเด่นแห่งปี มีการสัมภาษณ์ลงนิตยสารค่อนข้างหลายฉบับ ซึ่งคนอ่านอยากรู้คำตอบจากคำถามที่ตรงกันคือเมื่อไร ทายาทหนุ่มของเอิร์สคามอนจะยอมสละโสดสักที โดมินิทเลี่ยงคำถามนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าเขายังไม่พร้อมมีชีวิตคู่ เขายังสนุกกับงานอยู่ แต่คำตอบที่แท้จริงมีเพียงเขาและเลขาหนุ่มคู่ใจเท่านั้นที่รู้ดีว่า ที่เขาไม่ยอมแต่งงานสักทีก็เพราะเขายังรอปรีชยาพรอยู่ ซึ่งชายหนุ่มได้แต่หวังว่าสักวันเขากับปรีชยาพรอาจจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในวันข้างหน้า...
คาเมล เฟิร์สคาดี้ หนุ่มวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ดูหล่อเหลาไม่แพ้กับเจ้านาย เขาเป็นทั้งลูกน้องเป็นเพื่อนและบอร์ดี้การ์ดส่วนตัว คาเมลมีรูปร่างเตี้ยกว่าเจ้านายไม่กี่นิ้ว ใบหน้าคมเข้มคล้ำแดด แบบคนที่เคยฝึกภาคสนามมานาน ดวงตาสีน้ำตาลมีแววเจ้าเล่ห์ แต่โหดเหี้ยมในตัวเมื่อมีภัยมาเยือนคนในตระกูลเอิร์สคามอน ริมฝีปากเป็นสีเข้มมีรอยยิ้มติดอยู่ตรงมุมปากตลอดเวลา
คาเมล เป็นลูกน้องที่รู้ใจโดมินิทที่สุด เพราะถูกเลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่เด็กโดยมาดามโรสลินแม่ของโดมินิท พอโตขึ้นมา คาเมลก็รับช่วงดูแลเรื่องความปลอดภัยของโดมินิทต่อจากเฟอกี้ด์ เฟิร์สคาดี้ พ่อของเขา ซึ่งตอนนี้เกษียณอายุงาน เพื่อท่องเที่ยวรอบโลกตามที่ตั้งใจไว้ คาเมลเป็นเลขาที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด เขาไม่เคยทำงานพลาดแม้แต่ครั้งเดียว ยกเว้นเรื่องการตามหาปรีชยาพรคนรักของเจ้านาย ซึ่งตลอดเวลาเกือบหกปีที่ผ่านมา คาเมลตามหาปรีชยาพรไม่เคยพบเลย แม้จะพยายามจ้างนักสืบที่เก่งกาจแค่ไหนก็ไม่สามารถสืบหาร่อง
รอยคนรักเจ้านายได้ ซึ่งเป็นงานเดียวที่คาเมลได้รับมอบหมายจากเจ้านายแล้วเขาทำไม่สำเร็จจนไม่อยากให้อภัยตัวเอง
นอกจากคาเมลจะเป็นเลขาให้โดมินิทแล้ว เขายังเป็นการ์ดลับๆ ที่คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้โดมินิทด้วย เพราะโดมินิทไม่ชอบจ้างบอร์ดี้การ์ดให้คอยเดินตาม คาเมลเลยจำเป็นต้องไปฝึกหลักสูตรการเป็นบอร์ดี้การ์ดเพิ่มเติมนานถึงสองปี เพื่อมาทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ เคยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกาหลายบริษัทพยายามขอซื้อตัวคาเมลด้วยราคาแพงลิบลิ่ว เพื่อให้เขาไปทำงานด้วย แต่คาเมลกลับไม่เคยสนใจ เขาจงรักภักดีกับตระกูลเอิร์สคามอนเสมอ เพราะตั้งแต่เขาจำความได้ มาดามโรสลินเลี้ยงดูเขาอย่างดี ไม่เคยคิดว่าเขาเป็นแค่ลูกของลูกน้อง มาดามรักและเลี้ยงคาเมลเหมือนเป็นลูกของตัวเอง มาดามรักโดมินิทและคาเมลเท่าๆ กัน
