ถูกขายใช้หนี้
หลังจากที่ขายกับข้าวหมดแล้ว หญิงสาวก็เก็บของใส่รถเข็นแล้วเดินกลับบ้าน รถเข็นขายกับข้าวนี้ เธอเก็บเงินอยู่เป็นเดือนเลยกว่าจะซื้อมาเป็นอุปกรณ์ช่วยหาเงินได้
แต่ถึงแม้ว่าวันนี้จะขายกับข้าวหมดเร็ว และได้กลับบ้านเร็ว แต่เธอก็ไม่มีความสุขเลย ไม่รู้ว่ากลับบ้านไปแล้วจะโดนแม่เลี้ยงของเธอดุด่าอะไรอีกไหม ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำอะไรก็ตาม แม่เลี้ยงของเธอก็มักจะหาเรื่องมาตบตีเธอจนได้
“กลับมาแล้วเหรอ ขายได้เท่าไหร่ล่ะวันนี้ ไหน….เอาเงินมาให้ฉันสิ” ชมนาถ แม่เลี้ยงของเธอเอ่ย ก่อนจะไปกระเป๋าใส่เงินที่เธอสะพายไว้มา
“แม่ค่ะ พรุ่งนี้หนูว่าจะทำกับข้าวเพิ่มอีก แม่เหลือเงินเพิ่มให้หนูได้มั้ยคะ” เธอดึงรั้งกระเป๋าไว้ก่อน แล้วเอ่ยขอร้องออกไป
“ฉันเหลือให้แกได้แค่ 300 เท่านั้นแหละ” นางหยิบเงิน และนับเงิน 300 ยัดใส่กระเป๋าตามเดิมก่อนจะโยนคืนให้กับลูกเลี้ยง
“มันไม่พอหรอกค่ะแม่ แค่ 300 ก็ทำกับข้าวได้แค่สองอย่างเท่านั้นเอง”
“แกอยากได้เงินเพิ่ม แกก็ขายให้น้อยลงสิ ส่วนไอ้ราคากับข้าว 20 บาทของแกน่ะ มันจะไปพอยาไส้อะไร คนอื่นเขาขายกันถุงล่ะ 30-40 บาทนู้น”
“งั้นไม่เป็นไรค่ะ หนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอไม่อยากเถียงอะไรต่อ เพราะหากเถียงต่อไปก็จะทำให้เธอเจ็บตัวเสียเปล่า ในเมื่อรู้ดีอยู่แก่ใจแล้วว่า ยังไงแม่เลี้ยงของเธอก็ให้เธอเพียงเท่านี้
“เดี๋ยวก่อน”
“แม่มีอะไรอีกคะ”
“พรุ่งนี้แกไม่ต้องไปเรียนนะ ฉันจะพาแกไปฝากงาน”
“แต่พรุ่งนี้หนูมีสอบค่ะ วันสุดท้ายแล้วก่อนปิดภาคเรียน เอาไว้เป็นวันมะรืนได้มั้ยคะ”
“งั้นก็เอาตามนั้นแล้ว วันมะรืนฉันจะพาแกไปฝากงาน”
อริสราเรียนอยู่ชั้นปวช.ปี 2 ตอนนี้เธออายุ 17 ย่างเข้า 18 ปีแล้ว เธอเลือกที่จะเรียนสายอาชีพ สาขาวิชาการบัญชี เธอทั้งตั้งใจเรียนและทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนไปด้วย ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่การเรียนของเธอก็ไม่ได้ตกเหมือนกัน
เมื่อเธอสอบเสร็จแล้ว เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าชะตากรรมของเธอหลังจากนี้จะเป็นยังไง แม่เลี้ยงของเธอได้วางแผนไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ว่าจะเอาเธอไปขายให้กับเจ้าหนี้ เพราะไม่มีปัญญาคืนเงินที่หยิบยืมมาได้
หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงไปในทันที เมื่อมารู้ว่าแม่เลี้ยงของเธอจะเอาเธอไปขายเพื่อชดใช้หนี้ที่ก่อขึ้น และเธอจะไม่ได้เรียนหนังสืออีกแล้ว