สมัยเด็กๆ ถ้าโดมินิทได้ของเล่นราคาแพงแค่ไหน เขาก็จะได้รับของเล่นชนิดเดียวกัน มาดามให้เขาเรียนไฮสคูลในโรงเรียนเดียวกันกับโดมินิท พอถึงระดับมหาวิทยาลัย มาดามก็บอกเขาว่าถ้าเขาสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดได้ มาดามก็จะให้เขาเรียนที่ฮาร์เวิร์ดเหมือนกับโดมินิท เมื่อเขาเรียนจบและเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจของเอิร์สคามอนกรุ๊ปกับโดมินิท นอกจากมาดามจะให้เงินเดือนที่ค่อนข้างสูงแล้ว มาดามยังให้เขาถือหุ้นของกิจการในเครือเอิร์สคามอนกรุ๊ปอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์
เพียงแค่นี้ก็ทำให้เขาอยู่ได้อย่างสบายๆ ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินจนต้องดิ้นรนขายตัวเองให้กับบริษัทคู่แข่ง โดมินิทเองเวลาอยู่ด้วยกันในสถานที่ส่วนตัว เจ้านายหนุ่มจะให้ความสนิทสนมกับเขาเหมือนพี่กับน้อง แต่ถ้าอยู่ในสถานที่สาธารณะหรือในที่ทำงาน โดมินิทจะเป็นเจ้านายที่เข้มงวด เด็ดเดี่ยว เที่ยงตรง ดวงตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววแข็งกร้าว คมกริบจนทำให้ลูกน้องหลายๆ คนนึกขยาด
“คาเมล เรื่องที่สั่งไปได้ความว่าอย่างไรบ้าง”
โดมินิทหันหน้าไปถามลูกน้องคู่ใจ ตอนนี้เขากับคาเมลกำลังเดินสำรวจห้างสรรพสินค้าแห่งนี้อยู่ โดยเริ่มสำรวจตั้งแต่ชั้นหนึ่ง เพราะเขากำลังตัดสินใจว่าจะเทคโอเวอร์กิจการของห้างฯ แห่งนี้ดีหรือเปล่า
“เอาเรื่องไหนก่อนครับเจ้านาย เรื่องคุณหมู เรื่องบริษัทที่อเมริกาหรือเรื่องห้างฯ ที่เรากำลังจะเทคโอเวอร์”
“นายก็รู้ว่าเราต้องการรู้เรื่องอะไรมากที่สุด”
โดมินิทเอ่ยพูดเสียงราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาทั้งๆ ที่จริงแล้ว เขาอยากรู้เรื่องคนรักมากที่สุด มาเมืองไทยคราวนี้เขาตั้งใจจะตามหาปรีชยาพรให้เจอ แม้จะต้องพลิกแผ่นดินตามหาก็ตามที
“ไม่รู้ครับเจ้านาย เพิ่งลงจากเครื่องบิน ผมยังเหนื่อยอยู่เลยครับ”
คาเมลพูดเล่นลิ้นอยากแกล้งเจ้านายเล่น จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรมากมาย เพราะพวกเขาเดินทางมาเมืองไทยด้วยเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันทุกอย่าง
“ไอ้คาเมล! ถ้ายังเล่นลิ้นอยู่ นายได้เจอดีแน่”
เจ้านายหนุ่มตวาดลูกน้องคู่ใจด้วยความโมโห และถ้าหากถอดแว่นตาสีดำออก คาเมลคงเห็นดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่ถลึงตาจ้องมองเตรียมจะแผดเผาลูกน้องจอมยียวนด้วยสายตาคู่นี้
“ผมลองไปถามเพื่อนๆ คุณหมูแล้ว ไม่มีใครรู้ที่อยู่ หรือได้ข่าวคุณหมูเลยครับ”
“หมูไม่ติดต่อเพื่อนๆ เลยหรือ”
โดมินิทสงสัย เพราะเขาจำได้ว่าปรีชยาพรมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งชื่อแพมเป็นเพื่อนที่ปรีชยาพรสนิทและก็พูดถึงบ่อยที่สุด
“ไม่ติดต่อใครเลยครับ เพื่อนๆ ที่ทำงาน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพอคุณหมูกลับจากอเมริกา เธอก็ซึมเศร้าไม่ค่อยพูดกับใคร คุณหมูทำงานต่อได้แค่เดือนเดียวก็ลาออกและย้ายที่อยู่ใหม่ ขนาดเพื่อนที่ว่าสนิทกันมากๆ ก็ไม่มีใครรู้เลยครับว่าคุณหมูย้ายไปอยู่ที่ไหน”
คาเมลเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะเห็นว่าสีหน้าเจ้านายหนุ่มเริ่มเครียดขึ้นกว่าเดิม ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากันแน่น
“ญาติพี่น้องเธอละ นายไปถามดูหรือยัง” โดมินิทเอ่ยอย่างพอมีความหวังอยู่บ้าง
“กำลังให้นักสืบ สืบอยู่ครับ คิดว่าน่าจะรู้ภายในสองสามวันนี้แหละครับ”
“นายสั่งให้เขาทำงานเต็มที่ เราต้องการคำตอบภายในสองวัน และที่สำคัญเราอยากรู้ว่าคุณหมูมีครอบครัวหรือยัง...” ในตอนท้ายโดมินิทพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิวจนคาเมลจับความรู้สึกได้
“โดมินิท”
คาเมลเรียกชื่อเจ้านายด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเห็นใจ ปกติแล้วถ้าอยู่ในสถานที่สาธารณะแบบนี้ เขาจะไม่เคยเรียกชื่อจริงเจ้านายเลย แต่ถ้าเมื่อใดที่เขาเรียกชื่อจริงออกมาแสดงว่ากำลังต้องการพูดในฐานะคนที่เป็นน้อง
“ถ้าพี่รู้ว่าคุณหมูมีครอบครัวแล้วพี่จะรับได้ไหม” คาเมลไม่อยากเอ่ยถามคำถามนี้เลย แต่เขาก็อยากให้โดมินิทเตรียมใจไว้บ้าง
“ถ้าคุณหมูมีครอบครัวแล้วเราอาจจะกลับไปอเมริกาเหมือนเดิม หรือไม่เราก็จะรอจนกว่าคุณหมูไม่มีพันธะแล้ว“
โดมินิทเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบากว่าเดิม แถมน้ำเสียงที่เปล่งออกมาแทบจะไม่พ้นลำคอด้วยซ้ำไป
คาเมลฟังแล้วรู้สึกสะเทือนใจ เขาให้สัญญากับตัวเองว่าจะตามหาปรีชยาพร ให้เจอโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรเขาก็ยอม
“แล้วเรื่องห้างฯ นี้ละเป็นยังไงบ้าง” โดมินิทพักเรื่องส่วนตัวไว้สักครู่ พยายามปรับอารมณ์ให้เข้ากับเรื่องงาน
“ตามข้อมูลที่ฝ่ายบัญชีแจ้ง กิจการก็มีกำไรดีอยู่ในระดับหนึ่งครับ”
เลขาหนุ่มเอ่ยบอก พลางกดเข้าไปที่มือถือขนาดเล็กแต่ทรงประสิทธิภาพ ใบหน้าคล้ำแดดก้มดูข้อมูลที่ได้รับจากฝ่ายบัญชี แล้วเอ่ยรายงานเจ้านายหนุ่มต่อ
“ข้อมูลปีล่าสุดเลยนะครับ กำไรประมาณห้าสิบหกล้าน มีร้านทั่วไปเช่าเต็มพื้นที่ มีลานกิจกรรมอยู่ตรงกลางห้างฯ ชั้นสองแบ่งพื้นที่ให้เช่าเหมือนกันครับ มีซุปเปอร์มาเก็ตเช่าด้านปีกซ้ายของห้างฯ ชั้นสามเป็นแผนกเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ส่วนชั้นสี่เป็นแผนกเด็กมีสวนสนุกด้วย และชั้นห้าเป็นศูนย์อาหารกับโรงหนังครับ” คาเมลเอ่ยรายงาน ขณะก้าวขายาว ๆ เดินตามเจ้านายไปเรื่อย ๆ