“แม่จ๋า อย่าทํากับหนูอย่างนี้” เสียงคร่ำครวญจากเด็กสาวร่างเล็ก ไม่ได้ทําให้ผู้เป็นแม่เลี้ยงใจอ่อนเลยแม้แต่น้อย ยังคงลากผู้ที่มีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ซึ่งมีสตรีผอมสูงนั่งรออยู่บนโซฟา
“วันนี้เธอจะมาจ่ายเงินคืนฉันใช่ไหม คงจะไม่ผลัดวันประกันพรุ่งอีกนะ ไม่งั้นฉันจะให้กฏหมายจัดการกับเธอแทน” ดุสิตาถาม แกมข่มขู่
“ฉันไม่มีเงินหรอกค่ะคุณหญิง” ชมนาดผลักเด็กสาวจนล้มลงกองที่พื้น “ฉันขอยกเด็กคนนี้ให้แทนเงินต้นและดอกเบี้ยก็แล้วกัน ฉันไม่มีปัญญาเลี้ยงมันแล้ว และไม่มีปัญญาหาเงินมาคืนให้คุณหญิงด้วยเช่นกัน เด็กคนนี้มันทำได้ทุกอย่าง คุณหญิงจะเอามันไปทำยังไงก็ได้ แล้วแต่คุณหญิงเลย”
“เธอติดหนี้ฉันหนึ่งล้าน ถึงกําหนดแล้วก็ต้องคืนเงินให้ฉันสิ ไม่ใช่ว่าจะเอาเด็กมาให้เป็นภาระฉันอีก เธอคิดว่าเด็กคนนี้จะสามารถหาเงินมาชดใช้แทนเธอได้อย่างเหรอ” ดุสิตาชักสีหน้าไม่พอใจ
“มันไม่เป็นภาระหรอกค่ะ จะให้มันทำงานอะไรก็ได้ ให้มันไปทํางานให้ฟรี ๆ จนตายแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีกนะคะคุณหญิง ไม่ต้องให้เงินเดือนมันก็ได้ ขอแค่ให้มันได้กินข้าววันละมื้อก็พอ เด็กคนนี้มันกินไม่เยอะหรอกค่ะ ได้คนใช้เพิ่มอีกหนึ่งคนโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้มัน แบบนี้มันไม่คุ้มตรงไหนคะ”
อริสราได้ยินแล้วถึงกับสะอื้น ไม่คิดไม่ฝันว่าแม่เลี้ยงของเธอจะทำกับเธอถึงขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดูแลอะไรเธอเลย ไม่เคยหาเงินส่งเสียให้เธอเลยแม้แต่น้อยด้วยซ้ำ เป็นเธอต่างหากที่เป็นคนหาเงินให้แม่เลี้ยงใช้ แล้วแบบนี้ยังจะเอาเธอมาขาย แล้วบอกว่าเธอเป็นภาระแก่ตัวเองอีก
ในตอนนี้ใบหน้าเธอมอมแมม มีแต่คราบน้ำตา ดวงตาแดงซ้ำเพราะร้องไห้ เธอมองแม่เลี้ยงอย่างผิดหวัง
ตั้งแต่แม่เธอตายไปพ่อก็มีเมียใหม่คือชมนาด...ซึ่งไม่ยอมหยิบจับทํางานอะไรเลย นอกจากผลาญเงินเล่นไปวัน ๆ
แล้วไม่รู้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรนักหนา พ่อเธอต้องมาประสบอุบัติเหตุขณะที่ทำงานอีก ทิ้งเธอให้อยู่กับแม่เลี้ยงที่ไม่เคยรักเธอ และยังคอยรังแกเธออยู่ตลอด
เธอโดนบังคับให้เลิกเรียนทันทีตั้งแต่เรียนจบ ม.3 แต่ครั้งนั้นยังดีที่พ่อของเธอช่วยพูดให้ เธอเลยต้องเก็บเงินเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนต่อในชั้น ปวช. ต้องมีหน้าที่ทํางานบ้านทุกอย่าง และยังทำกับข้าวขายหลังเลิกเรียนอีก
ท้ายที่สุดก็พาเธอมาที่นี่...เอาเธอมาขายให้คนอื่นง่าย ๆ ทําเหมือนกับว่าเธอเป็นเพียงลูกหมาตัวหนึ่งเท่านั้น