“ทำเลเป็นไงบ้าง”
“ทำเลดีครับ อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เดินทางมาได้สะดวก มีรถประจำทางผ่านหลายสาย และข้างๆ ห้างฯ ก็มีโรงแรมกับสถานบันเทิงตั้งอยู่ใกล้ๆ กันหลายแห่งครับ”
“วันธรรมดาคนเข้าเยอะไหม”
“พอสมควรครับ ตามรายงานเขาบอกว่าห้างฯ นี้ มีคนเข้าเยอะตลอดทั้งสัปดาห์ครับ” เลขาคู่ใจยังดูข้อมูลผ่านโทรศัพท์ ริมฝีปากสีเข้มเอ่ยรายงานไปเรื่อยๆ
“ผลประกอบการได้กำไรทุกปีเลยหรือ” โดมินิเริ่มสนใจขึ้นมาบ้าง ดวงตาสีน้ำเงินเข้มภายใต้กรอบแว่นตาสีดำฉายแววฉลาดขึ้นมาก่อนจะเอ่ยต่อ
“เท่าที่เรารู้มาสองสามปีให้หลัง ได้กำไรอยู่ที่สิบล้านต้นๆ ไม่ใช่หรือ และในบางปีก็ขาดทุนด้วยซ้ำไป”
“ครับ เจ้านายนี่สุดยอดจริงๆ “ คาเมลเอ่ยชมพลางยกมือชูนิ้วโป้งให้
เจ้านายหนุ่มด้วย
“ข้อมูลปีล่าสุดที่นายได้เขาแต่งบัญชีใช่ไหม”
โดมินิทเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผนังกระจกใสของห้างฯ ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์รถราที่วิ่งอยู่บนถนนได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่มถามเลขาคู่ใจแบบคนที่รู้ทันเกมธุรกิจ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มไหววูบแข็งกร้าวขึ้นมาทันที เขาเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่อายุยังไม่ครบสิบห้าปีดี และเข้ามารับช่วงดูแลธุรกิจตั้งแต่อายุยี่สิบหก หลังจากพ่อ แม่ ประสบอุบัติเหตุเครื่องบนตกเมื่อประมาณหกปีก่อน หลังจากสูญเสียพ่อ แม่ไป เขาก็ขึ้นเป็นผู้บริหาร
เอิร์สคามอนกรุ๊ปเต็มตัว ทำให้เห็นเล่ห์เหลี่ยมกลโกงทางธุรกิจมากมาย บางกิจการที่เขากำลังจะเทคโอเวอร์ก็ทำบัญชีปลอมหลอกว่ามีกำไร เพื่อจะขายกิจการให้ได้ในราคาแพงขึ้น
และถ้าหากพ่อแม่ไม่ด่วนจากเร็วเกินไป ป่านนี้เขาคงยังไม่ได้รับตำแหน่งประธานเอิร์สคามอนกรุ๊ป เขาคงสนุกอยู่กับการใช้ชีวิตคู่ร่วมกับปรีชยาพร แต่สิ่งที่เขาต้องการได้เป็นไปตามที่หวังไว้ไม่ เพราะในวันที่เขาสูญเสียพ่อแม่ไปพร้อมๆ กัน เขาก็ต้องสูญเสียคนรักไปด้วย ซึ่งเวลาผ่านไปเกือบหกปีแล้ว เขายังไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดปรีชยาพรถึงหนีไปจากเขา
เพราะตลอดสัปดาห์ที่อยู่ด้วยกันในอเมริกา ปรีชยาพรแสดงออกให้เห็นตลอดเวลาว่ารัก เอาอกเอาใจเขาทุกอย่าง เขายังจำสายตาคู่สวยได้ดี โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ด้วยกัน สองคน หญิงสาวจะมองตอบด้วยสายตาเขินอาย
อยากรู้อยากเห็นในทุกสิ่งที่เขากำลังพร่ำสอน